เกษตรกรปลูกพืชกระท่อมโอดปลดล็อคใหม่ๆ กก.กว่า 500 บาท ปัจจุบันเหลือแค่ร้อยกว่า อนาคตราคาอาจดิ่งเหว
กระแสพืชกระท่อม ซี่งเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของภาคใต้ หลังจากถูกปลดล็อคออกจากยาเสพติดประเภท 5 จนกลายเป็นที่นิยมปลูกของชาวบ้านและเกษตรกรกันเกือบทุกครัวเรือน ช่วงที่พืชกระท่อมผิดกฎหมายมีการลักลอบซื้อขายกันในราคากิโลกรัมละ 800-1500 บาท แต่เมื่อมีการปลดล๊อคให้พืชกระท่อมไม่เป็นยาเสพติดประเภท 5 อีกต่อไป หลังปลดล็อคช่วงแรก ๆ ราคาขายขายจะอยู่ที่กิโลกรัม 400-500 บาท ปัจจุบันมีการปลูกกันจำนวนมากแทบทุกบ้าน ทุกจังหวัด ทำให้ราคาตกลงมาเหลือเกิโลกรัมละ 130-150 บาท เท่านั้น
นางไตรมาศ หาสุข อายุ 56 ปี นายบุญจริง ขวัญทองอินทร์ อายุ 59 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 79/1 หมู่ที่ 8 ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร หนึ่งในครอบครัวที่ปลูกพืชกระท่อมเพื่อเป็นอาชีพเสริมหารายได้เลี้ยงครอบครัว ช่วยกันเก็บเกี่ยวใบกระท่อมนสวนซึ่งโตเต็มที่สามารถเก็บเกี่ยวส่งขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อถึงในสวนของตนเอง
นางไตรมาศ เปิดเผยว่าที่ดินของตนเองมีอยู่ประมาณ 4 ไร่เศษ มีปลูกทั้งมะพร้าว ทุเรียน กล้วย รวมทั้งพืชกระท่อมที่ขยายปลูกเสริมเพิ่มเติมหลังจากปลดล็อกจำนวน 100 ต้น ก่อนหน้านี้ ใบกระท่อมมีราคาดีมากกิโลกรัมละกว่า 300 บาท ในแต่ละวันตนพร้อมสามีจะออกมาเก็บใบกระท่อมส่งพ่อค้าที่มารับซื้อถึงสวน โดยเฉลี่ยวันหนึ่งจะเก็บได้ถึง 30-40 กก. แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งตนก็ทำใจไว้ก่อนแล้ว เพราะปัจจุบันมีปลูกกันแทบทุกบ้าน ทุกจังหวัด ราคาก็ตกลงและยิ่งในช่วงนี้แต่ละต้นใบออกมากเพราะได้ฝนก็ยิ่งทำให้ล้นตลาด โดยราคาตอนนี้ใลคละอยู่ที่กิโลกรัมละ 130-150 บาท
นางไตรมาศ บอกว่าหากถามว่าอยู่ได้ไหม ก็ตอบได้เลยว่าอยู่ได้เพราะต้นกระท่อมไม่ต้องดูแลมาก ใส่ปุ๋ยเดือนละครั้งและค่อยดูแลหนอนกินใบเท่านั้น และตนก็เก็บเกี่ยวผลผลิตเองไม่ได้จ้างใคร ส่งขายพ่อค้าได้เฉลี่ยวันละ 30 กิโลกรัม เป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัวสบายๆมีรายได้ตกวันละ 500 บาท
ด้านนายกัมพล ยศแก้ว พ่อค้ารับซื้อใบกระท่อมจากสวนส่งขายต่างจังหวัด เปิดเผยว่าต้องยอมรับว่าช่วงนี้ราคาใบกระท่อมลงมาแบบดิ่งเหว ชาวสวนบางรายรับไม่ได้กับราคาขณะนี้ ซึ่งตนเองมองว่า ใบกระท่อมเป็นพืชสมุนไพร ที่รักษาโรคได้ ภาครัฐน่าจะคิดแก้ไขเพื่อหาวิธีนำใบกระท่อมมาแปรรูป ไม่ว่าจะทำมาในรูปใดก็ตาม ซึ่งก็จะช่วยให้ชาวสวนที่หันมาปลูกกระท่อม ซึ่งขณะนี้ยังมีพืชกระท่อมที่ปลูกไว้อีกจำนวนมากจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว จะได้มองเห็นอนาคตว่าลงทุนปลูกแล้วก็น่าจะมีตลาดรองรับผลผลิตจากชาวสวนผู้ปลูกกระท่อมด้วย.