I
ข่าวเด่น อาชญากรรม เกษตรกรรม สิ่งแวดล้อม

โทษหนักทำประมงเขตอุทยาน

โทษหนักลักลอบทำประมงเขตอุทยานฯ ริบเรือ 27 ลำ ปรับสูง 40.5 ล้านบาท

จากกรณีเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อมูล และข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จว.สตูล ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมที่ดิน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากชาวบ้านกว่า 200 คน ซึ่งขณะลงพื้นที่ได้ตรวจสอบพบเรือประมงขนาดใหญ่จำนวน 27 ลำ ลากอวนขนาดใหญ่อยู่ในทะเล ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล

กรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แก้ไขปัญหาข้อพิพาทบนพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ รวมทั้งฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ ให้เข้ากับวิถีชีวิตของชาวเลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จึงได้มอบหมายให้กรมประมง และกรมอุทยานแห่งชาติ ตรวจสอบกรณีเรือประมงที่ลักลอบเข้าไปทำประมงในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งจากการตรวจสอบทั้งสองหน่วยงาน ยืนยันว่าเรือประมงขนาดใหญ่ทั้ง 27 ลำดังกล่าว เข้าไปลากอวนยักษ์ทำประมงในเขตอุทยานจริง 

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น. นายอรรถพล เจริญชันษา รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ  สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้ นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผอ.สำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า, นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผอ.ส่วนยุทธการด้านป้องกัน และปราบปราม และนายยุทธพงค์ ดำศรีสุข นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ฝ่ายกลยุทธ์ด้านการป้องกันรักษาป่า เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ให้ดำเนินคดีกับเรือประมงทั้ง 27 ลำ ซึ่งมีขนาดระหว่าง 40-113 ตันกรอส ในความผิดเกี่ยวกับการใช้เครื่องเข้าไปจับสัตว์น้ำในเขตพื้นที่อุทยาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศความหลากหลายทางชีวภาพ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ซึ่งมีอัตราโทษปรับสูงถึง 500,000 บาท ต่อการลงอวนลากปลา 1 ครั้ง เมื่อคำนวณโทษจากความผิดแล้วอาจถูกลงโทษปรับสูงถึง 40.5 ล้านบาท รวมถึงริบเรือประมง และอวนลากทั้งหมด 

ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 จำนวน 5 ข้อหา ได้แก่ 1.ฐาน ร่วมกันกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2.ฐาน ร่วมกันล่อหรือนำสัตว์ป่าอกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3. ฐาน ร่วมกันเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4. ฐาน ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ 5. ฐาน บุคคลซึ่งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้สั่งให้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า การดำเนินการในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่ดิน ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ และรักษาวิถีชีวิตของชาวเลให้คงอยู่ต่อไป โดยขณะลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาจากชาวบ้าน ได้พบเรือประมงเข้าไปลักลอบทำประมงในเขตพื้นที่อุทยาน ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดกับระบบนิเวศ และทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล จึงให้กรมอุทยานซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมาย เพื่อใช้การบังคับใช้กฎหมายในการช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว และสามารถฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลานต่อไป.