ผัวโหดเมาเหล้าคลุ้มคลั่งซ้อมเมียจับแขวนคอโชคดีเชือกหลุด ญาติช่วยไว้ทันแต่อาการโคม่า(มีคลิป)
เมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 3 มิ.ย.61 ร.ต.อ.มาโนช ปลอดขันเงิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.สวี ได้รับแจ้งมีเหตุสามีทำร้ายร่างกายภรรยาบาดเจ็บสาหัสภายในบ้านหลังหนึ่งอยู่หมู่ 2 ตำบลท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร แต่ได้มีญาติเข้าให้การช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลสวีไปก่อนแล้ว จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมนำตำรวจชุดสืบสวนออกตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว แต่สามีผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกไปจากบ้านแล้ว
ส่วนที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลสวี แพทย์ พยาบาลรีบช่วยเหลือผู้บาดเจ็บสาหัสและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจทราบชื่อคือ น.ส.ปาล์ม อายุ 33 ปี บาดเจ็บจากการถูกสามีทำร้ายร่างกายเบื้องต้นพบว่ามีอาการชักเกร็งก่อนนำตัวส่งไปรักษาโรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ในตัวเมืองชุมพร
จากการสอบถามญาติคนหนึ่งเล่าว่า น.ส.ปาล์ม มีสามีชื่อ นายสุทธิพงษ์ อยู่กินกันมานานหลายปีและมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน อายุ 12 ขวบ และคนสุดท้องอายุ 8 เดือน ทั้งคู่ได้มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยโดยเฉพาะนายสุทธิพงษ์ ผู้เป็นสามีจะหาเรื่องตบตีทำร้ายร่างกาย น.ส.ปาล์มอยู่เป็นประจำ แต่ครั้งนี้รุนแรงมาก โดยช่วงกลางดึกนายสุทธิพงษ์ ไดดื่มเหล้าจนมึนเมาและเกิดคลุ้มคลั่ง แล้วหาเรื่องลงมือทำร้ายทุบตี น.ส.ปาล์มโดยที่มีลูกๆก็อยู่ด้วยในบ้าน ต่อมาลูกสาวคนโตทนดูพ่อทำร้ายแม่ไม่ได้จึงเปิดประตูวิ่งออกไปตามญาติที่บ้านอยู่ใกล้กันให้มาช่วยแม่ แต่ญาติๆไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือเพราะรู้ว่านายสุทธิพงษ์มีอาวุธปืนติดตัว ต่อมาเมื่อญาติเห็นไม่นายสุทธิพงษ์เดินออกมาจากบ้านและตะโกนเสียงดังบอกว่า “ ปาล์มตายแล้ว ” จากนั้นก็รีบเดินหนีไปจากบ้าน จากนั้นญาติที่อยู่ใกล้ๆกันก็เข้าไปช่วย น.ส.ปาล์ม ซึ่งนอนชักเกร็งตัวเปียกน้ำโชกทั้งตัวอยู่หน้าห้องน้ำและพบว่ามีเลือดไหลออกทางปากและจมูกด้วยจึงเร่งช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลสวี และแจ้งตำรวจดังกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.มาโนช ปลอดขันเงิน รอง สว.(สอบสวน)สภ.สวี กล่าวว่าจากการตรวจสอบประวัติของนายสุทธิพงษ์เบื้องต้นทราบว่าเคยจำคุกในเรือนจำมาแล้ว 7 ปี ตอนนั้นอยู่กินกับ น.ส.ปาล์มแล้วและมีลูกคนแรกด้วยกัน หลังจากพ้นโทษได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกจนมีลูกสาวคนที่ 2 ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมักจะทำร้ายภรรยาตัวเองเป็นประจำแต่ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมากโดยใช้กำลังทุบตีแล้วจับภรรยาตัวเองแขวนคอแต่ น.ส.ปาล์มยังโชคดีดวงไม่ฆาตเนื่องจากเชือกที่ผูกคอไว้หลุดมาก่อน แต่ทำให้ น.ส.อาการชักเกร็งส่วนนายสุทธิพงษ์คิดว่าภรรยาตัวเองตายแล้วและต่อมาญาติเข้ามาช่วยไว้ทันแล้วนำส่งโรงพยาบาล
ร.ต.อ.มาโนช กล่าวอีกว่า ขั้นตอนต่อไปคือรวบรวบพยานหลักฐานแล้วขออนุมัติออกหมายจับนายสุทธิพงษ์ ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไว้ก่อน เมื่อได้ตัวมาแล้วก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมกับตรวจหาสารเสพติดว่านายสุทธิพงษ์นอกจากติดสุราแล้วยังเสพยาชนิดอื่นด้วยหรือไม่ เพราะดูจากพฤติกรรมแล้วไม่เชื่อว่าจะติดสุราเพียงอย่างเดียว.
