เหิมมาก!..แรงงานพม่าขับ จยย.ซิ่งเสียงดัง ถูกคนไทยเตือน ไม่พอใจยกพวกชาย-หญิง กว่า 10 คน พร้อมมีดและไม้ บุกบ้าน เจอยิงปืนขู่ถ่ายคลิปเป็นหลักฐานต้องถอยกลับ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 26 เมษายน 66 พ.ต.ต.วรรณโน จิตภิบาล สวป.สภ.เมืองชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร !พร้อมด้วย ด.ต.สมศักดิ์ พลรักเขตต์ หัวหน้าสายตรวจตำบลหาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร ด.ต.ยุทธพงษ์ อบเชย ผบ.หมู่ ตม.จว.ชุมพร นายประเสริฐ วัฒนครใหญ่ กำนันตำบลหาดพันไกร และนายวิสิทธิ์ สินจนะสูตร กต.ตร.ภจว.ชุมพร เดินทางสืบสวนหาข้อเท็จจริง หลังเกิดเหตุกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวนหลายคน พร้อมถืออาวุธมีดและไม้ จะเข้าไปทำร้ายครอบครัวคนไทย ในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลหาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อคืนที่ผ่านมา
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านของ เลขที่ 60/4 หมู่ 9 ตำบลหาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร ตั้งปลูกอยู่ริมถนนหมู่บ้านสายเพชรเกษม-บ้านหนองจันทร์หอม ห่างจากถนนสายเพชรเกษมเข้ามา 5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่พบ นางสุรีย์ บุญเพ็ง อายุ 52 ปี เจ่าของบ้าน ส่วนสามีคือ นายสมศักดิ์ บุญเพ็ง อายุ 53 ปี ออกไปทำงานในเมืองชุมพร กำลังนั่งพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมากับ นายศิริศักดิ์ บุญเพ็ง อายุ 23 ปี ซึ่ผู้เป็นลูกชาย และลูกสะใภ้
พ.ต.ต.วรรณโน จิตภิบาล สวป.สภ.เมืองชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้แจ้งถึงการเดินทางมา ให้ทราบ เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ที่ให้ไว้คือรวดเร็วในการแก้ไข จริงใจในการปราบปราม ซึ่งทำให้นางสุรีย์ และลูกชาย ที่ไม่สบายใจในความปลอดภัยกับความเป็นอยู่ที่ต้องระแวงกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ได้มีความมั่นใจในการใส่ใจปัญหาของภาครัฐ
นายศิริศักดิ์ ลูกชายเจ้าของบ้านเปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 25 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 21.00 น ขณะที่ตนเองพร้อมพ่อ แม่ และแฟนนั่งอยู่บริเวณหน้าบ้าน ได้มีวัยรุ่นซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า 2 คน ได้ขับรถเสียงดังและยกล้อบริเวณหน้าบ้านของตนเองหลายรอบจนน่ารำคาญ นายสมศักดิ์ผู้เป็นพ่อของตนเองจึงได้ออกไปเตือนว่าอย่าขับรถเสียงดังไม่เกรงใจชาวบ้านบ้างหรือ ซึ่งคาดว่าน่าจะทำให้ทั้งสองไม่พอใจ และได้โต้เถียงกับพ่อ ตนเองจึงถือไม้ออกไปเพื่อป้องกันหากเกิดอะไรขึ้นอย่างน้อยก็ช่วยพ่อได้
นายศิริศักดิ์ กล่าวว่าหลังจากนั้นไม่ถึง 10 นาที ก็ได้มีกลุ่มแรงงานพม่าทั้งหญิงและชายมากกว่า 10 คน มีทั้งเดินมาและขับมอเตอร์ไซค์แห่กันมาทั้งซ้ายและขวา และมาจอดอยู่ที่บ้านของตนเอง พร้อมทั้งเดินและวิ่งตรงเข้ามาที่หน้าบ้านของตนเอง โดยกลุ่มแรงงานพม่าที่มานั้นต่างถือมีดและไม้เข้ามาที่พ่อและที่ตนเองหวังที่จะทำร้ายร่างกาย พ่อรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน นำปืนออกมายิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ให้แรงงานพม่าให้ถอยออกไปจากบ้านของตนเอง แต่แรงงานพม่าก็ไม่ได้สนใจพยายามที่จะเดินเข้ามาทำร้าย จนแฟนของตนเองหยิบโทรศัพท์ออกมาและถ่ายวีดีโอตอนที่กลุ่มแรงงานพม่าเข้ามาหวังจะทำร้าย โดยแฟนของตนเองก็ตะโกนบอกกลุ่มแรงงานพม่าว่ากำลังถ่ายคลิปไว้เพื่อจะส่งให้ตำรวจ หลังจากนั้นกลุ่มแรงงานพม่าจึงค่อยๆถอยออกไป ซึ่งในระหว่างที่เดินถอยออกไปนั้น กลุ่มแรงงานพม่ายังพูดจาส่งเสียงด่าทอในภาษาพม่าเสียงดังสนั่นโดยไม่เกรงกลัวความผิด
นายศิริศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะมาจากก่อนหน้านี้พ่อกำลังรดน้ำทุเรียนในช่วงกลางคืนเนื่องจากช่วงนี้เป็นภัยแล้ง จึงต้องรดน้ำในช่วงกลางคืนและใช้ไฟฉายแบบคาดหัวเพื่อส่องสว่างในช่วงที่รดน้ำ และเมื่อรถกลุ่มแรงงานพม่าขับรถเสียงดังมาในช่วงกลางคืน พ่อจึงได้หันไปดูทำให้ไฟฉายที่คาดหัวอยู่นั้นส่องไปที่แรงงานพม่าที่ขับรถมา จนเป็นเหตุให้พม่าไม่พอใจและได้ขับรถมาก่อกวนเสียงดังอยู่หลายครั้ง และก่อนหน้านี้ได้มีการบอกกว่าตักเตือนไปแล้ว 2 ครั้ง พร้อมกับแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบและให้เตือนกลุ่มแรงงานพม่า แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
หลังจากที่ได้รับข้อมูลพร้อมได้ดูคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบและทราบชื่อนายจ้างชาวไทย และแรงงานทั้งหมด ตามที่ปรากฏภาพในคลิปวิดีโอที่ผู้เสียหายบันทึกได้ ซึ่งเป็นแรงงานที่เข้ามาถูกต้องตามกฎหมาย มีนายจ้างชื่อนายพิเชษฐ์ อยู่หมู่ 12 ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร จำนวน 1 คน ,นางวิไลวรรณ อยู่หมู่ 9 ตำบลหาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร จำนวน 2 คน และ นางชมพูนุช อยู่หมู่ 1 ตำบลขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร จำนวน 2 คน เข้ามาสอบถามเพื่อหาข้อมูลที่แท้จริงบริเวณศาลาหมู่บ้าน โดยมีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนมาร่วมรับฟัง
จากการสอบถามแรงงานพม่าโดยผ่านล่ามทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นพวกตนจริงตามคลิปที่ปรากฎ และมีการขับรถจักรยานยนต์เสียงดังจริงและยอมรับว่าได้ขับขี่ผ่านหน้าบ้านหลายรอบ บ่อยๆทุกวันจริง โดยไม่พอใจที่ถูกว่ากล่าวตักเตือนหลายครั้ง ประกอบกับถูกไฟฉายส่องหน้า และถูกปาหินใส่จนเกือบขับรถจักรยานล้ม และล่าสุดเมื่อคืนก็ถูกต่อว่าอีก เลยเรียกเพื่อนๆซึ่งเป็นแรงงานพม่าที่อยู่ตามสวนใกล้ๆมาและรวมตัวเพื่อจะมาก่อเหตุจริง แต่ก็ต้องถอยเพราะถูกยิงปืนขู่และยังถูกถ่ายคลิปเกรงว่าจะไม่สามารถทำงานได้อีกจึงต้องล่าถอยไปในที่สุด
ด้าน พ.ต.ต.วรรณโน จิตภิบาล สวป.สภ.เมืองชุมพร เปิดเผยว่าหลังจากที่นำทุกฝ่ายมาพูดคุยกันจนได้ข้อสรุปว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปให้นายจ้างคอยกำกับดูแลลูกจ้างของตนอย่างเคร่งครัด ห้ามชักชวนเพื่อนแรงงานจากที่อื่นมารวมกลุ่มกันหลายคน นอกจากมีเหตุจำเป็นต้องแจ้งให้นายจ้างทราบและนายจ้างก็ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ได้รับรู้ ห้ามให้แรงงานขับรถจักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมาย อาทิเป็นรถเถื่อน รถเสียงดัง และต้องมีใบอนุญาตขับขี่ถูกต้อง และนายจ้าง ต้องไม่นำแรงงานเถื่อนเข้ามาทำงานในสวนตนเอง หากมีการร้องเรียน ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งทุกคนยอมรับเงื่อนไข ก่อนแยกย้ายกันกลับไปทำงานในสวนของตนเองต่อไป.