ข่าวเด่น อาชญากรรม

“บิ๊กโจ๊ก”ตามคดีแรงงานพม่าถูกไต๋ซ้อม

“บิ๊กโจ๊ก”ลงพื้นที่หลังมีแรงงานพม่าถูกเจ้าของเรือ-ไต๋ รุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัส และจ่ายค่าแรงผิดระเบียบ หวั่นกระทบเรื่องระหว่างประเทศ

วันที่ 19 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงบ่ายของเมื่อวานที่ผ่านมา (18 ก.พ.66) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ชุมพร ติดตามคดีลูกเรือต่างด้าวชาวเมียนมาถูกไต๋เรือและเจ้าของเรือประมงทำร้ายบาดเจ็บสาหัสและจ่ายค่าแรงผิดระเบียบกรมแรงงาน โดยมี นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผวจ.ชุมพร พล.ต.ท. วันไชย เอกพรพิชย์ จเรตำรวจ พ.ต.อ. ประสิทธิ์ศักดิ์ ศรีสุข รอง ผบก ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ. ธานี นาคหกวิค ผกก.สส. ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ. สมพล บูรณเทศ ผกก.สภ.ปากน้ำชุมพร พนักงานสอบสวนคดี เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เอ็นจีโอองค์กรภาคประชาชน และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม รายงานเหตุการณ์และคืบหน้าของคดีดังกล่าว

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 66 ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำชุมพร ได้รับแจ้งว่ามีลูกเรือประมงต่างด้าวชาวเมียนมา ชื่อ Mr.Aung Win Naing อายุ 42 ปี ถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสในพื้นที่ปากน้ำชุมพร และหน่วยกู้ชีพได้นำส่ง รพ.ปากน้ำชุมพร แต่อาการสาหัสมาก จึงได้ส่งต่อไปยัง รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยลูกเรือรายดังกล่าวเป็นลูกเรือของ ม.โชควาสนานาวี 9 ที่เพิ่งทำงานได้เพียง 2 เดือน

จากการสืบสวนทราบว่า เรือประมง ม.โชควาสนานาวี 9 มีลูกเรือจำนวน 7 คน เป็นสัญชาติเมียนมาทั้งหมดรวมถึงตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีคนไทย 2 คนเป็นเจ้าของเรือและไต้ก๋ง ในวันเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.30 น.ขณะที่เรือจอดอยู่ที่แพโชคทอง พื้นที่ปากน้ำชุมพร Mr.Aung Win Naing แรงงานประมงผู้บาดเจ็บ รู้สึกไม่อยากทำงานต่อจึงปฏิเสธที่จะลงเรือ ทำให้คนไทยทั้งสองไม่พอใจ และรุมทำร้าย Mr.Aung Win Naing ด้วยการจับกระแทกกับปูนและใช้ไม้ตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วออกเรือไปทำประมงโดยทิ้งผู้เสียหายไว้ ผู้เสียหายจึงแจ้งขอความช่วยเหลือและส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้นำตัวลูกเรือประมงที่เหลืออีก 6 คน เข้ากระบวนการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ผลการคัดแยกเหยื่อพบว่า ลูกเรืออีก 6 รายที่เหลือนั้น ไม่เป็นผู้เสียหายในความผิดเรื่องค้ามนุษย์และบังคับใช้แรงงาน แต่พบว่าลูกเรือทั้ง 6 คน ทำงานในเรือประมงลำดังกล่าวโดยรับค่าจ้างไม่ผ่านบัญชีธนาคาร, จ่ายค่าจ้างไม่ถูกต้อง และไม่จัดทำเอกสารเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างตามที่ กฎหมายกำหนดไว้ จึงมีการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของเรือตาม พ.ร.บ.แรงงานฯ แล้ว 

ในส่วนกรณีของ Mr.Aung Win Naing ลูกเรือลำดังกล่าวนั้นอยู่ในระหว่างการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม รวมทั้งนำตัวเจ้าของเรือ และไต้ก๋งมาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ทางตำรวจได้สั่งการให้ดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เบื้องต้นยังไม่สามารถสอบผู้เสียหายโดยละเอียดได้ เนื่องจากยังรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บสาหัส หากพบว่ากระทำผิดจริงจะดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องจนถึงที่สุด

สำหรับกรณีดังกล่าวในช่วงเกิดเหตุการณ์ผู้บาดเจ็บคือ Mr.Aung Win Naing ได้แจ้งไปยัง มูลนิธิ ITF(International Transport Worker’s Faderation) ให้ช่วยเหลือเนื่องจากตนเองถูกรุมทำร้ายอย่างทารุณจนได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ในพื้นที่ปากน้ำชุมพร หลังปฏิเสธลงไปทำงานในเรือประมงลำดังกล่าว หลังรับแจ้งทางมูลนิธิ ITF ได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ PIPO ชุมพร เมื่อได้รับแจ้งจึงประสานเจ้าของเรือให้นำเรือลำเกิดเหตุเดินทางขึ้นฝั่งในทันทีเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง

สำหรับผู้บาดเจ็บหลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ มีอาการหนักแพทย์ต้องเจาะปอดทั้ง 2 ข้าง เนื่องจากมีเลือดและลมรั่วในช่องปอด โดยห้ามเยี่ยม ห้ามนำสิ่งของฝาก และมีตำรวจเฝ้ารักษาความปลอดภัยตลอดอย่างเข้มงวด 24 ชั่วโมง 

ด้าน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ จ.ชุมพร เพื่อตามคดีการทำร้ายร่างกายลูกเรือประมง ซึ่งขณะนี้สถานการณ์การทำประมงของประเทศไทยเรา ได้ยกระดับจากธงเหลืองมาเป็นธงเขียวแล้ว ทำให้การประมงของไทยดี และรัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญในเรื่อง การให้สวัสดิการแก่ลูกเรือชาวประมงและเจ้าของเรือ 

ในส่วนกรณีที่มีลูกเรือถูกทำร้ายร่างกายใน จ. ชุมพร จนได้รับการบาดเจ็บนั้น ในส่วนของคดีพบว่าผู้ใช้แรงงานต่างด้าวจำนวน 6 คน ซึ่งพบว่านายจ้างได้มีการกระทำผิดจากการจ่ายค่าจ้างไม่เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด ส่วนอีกรายก็ถูกทำร้ายร่างกาย ตอนนี้อาการดีขึ้นออกจากห้อง ไอ ซี ยู แล้ว กรณีนี้ก็จะมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนสาหัส ซึ่งก็ไม่มีอะไรซับซ้อนจากที่ได้รับรายงานการสอบสวน และน่าจะแล้วเสร็จ และคงดำเนินการต่อจากนี้ก็คือ การเยียวยาให้ผู้เสียหาย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ก็ได้เร่งรัดให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการจ่ายค่าสินไหมให้เร็วแล้ว.