ข่าวเด่น อาชญากรรม

สั่งสอบปม”มาเฟีย”สถานีรถไฟชุมพร

งานเข้าผู้ว่าการรถไฟสั่งสอบปม “มาเฟีย” สถานีรถไฟชุมพร รุมตื้บพ่อค้าแม่ค้าผัว-เมีย(

ผู้ว่าการรถไฟ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบปม มาเฟีย สถานีรถไฟชุมพร รุมกระทืบผัวเมียขายอาหารอิสลาม ยัน จะไม่ให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเป็นอันขาด

วันที่ 10 ก.พ.2566 นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีเหตุกลุ่มผู้ค้าที่สถานีรถไฟชุมพร ยกพวกรุมทำร้ายร่างกายพ่อค้าแม่ค้าที่ขึ้นไปจำหน่ายสินค้าบนขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพ-สุไหงโกลก เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2566 ล่าสุด นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวอย่างเร่งด่วน พร้อมกับมีกำหนดลงพื้นที่เพื่อรับฟังการรายงานผลให้ทราบผลโดยเร็วที่สุด

กดดูข้อมูลโตโยต้าชุมพร https://www.facebook.com/toyotachumphon/?mibextid=ZbWKwL

นายเอกรัช กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้น มีการตรวจสอบแบ่งออกเป็น 3 ประเด็น คือ 1.ด้านผู้ค้าที่ทำสัญญาเช่าพื้นที่เพื่อประกอบการค้ากับการรถไฟฯ ที่สถานีชุมพร โดยขอเช่าพื้นที่ขนาด 48 ตารางเมตร อัตราค่าเช่าเดือนละ 15,500 บาทต่อเดือน ระยะเวลาสัญญาเช่า 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2565-15 ก.ย.2566 ตามสัญญาเลขที่ 65410030966

/ซึ่งในสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าว ได้ระบุเงื่อนไขการเช่าไว้อย่างชัดเจนว่าผู้เช่าต้องใช้ประโยชน์ในพื้นที่เพื่อประกอบการค้า เช่น จำหน่ายอาหาร/เครื่องดื่มและสิ่งพิมพ์ หรือสินค้าอื่น ๆ หรือเปิดให้บริการต่าง ๆ สำหรับอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถไฟและประชาชนทั่วไป แต่ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ขณะเดียวกัน ผู้เช่าและพนักงานของผู้เช่าต้องใช้วาจา กิริยา มารยาท ที่สุภาพเรียบร้อย ห้ามก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้โดยสารหรือผู้ที่มาใช้บริการ หรือกระทำการอันใดอันเป็นเหตุให้ภาพลักษณ์ของผู้ให้เช่าต้องเสื่อมเสีย ซึ่งหากผลการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิดเงื่อนไขการเช่าก็จะพิจารณาตามระเบียบของการรถไฟต่อไป

2.ด้านผู้ค้าที่จำหน่ายสินค้าบนขบวนรถไฟ ฝ่ายบริการโดยสาร การรถไฟฯ ได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2564 แจ้งขอความร่วมมือให้กวดขัน ห้ามบุคคลนำอาหารและเครื่องดื่มมาจำหน่ายบนขบวนรถ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้ใช้บริการว่ามีกลุ่มผู้ค้าลักลอบนำอาหารและเครื่องดื่มมาจำหน่ายบนขบวนรถ สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้โดยสารและอาจก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ส่วนกรณีที่พ่อค้าแม่ค้าซื้อตั๋วโดยสารขึ้นไปบนขบวนรถ ให้ถือว่าเป็นผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางจากสถานีต้นทางไปยังสถานีปลายทางตามตั๋วโดยสารที่มี และห้ามนำสินค้าเดินเร่ขายบนขบวนรถอย่างเด็ดขาด โดยให้เจ้าหน้าที่ขบวนรถร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ดำเนินการกับผู้ค้าดังกล่าวที่ฝ่าฝืน

3.ด้านของการทำร้ายร่างกาย ถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“ทั้งนี้ ผู้ว่าการรถไฟฯ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีการเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลเข้ามาหาผลประโยชน์ในพื้นที่อย่างเด็ดขาด และขอให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา คำนึงความถูกต้อง และประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนเป็นสำคัญ.