สภากะเหรี่ยงสันติภาพไล่ออก 2 นายทหาร เหตุฝักใฝ่ PDF ร่วมประกาศปิดถนน AH1
สภากะเหรี่ยงสันติภาพที่เข้าร่วมกระบวนการเจรจากับมินอ่องหล่าย สั่งปลด 2 นายทหารระดับคุมกำลัง เหตุไปร่วมลงชื่อในประกาศปิดถนนสายเอเชีย เมียวดี-กอกะเร็ก ร่วมกับ PDF อีก 8 กลุ่ม หลังสถานการณ์สู้รบระหว่าง PDF-KNLA กับทหารพม่าในเมียวดียังคงตึงเครียด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการสภาแห่งชาติกะเหรี่ยงสันติภาพ (KNU/KNLA-PC) มีคำสั่งด่วนให้ปลด 2 นายทหารระดับผู้นำหน่วย ในสังกัด KNU/KNLA-PC ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากความผิดฐานมีใจฝักใฝ่กองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่อต้าน (PDF) และยังเข้าร่วมกับ PDF ปฏิบัติการสู้รบกับกองทัพพม่า
นายทหารที่ถูกปลดทั้ง 2 นาย ได้แก่ พ.อ.ซอแลตก่าย เสนาธิการทหารลำดับที่ 2 และ พ.ท.ซอจ่อกะรอ ผู้บังคับหน่วย กองพันที่ 708 หลังจากทั้งคู่ได้ไปลงนามในประกาศปิดทางหลวงสายเอเชีย (AH1) เมียวดี-กอกะเร็ก ร่วมกับตัวแทน PDF และนายทหารสังกัดกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) อีกจำนวนหนึ่ง
การสั่งปิดถนน AH1 เป็นประกาศร่วมที่ออกโดย PDF 7 กลุ่ม ซึ่งปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ได้ถูกเผยแพร่ออกมาในตอนเช้าของวันที่ 7 เมษายน โดยอ้างถึงสถานการณ์สู้รบระหว่างกองกำลังผสม PDF-KNLA กับกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) และทหารพม่า ในพื้นที่เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ที่เริ่มรุนแรงตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึงวันที่ 6 เมษายน กองกำลังผสม PDF-KNLA ทั้ง 7 กลุ่มจึงสั่งห้ามรถทุกชนิดไม่ให้สัญจรผ่านถนน AH1 ตั้งแต่เมืองเมียวดีถึงเมืองกอกะเร็ก โดยเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 7-21 เมษายน 2566
บนหัวประกาศปิดถนนมีสัญลักษณ์ของกองกำลัง PDF ทั้ง 7 กลุ่ม และสัญลักษณ์กองทัพ KNU/KNLA-PC ส่วนท้ายประกาศมีรายชื่อและลายเซ็นผู้ร่วมสั่ง 10 ราย เกือบทั้งหมดเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยทหาร PDF แต่กลับมี 2 รายชื่อที่เป็นลายเซ็นของ พ.อ.ซอแลตก่าย และ พ.ท.ซอจ่อกะรอ พร้อมระบุสังกัดว่าเป็นนายทหารคุมกำลังของ KNU/KNLA-PC
เมื่อมีการเผยแพร่ประกาศฉบับนี้ออกมาในสื่อออนไลน์ของชาวกะเหรี่ยง คณะกรรมการ KNU/KNLA-PC ได้เรียกประชุมด่วน และมีคำสั่งปลด พ.อ.ซอแลตก่าย และ พ.ท.ซอจ่อกะรอ ออกมาทันที ในตอนเย็นของวันที่ 7 เมษายน วันเดียวกัน
KNU/KNLA-PC เป็น 1 ใน 2 กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่เข้าร่วมกระบวนการเจรจาสันติภาพกับสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) พม่า ตามคำเชิญของ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ประธาน SAC และตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา ตัวแทน KNU/KNLA-PC ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการเจรจาสันติภาพของ SAC ที่กรุงเนปีดอแล้วหลายครั้ง
ส่วนกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์กะเหรี่ยงอีกกลุ่มหนึ่งที่เข้าร่วมกระบวนการเจรจาสันติภาพกับ SAC ด้วย คือกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA)
เหตุสู้รบรุนแรงในเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นประตูการค้าชายแดนไทย-พม่า ที่ใหญ่ที่สุด ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ระลอกล่าสุด เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2566 กองกำลังผสม PDF-KNLA ประมาณ 100 นาย ได้บุกโจมตีศูนย์ขนถ่ายสินค้าในเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียวดี ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 ประมาณ 20 กิโลเมตร มีการเผาอาคารที่ทำการศุลกากร ทำให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเสียชีวิต 1 ราย
ต่อมา วันที่ 5 เมษายน 2566 กองกำลังผสม PDF-KNLA ได้บุกโจมตีที่ตั้งหน่วยทหารกะเหรี่ยงที่ได้แปรสภาพมาเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน ที่บ้านทีกอทอ ห่างจากเมืองใหม่ฉ่วยก๊กโกประมาณ 10 กิโลเมตร ทั้ง 2 ฝ่ายต่างสาดกระสุน และยิงอาวุธหนักเข้าใส่กัน และมีรายงานว่าต่างฝ่ายต่างก็มีผู้บาดเจ็บและล้มตายจำนวนมากด้วยกันทั้งคู่
เหตุสู้รบยังได้ดำเนินต่อเนื่องมาอีก 2-3 วัน และพื้นที่สู้รบได้กระจายออกไปอีกหลายจุด ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับจุดสู้รบ ต้องพากันอพยพหนีข้ามลำน้ำเมย มาอาศัยอยู่ในฝั่งไทย ในเขตอำเภอแม่สอด และแม่ระมาด นับหมื่นราย
ปัจจุบัน แม้ทางฝั่งเมืองใหม่ฉ่วยก๊กโกเริ่มลดความตึงเครียดลงไปบ้าง และมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่กล้าข้ามแม่น้ำเมยกลับไปยังฝั่งรัฐกะเหรี่ยงแล้ว แต่สถานการณ์ในพื้นที่อื่นของเมืองเมียวดี ยังไม่น่าไว้วางใจ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงหวาดวิตก และขอพำนักอยู่ในฝั่งไทยต่อ.