ข่าวเด่น ฐานชุมพร

จับหนุ่มใหญ่เมายาบ้าขับกระบะหัวร้อนชักปืนยิงขู่บนถนน

หนุ่มใหญ่เมายาบ้าขับกระบะหัวร้อนชักปืนยิงขู่เพื่อนร่วมทางก่อนจะแซงปาดหน้าลงมาทะเลาะ ตำรวจเข้าระงับเหตุตรวจในรถเจอปืนเถื่อน ยาบ้า ตรวจพบฉี่ม่วง

เมื่อเวลา 16.30.น.วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ร.ต.อ.คงฤทธิ์ จันทะมูล รอง สวป.สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองชุมพร เกิดเหตุคนขับรถยนต์สองคันทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนข่มขู่กันบริเวณสี่แยกปฐมพร ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.ต.ประจวบ ล้อมสมบัติ รอง สวป. ด.ต.สมชาติ ยังวัฒนา ผบ.หมู่งานปราบปราม และกำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบชายสองคนยืนทะเลาะอยู่บนเกาะกลางถนน ริมถนนสายเอเชีย 41 บริเวณหน้าตลาดสด ทางแยกเข้าเมืองชุมพร จึงเข้าตรวจสอบทราบชื่อนายสาธิต ลิลิตพจน์ อายุ 50 ปี บ้านอยู่ตำบลป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์กระบะสีบอรนเงิน ตอนครึ่ง ยี่ห้อมาสด้า หมายเลขทะเบียน บย 9799 ชุมพร ด้านหลังกระบะบรรทุกลังอุปกรณ์เครื่องมือและถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ส่วนคู่กรณีทราบชื่อคือ นายกมลวิทย์ เคียงสุนทรา อายุ 40 ปี บ้านอยู่ตำบลหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์กระบะตอนครึ่งสีบอร์นทอง ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บว 8483 สงขลา บริเวณกระบะหลังบรรทุกท่ออลูมิเนียม มาเต็มคัน

สอบถามนายกมลวิทย์ ทราบว่าตนเองได้ขับรถมาจาก จ.สงขลา โดยใช้ถนนสายเอเชีย 41 ขาขึ้น เพื่อจะไปส่งสินค้าให้กับลูกค้าที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์  ขณะขับมาถึงพื้นที่ตำบลวิสัย อ.เมือง จ.ชุมพร ได้พบเหตุรถกระบะ สีบอรนเงิน ตอนครึ่ง ยี่ห้อมาสด้า หมายเลขทะเบียน บย 9799 ชุมพร คาดมีเรื่องทะเลาะกับรถบรรทุกพ่วงกันมา โดยรถยนต์กระบะซึ่งขับอยู่ด้านหน้าในลักษณะขับขวางหน้าและพยายามเบรกเพื่อให้รถบรรทุกพ่วงชน ซึ่งตนเองได้เห็นรถยนต์กระบะทำแบบนี้อยู่นานมาก ในช่องจราจรด้านขวา ทำให้รถติดกันเป็นทางยาว

นายกมลวิทย์ เล่าว่าจนกระทั่ง ตนเองมีโอกาสได้แซงขึ้นทางช่องจราจรด้านซ้าย และมีรถคันอื่นขับแซงตามขึ้นกันมาเป็นแถวยาวแต่ไม่นานรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ได้ขับไล่หลังมาและพยายามจะแซงขึ้นหน้ารถของตนเอง แต่ด้วยรถซึ่งวิ่งกันมาเป็นแถวยาว ไม่สามารถแซงเข้ามาได้ ทำให้รถกระบะคันก่อเหตุ พยายามจะแซงเข้ามาให้ได้ และพยายามขับเบียด เพื่อจะแซงหน้าให้ได้ เป็นช่วงที่รถได้ไหลลื่นทำความเร็วได้ ตนเองเลยขับรถไปโดยไม่ได้คิดอะไร แต่ไม่นานก็สังเกตเห็นรถกระบะคันที่พยายามจะแซงหน้า ได้ขับไล่หลังมาและขับจี้เหมือนจะชนท้าย ทำให้ตนเองต้องเร่งความเร็วหนี แต่รถกระบะคันดังกล่าวยังไม่ลดละ ขับไล่มาติดๆพร้อมบีบแตรไล่ ก่อนที่จะชักอาวุธปืนออกมานอกรถ และได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา 1 นัด ตนเองเห็นท่าไม่ดี ขับเลี้ยวเข้าเมืองชุมพร พร้อมหยิบโทรศัพท์โทรแจ้งไปยังศูนย์วิทยุ 191 เป็นช่วงเดียวที่รถกระบะคันดังกล่าวขับแซงขึ้นมาและปาดหน้า พร้อมเบรกรถกะทันหัน จนรถตนพุ่งชนท้าย และต้องจอดรถ โดยมีคนขับรถคันก่อเหตุเปิดประตูลงมา แต่โชคดีที่จอดในเขตชุมชน มีผู้คนจำนวนมาก  ทำให้นายสาธิต ไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่าด่าทอตนเอง จนไม่นานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาระงับเหตุดังกล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจค้นภายในรถของนายสาธิต ซึ่งก็พบอาวุธปืนพกสั้น ชนิดออโตเมติก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก เลขทะเบียนปืนเลอะเลือน พร้อมเครื่องกระสุน ขนาด 9 มม.จำนวน 9 นัด บรรจุอยู่ในแมกกาซีน จึงยึดไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้จากการตรวจค้นภายในรถ ยังพบยาบ้า จำนวน 90 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส จำนวน 2 ถุง ซุกอยู่ในกล่องไฟฉาย เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวนายสาธิต มาสอบปากคำที่ สภ.เมืองชุมพร

เบื้องต้น นายสาธิต ให้การรับสารภาพว่า อาวุธปืนเป็นของเพื่อนให้มา แต่จำไม่ได้ว่าเป็นใคร และยาบ้าทั้งหมด เป็นของตนเอง ที่เพิ่งซื้อมา จากนายนิด นามสมมุติ  แถว ต.วิสัย อ.เมือง จ.ชุมพร จำนวน 100 เม็ด ในราคาเม็ดละ 40 บาท และได้เสพไปแล้ว 10 เม็ด ก่อนจะขับรถออกมาเพื่อจะเดินทางไปหน้างาน เพื่อไปทำงานขุดบ่อบาดาลให้กับลูกค้า แต่ระหว่างทางได้พบรถบรรทุกพ่วงขับกีดขวาง และยังมาเสียอารมณ์กับรถกระบะที่ไม่ยอมให้ ตนเองแซง เลยก่อเหตุขึ้นดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะ พบเป็นสีม่วง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต/พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร/มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน)โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.