ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี จับกุมแก๊งพม่าขบวนการขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าประเทศ
วันที่ 19 ก.พ.66 เวลา 0400 น. กองร้อยร้อยทหารราบที่ 2521 จุดตรวจศิลาสลัก(จปร.) ร่วมกับ ชป.ฉก.ร.25, ชป.พิเศษ.กกล.เทพสตรี ลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ ขณะลาดตระเวนบริเวณส่วนปาล์มน้ำมันติดกับแม่น้ำกระบุรี บ้านทับหลี ม.4 ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง ตรวจสอบพบมีเรือหางยาวมาส่งแรงงานชาวเมียนมา เพื่อข้ามมายังประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณดังกล่าวพบเรือหางยาว จำนวน 1 ลำ แล่นเข้ามาบริเวณดังกล่าว โดยมีชาวเมียนมานั่งโดยสารมาในเรือ จำนวน 8 คน เจ้าหน้าที่จึงซุ่มรอเพื่อให้ชาวเมียนมาทั้งหมดขึ้นฝั่ง และเดินเท้ามาขึ้นรถยนต์กระบะ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมและตรวจสอบรถกระบะยี่ห้อ นิสสัน บิ๊กเอ็ม ตอนครึ่ง สีน้ำเงิน ทะเบียน…ชุมพร ตรวจพบมี นายตี(ชาวเมียนมา)อายุ 29 ปี ที่อยู่ หมู่ 8 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นคนขับ
เจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในรถพบแรงงานประเทศเมียนมาแต่แรงงานทั้งหมดได้ลงจากรถพยายามวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามสามารถจับกุมและควบคุมตัวมาได้ทั้งหมดในเวลาต่อมา ตรวจสอบเป็นแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 8 คน ชาย 6 คน หญิง 2 คน เดินทางมาจากเมาะลำใย จะเดินทางไป จ.ภูเก็ต
จากการสอบถามแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมดได้เดินทางมาจากเมาะลำใย วันที่ 13 ก.พ. 66 ได้เดินทางมาพักที่ทวายจำนวน 5 วัน ถึงวันที่ 18 ก.พ. 66 หลังจากนั้น วันที่ 19 ก.พ. 66 เวลา 04.00 น. ได้นั่งเรือหางยาวข้ามมายังฝั่งประเทศไทยบริเวณสวนปาล์มน้ำมัน โดยมีชาวเมียนมาเป็นคนขับเรือ หลังจากนั้นได้เดินเท้าประมาณ 200 เมตร มาขึ้นรถยนต์คันดังกล่าว เพื่อเดินทางต่อไป โดยเสียค่านายหน้าให้กับชาวเมียนมา คนละ 15,000 บาท จำนวน 8 คน เป็นเงินทั้งหมด จำนวน 120,000 บาท จะจ่ายเงินเมื่อไปถึงที่หมายต่างๆ
เจ้าฟน้าที่สอบถาม นายตี ชาวเมียนมา คนขับรถยนต์กระบะให้การว่าได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาจาก อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร วันที่ 19 ก.พ. 66 เวลา 02.00 น. ขับรถยนต์มาทางหมู่บ้านหินใหญ่ หลังจากนั้นได้ขับมาถึง บ.ทับหลี ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง เวลา 0400 น. เมื่อมาถึงตนเองได้โทรศัพท์หาชาวเมียนมา ชื่อนายอ่าว ชาวเมียนมา ซึ่งเป็นคนขับเรือหางยาวเพื่อนำแรงงานฯทั้ง 8 คน มาส่งให้ตน และจะนำแรงงานฯ ไปส่งให้นายจอ ชาวเมียนมา ที่รอรับอยู่ในพื้นที่ สี่แยกปฐมพร ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร โดยตนเองได้รับค่าจ้างจาก นายจอฯ เป็นเงินคนละ 1,500 บาท รวมเป็นเงิน 12,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมส่ง สภ.ปากจั่น จ.ระนอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.