ฐานชุมพร อาชญากรรม

จับเจ้าของบ้านรังนกนางแอ่น ผิดกฎหมายสัตว์ป่าคุ้มครอง

สนธิกำลังตรวจสอบจับเจ้าของบ้านรังนกนางแอ่นผิดกฎหมาย ตรวจยึด อายัด ของกลางจำนวนมาก หลังชาวบ้านร้องเรียน เสียงดัง กลิ่น มูล ไร ส่งผลกระทบชุมชนอย่างรุนแรง

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 23 พ.ค.61 นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว นายพรชัย สิทธิเกษตร เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส หัวหน้าสาตรวจคุ้มครองสัตว์ป่าสายที่ 2 จ.ชุมพร พ.ต.ท.อภิชาติ เรนชนะ รอง ผกก.ป.สภ.มาบอำมฤตนายวิทยา สุวรรณสิทธิ์ ปลัดอำเภอปะทิว  นายกิตติพงษ์ โสมณะ ปลัดอำเภอปะทิว นายปานนท์ วงศ์ทิพย์พันธ์ ปลัดเทศบาลปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลมาบอำมฤต นายจิรวัฒน์ โพธารส นิติกรชำนาญการ เทศบาตำบลมาบอำมฤต นายอภิชัย ศรีสุวรรณ สาธารณสุขอำเภอปะทิว นายกิตติศักดิ์ วายุนิจ สัตวแพทย์ชำนาญการ อำเภอปะทิว  พ.ต.อนุชาติ บุญยศิลป์ สัสดีอำเภอปะทิว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ อส. และหน่วยงานเกี่ยวข้อง กว่า 20 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านรังนกนางแอ่น ในเขตเทศบาลตำบลมาบอำมฤต อ.ปะทิว จ.ชุมพร หลังมีชาวบ้านจำนวนมากร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งส่วนภูมิภาคและส่วนกลาง จากกรณีมีผู้ประกอบการสร้างขยายต่อเติมดัดแปลงอาคารเป็นบ้านรังนกนางแอ่นอย่างผิดกฎหมายทำให้ได้รับความเดือดร้อนทั้งเสียงดัง กลิ่น มูล ตัวไร เชื้อโรค จนส่งผลกระทบสุขภาพกายและสุขภาพผู้อยู่อาศัยในชุมชนอย่างรุนแรง

โดยจุดแรกตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 13 เขตเทศบาลตำบลมาบอำมฤต อ.ปะทิว ซึ่งก่อสร้างเป็นอาคารสูง 4ชั้น อยู่กลางตลาดย่านชุมชน ซึ่งบนอาคารมีนกนางแอ่นหลายหมื่นตัวบินวนเวียนเขาออกอยู่ภายในอาคารจำนวนมาก โดยมีนายทรงศักดิ์ จุฑาสุโกศล อายุ 56 ปี เจ้าของร้านมิตรอะไหล่ยนต์ แสดงตนเป็นเจ้าของอาคารให้ความร่วมมือยินยอมนำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พบว่าชั้นล่างทำเป็นโกดังเก็บสินค้าอะไหล่รถยนต์ มีการต่อเติมจากเดิม 3 ชั้น 4 ชั้น โดยชั้นที่ 4 ได้ต่อเติมอิฐบล็อกกั้นเป็นห้องทึบ จากการตรวจสอบตั้งแต่ชั้น 2,3,4  มีนกนางแอ่นอยู่จำนวนมากนับหมื่นตัว ที่บริเวณผนังเพด้านห้องแต่ละชั้นมีการนำแผ่นไม้ระแนงกว้างประมาณ 6 นิ้ว มาติดตั้งเรียงกันเป็นแนวยาวเว้นช่องห่างกันประมาณ 1 คืบ โดยมีนกนางแอ่นมาเกาะทำรังอยู่เกือบทุกตารางนิ้ว ซึ่งทุกชั้นมีการปรับแต่งภูมิทัศน์และอุณหภูมิให้มีความเย็นเหมือนกับอยู่ในถ้ำมืดสนิทไม่มีแสงลัดลอดเข้าไปได้ บนพื้นห้องและฝาผนังมีขี้นกจำนวนมากกระจายเกลื่อนไปทั่วส่งกลิ่นเหม็นฉุนอย่างรุนแรง ส่วนชั้น 4 บนสุดที่มีการต่อเติมขึ้นไป มีการเจาะทำช่องสี่เหลี่ยมขนาด 24×24 นิ้ว ไว้สำหรับให้นกนางแอ่นบินเข้าออก ซึ่งลักษณะการตกแต่งต่อเติมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเจ้าของอาคารเจตนาต้องการให้นกนางแอ่นเข้ามาทำรังเพื่อครอบครองรังนกนางแอ่นซึ่งเป็นรังของสัตว์ป่าคุ้มครองตามตามกฎหมาย

หลังตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดรังนกนางแอ่นภายในอาคารดังกล่าวทั้ง 3 ชั้น ไว้เป็นของกลางมากกว่า 1 พันรัง รวมจำนวน 11.70 กิโลกรัม มูลค่าราคาท้องตลาดกว่า 3 แสนบาท บาทนอกจากนั้นยังมีรังนกที่ยังมีไข่และลูกอ่อนอยู่ในรังอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจนับอายัดไว้ในอาคารหลังดังกล่าวรวมจำนวน 3,414 รัง  โดยห้ามผู้ใดเคลื่อนย้าย

จากนั้นเวลา 17.00 น เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเข้าไปตรวจสอบบ้านเลขที่ 118  อยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 20 เมตร ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกัน ตรวจสอบเป็นอาคาร 4 ชั้น โดยชั้น 4 มีการต่อเติมขึ้นมาใหม่ ชั้นล่างเป็นโกดังเก็บสินค้า ส่วนภายในชั้น 2,3,4 มีการปรับแต่งให้นกนางแอ่นอยู่อาศัยและเข้ามาทำรังอยู่จำนวนมากในลักษณะเดียวกันกับหลังแรก  เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บตรวจยึดรังนกทั้งหมดไว้เป็นของกลางจำนวน 2.45 กิโลกรัม มูลค่าราคาท้องตลาดกว่า 7 หมื่นบาท และอายัดรังนกที่ยังมีไข่และลูกอ่อนอยู่ในรังไว้ภายในอาคารหลังเกิดเหตุอีกจำนวน 1,416 รัง 

ต่อมา เวลา 18.45 น.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำรังนกที่สามารถตรวจยึดไว้เป็นของกลางได้ทั้ง 2 อาคาร พร้อมนำตัว นายทรงศักดิ์ จุฑาสุโกศล เจ้าของส่งพนักงานสอบสวน สภ.มาบอำมฤต  โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมใช้เวลาบันทึกการตรวจสอบ ตรวจยึด จับกุมอย่างละเอียดรัดกุมนานหลายชั่วโมง เนื่องจากเป็นเคสแรกคดีตัวอย่างเป็นที่จับตามองทั้งผู้ร้องเรียนที่เดือดร้อนจำนวนมาก ผู้ประกอบการบ้านรังนก ผู้รับจ้างสร้างบ้านรังนก และหน่วยงานเกี่ยวข้องหลายฝ่าย

จนกระทั่งเวลา 03.00 น.วันที่ 24 พ.ค. เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และได้แจ้งสิทธิให้แก่ผู้ถูกกล่าวหารับทราบพร้อมอ่านบันทึกการตรวจสอบ ตรวจยึด จับกุม ให้ฟัง โดยดำเนินคดีข้อหาความผิดในมาตรา 21 ฐานเก็บ ทำอันตราย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งรังของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ขณะที่นายทรงศักดิ์ จุฑาสุโกศล ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหายืนยันจะต่อคดีสู้ในชั้นศาล

นายทรงศักดิ์ จุฑาสุโกศล กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าตนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาซึ่งจากนี้จะต้องปรึกษากับทนายความและคณะกรรมการสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจรังนกนางแอ่น(ประเทศไทย)ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ด้านนางประภัทร์สร เกตุแก้ว อายุ 49 ปี หนึ่งในผู้ร้องเรียนที่เดือดร้อนได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวบอกว่าตนร้องเรียนเรื่องนี้มานานกว่า 2 ปี แล้ว จนมาถึงวันนี้ที่มีการบูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบตนถือว่ายังช้ามากเพราะความเดือดรอนเกิดขึ้นทุกวันทั้งมูลนก ไร กลิ่น แต่ช่วงนี้เรื่องเสียงไม่ได้ยินเพราะพอมีการร้องเรียนเขาก็ปิดเสียง แต่ผลกระทบด้านอื่นๆยังมีเหมือนเดิม

นางฤทัย รุ่งระวีกุล อายุ 66 ปี กล่าวว่า ตอนนี้เดือดร้อนมากกว่าเดิมเมื่อคืนที่ผ่านมามีกลิ่นเหม็นมาก ถ้าเริ่มมีกิ่นเหม็นขี้นกตัวตนจะเริ่มคันและเป็นภูมิแพ้ต้องกินยาทุกครั้ง พวกเราเดือดร้อนและร้องเรียนมานานแล้วอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเด็ดขาดไปเลย ถ้ายังทำอะไรหรือปิดบ้านรังนกนางแอ่นไม่ได้ตนก็ต้องย้ายบ้านหนีแน่นอนเพราะอยู่ไม่ได้เพราะกลิ่นเหม็นกับคัน และทุกวันตอนเย็นบนท้องฟ้าเหนือหลังคาบ้านจะมีนกนางแอ่นนับแสนตัวบินมืดครึ้มไปและขี้ของมันก็จะร่วงหล่นลงมาบนหลังคาบ้านหลังคารถและเสื้อผ้าที่ตากไว้ ส่วนที่จะเอาเงินมาให้เราไม่ต้องเลยเราไม่ได้เดือดร้อนเงินแต่เราเดือดร้อนเรื่องมลพิษและปัญหาสุขภาพที่เกิดจากบ่นรังนกนางแอ่น

ด้านนายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว กล่าวปัญหาที่เกิดเนื่องจากมีชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลมาบอำมฤตร้องเรียนจำนวนมากถึงความเดือดร้อนดังกล่าว โดยเฉพาะเรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และ พ.ร.บ.สาธารณะสุข ซึ่งตนก็ได้ดำเนินการทางปกครองให้เจ้าของอาคารปรับปรุงแก้ไขปัญหาให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งก็ให้เวลานานพอสมควรแต่ไม่มีการแก้ไขได้ ชาวบ้านก็ยังร้องเรียนความเดือดร้อนมาเหมือนเดิม จึงต้องบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจากนี้ก็จะขอหมายศาลเพื่อเข้าตรวจสอบจุดอื่นๆที่ชาวบ้านร้องเรียนมาต่อไป.