รวบสาวโหดลวงฆ่าเพื่อนสนิทขนศพใส่รถยนตกระบะโยนบนสะพานทิ้งแม่น้ำ
จากการกรณีพบศพนางสาวชฎาทิพย์ รอบคอบ อายุ 31 ปี ถูกตีด้วยของแข็งและถูกแทงด้วยของมีดคมแล้วนำศพโยนทิ้งแม่น้ำนาน 3 วัน จนมีชาวบ้านไปพบศพและแจ้งตำรวจ ในพื้นที่ หมู่ที่ 12 บ้านตรัง ตำบลพะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการฆาตกรรมฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องจากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท และสร้องข้อมือทองคำ 2 บาท ของผู้ตายหายไป ส่วนผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายคือเพื่อนสาวคนสนิทของผู้ตายเบื้องต้นตำรวจได้นำตัวมาเค้นสอบปากคำของเมื่อวานที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 มีนาคม 66 ที่ สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ ศรีสุวรรณ์ ผกก.พะโต๊ะ พร้อมกำลังเจ้าที่ชุดสอบสวนและชุดสืบสวนได้ควบคุมตัว นางสาวบุญพา เงินทิพย์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหา ที่เป็นเพื่อนสนิทของผู้ตาย ซึ่งเบื้องต้นเป็นผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจนำตัวมาเค้นสอบจนรับสารภาพว่าลงมือฆ่านางสาวชฎาทิพย์แล้วนำศพใส่รถยนต์กระบะไปโยนทิ้งลงแม่น้ำ ก่อนจะมีชาวบ้านไปพบศพดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวออกจากห้องขังบนโรงพักขึ้นรถยนต์เพื่อพาไปชี้จุดก่อเกตุที่บ้านเช่าที่ผู้ก่อเหตุเช้าอยู่อาศัย ซึ่งเป็นสถานที่ลวง นางสาวชฎาทิพย์ รอบคอบ เพื่อนสนิทมาทำร้ายทุบตีและฟันจนแน่นิ่งแล้วนำร่างขึ้นรถกระบะของตนเองขับออกมาจากบ้านเช่ามุ่งหน้ามายังสะพานบ้านตรังพัฒนา แล้วลากร่างของผู้ตายลงจากรถก่อนจะผลักร่างลอดราวสะพานเพื่อทิ้งศพอำพรางความผิด
เบื้องต้นผู้ก่อเหตุสารภาพเพียงว่าได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว บุคคลอื่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด และยังไม่ปริปากบอกถึงสาเหตุที่ต้องฆ่า นางสาวชฎาทิพย์ รอบคอบ ว่ามาจากสาเหตุใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การดังกล่าวว่าจะก่อเหตุเพียงลำพังคนเดียวได้ ส่วนสร้อยคอทองคำ 2 บาท สร้อยข้อมือทองคำ 2 บาท รวม 4 บาท ของผู้ตายหายไป นางสาวบุญพาก็ไม่ยอมยอมปริปากพูดใด ๆทั้งสิ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องสอบปากคำเพิ่มและรวบรวมพยานบุคคล พยานหลักฐานอื่น ๆ เพื่อขยายผลถึงผู้ที่ร่วมลงมือฆ่านางสาวชฎาทิพย์ รอบคอบ และมูลเหตุในการก่อคดีในครั้งนี้ต่อไป
ด้านพี่สาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองรู้สึกเสียใจกับการกระทำของน้องสาวเป็นอย่างมาก และไม่คาดคิดมาก่อนว่าน้องสาวจะก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนสนิทกันไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด และมักจะไปเล่นการพนันด้วยกันอยู่เสมอ ที่ผ่านมาน้องสาวไม่เคยพูดหรือเล่าให้ฟังว่ามีปัญหาหรือมีเรื่องผิดใจกับน้องรุ่ง ผู้เสียชีวิตมาก่อน
พี่สาวผู้ก่อเหตุกล่าวว่า จากเหตุการ์ที่เกิดขึ้นนั้นถึงแม้เบื้องต้นน้องสาวตนจะภาคเสธว่าก่อเหตุเพียงคนเดียวในเบื้องต้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็มีหลักฐานแน่นหนาพอสมควร ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งในตอนนี้สิ่งที่ตนเองเป็นห่วงมากที่สุดคือหลานสาววัย 14 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ก่อเหตุ เพราะในช่วงที่น้องสาวก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นางชฎาทิพย์จนเสียชีวิตนั้น ได้ก่อเหตุต่อหน้าลูกสาวด้วย ตนเองเป็นห่วงสภาพจิตใจของหลานมาก ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุนั้นตนเองก็ยังไม่ได้มีโอกาสได้คุยกับน้องสาวและหลาน ซึ่งหลังจากนี้หากเสร็จเรื่องทางคดีเรียบร้อยแล้วนั้นก็คงให้พ่อของหลานมารับไปดูแลต่อไป.