ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองบุกจับบ่อนใหญ่ เชิงสะพานศรีสุราษฎร์ รวบนักพนันกว่า 100 คน เปิดท้ากฎหมาย ยึดของกลางเงินสดนับล้าน
วันที่ 3 พ.ค.66 ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กว่า 30 นาย นำกำลังบุกเข้าทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ภายในโรงงานผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ หรือแพล้นปูน ใกล้สามแยกฝั่งตรงข้ามทางไปสะพานศรีสุราษฎร์ ถนนปากน้ำ ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากสืบทราบว่า ภายในที่ตั้งโรงงานดังกล่าวมีการลักลอบเปิดเป็นบ่อนการพนันขนาดใหญ่
หลังจากทางกรมการปกครองสืบทราบข้อมูลจากพื้นที่ว่าบ่อนการพนันแห่งนี้จะย้ายสถานที่ใหม่เรื่อย ๆ เพื่อหลบหลีกการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ และหลังจากที่เฝ้าติดตามพบว่า วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 มีการลงพื้นที่หาเสียงของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ ในหลายเขตพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้บ่อนดังกล่าว ที่จัดให้เล่นอยู่ในเขตพื้นที่ อ.ท่าฉาง แล้วย้ายมาเปิดสถานที่แห่งใหม่ใหญ่กว่าเดิม ขนาดพื้นที่มากกว่า 1 ไร่ อยู่ในเขต ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี สามารถจุนักพนันได้ร่วม 1,000 คน จะเปิดให้เล่นการพนันต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน
บริเวณบ่อนดังกล่าวด้านนอกเป็นป่าทั้งหมด และรอบรั้วโรงงานเป็นสังกะสีปิดล้อมไว้มีคนคอยดูต้นทาง ภายในแบ่งเป็น 2 ชั้น แนวชั้นแรกมีสแลนปิดบังอำพรางไว้ แนวชั้นที่ 2 พบมีเต้นท์ทั้งหมด 5 หลัง เป็นเต้นท์สำหรับเล่นพนัน 4 หลัง มีวงพนัน 3 วง เป็นพนันโปปั่น พนันไพ่ พนันไฮโล มีนักพนันชายหญิงเล่นการพนันอยู่กว่า 100 คน และมีจุดรับจำนำรถยนต์ ทรัพย์สินอื่น พร้อมห้องสุขาไว้บริการ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมบุคคลภายในทั้งหมดไว้
เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางมีอุปกรณ์ใช้เล่นการพนันจำนวนหลายรายการ เงินสดของกลางจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นยังเงินสดภายในรถยนต์ซึ่งน่าจะเป็นรถยนต์ของเจ้ามือหรือเจ้าของบ่อนพนัน มีเงินสดอยู่ในรถหลักล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนักพนันทั้งหมดกว่า 100 คน ขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อหลายคัน เพื่อไปลงบันทึกการจับกุมที่ว่าการอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ก่อนจะนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี สอบปากคำเพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
