ข่าวเด่น

แจ้งความแล้วนายทุนนากุ้งขุดหาดบางสน

เจ้าท่าฯชุมพร แจ้งความแล้ว หลังชาวบ้านร้องเรียนนายทุนนากุ้งใช้รถแบ็คโฮขุดชายหาด พบพื้นบ่อเลี้ยงกว่า  30 ไร่ ไม่มีบ่อบำบัดปล่อยน้ำเสียลงทะเล 

จากกรณีมีชาวบ้านร้องเรียนและสื่อมวลชนนำเสนอข่าว มีนายทุนทำบ่อเลี้ยงกุ้งขนาดใหญ่ แล้วใช้รถแบ็คโฮขุดบนชายหาดวางท่อสูบน้ำลงไปในทะเล ทำให้มีปะการังและหินบนชายหาดเสียหายจำนวนมากและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวอย่างมาก จุดเกิดเหตุบริเวณหมู่ 8 ตำบลบางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร 

ต่อมาวันที่ 12 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบตามที่ชาวบ้านร้องเรียนและเป็นข่าว มีเจ้าของมาแสดงตนเป็นนักธุรกิจใหญ่อยู่ในตัวเมืองชุมพร และยังมีสถานะทางสังคมเป็นรองประธานองค์กรธุรกิจภาคเอกชนใน จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่พบความผิด ความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วดังนี้ 

1.  บ่อเลี้ยงกุ้งจำนวน 6 บ่อ รวมพื้นที่ 34.1 ไร่ เข้าข่ายแหล่งกำเนิดมลพิษทางน้ำ ตามมาตรา 69 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ซึ่งต้องมีการควบคุม การปล่อยน้ำเสีย หรือของเสีย ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยเจ้าของ หรือผู้ครอบครอง แหล่งกำเนิดมลพิษ ดังกล่าว มีหน้าที่ ต้องติดตั้งหรือจัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสีย ตามมาตรา 70 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบไม่พบว่าสถานประกอบการดังกล่าวมีระบบบำบัดน้ำเสียที่จะบำบัดน้ำเสีย ให้มีผลคุณภาพน้ำทิ้ง เป็นไปตามมาตรฐาน ก่อนระบายออกสู่สาธารณะแต่อย่างใด

2.  พบร่องระบายน้ำ ซึ่งระบายน้ำ จากบ่อเลี้ยงกุ้งจำนวน 4 บ่อ จากทั้งหมด 6 บ่อ ลงสู่ทะเล โดยมีการระบายน้ำ ออกจากบ่อ เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำออกสู่พื้นที่สาธารณะ 2 จุด  โดยจุดที่ 1 ออกสู่ลำรางสาธารณะ บริเวณด้านขวามือ ของสถานประกอบการ เมื่อหันหน้าออกสู่ทะเล โดยพบน้ำที่ระบายออกมีสีเขียวเข้มผิดปกติ  ซึ่งลำรางดังกล่าวจะไหลออกสู่ทะเลในระยะ 50 เมตร และจุดที่ 2 ด้านหน้าสถานประกอบการติดกับชายหาด โดยมีน้ำระบายจากท่อลงสู่ทะเลโดยตรง 

3.  จาการตรวจสอบแผนที่สังเขป แสดงตำแหน่งที่ตั้งอาคาร หรือการปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ปรากฎว่า มีความยาว 12 เมตร กว้าง 2 เมตร พื้นที่ล่วงล้ำลำแม่น้ำ 24 ตารางเมตร ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง 120 เมตร

4.  ตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต ให้ปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ข้อที่ (9) การช่อมแซม สิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำดังกล่าว ต้องยื่นขออนุญาต กับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร  และจะต้องได้รับออนุญาต ก่อนดำเนินการซ่อมแซม จากการตรวจสอบปรากฏว่า ไม่ได้ยื่นเรื่อง ก่อนดำเนินการซ่อมแซม ต่อสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 11.14 น.วันที่ 20 มิ.ย.66 นายประทิน ออมสิน ตำแหน่ง ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี รักษาการในตำแหน่ง ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร ได้นำหลักฐาน แผนที่สังเขปและภาพถ่ายประการสอบสวนดำเนินคดีต่อไปสถานที่เกิดเหตุ บริเวณริมฝั่งทะเลอ่าวไทย หน้าที่ดิน น.ส. 3 ก. เลขที่ 553 เล่ม 6 ข หน้า 3 เลขที่ดิน 2 ม.8 ต.บางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อ พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทสระ สว.(สอบสวน) สภ.ปะทิว ให้ดำเนินคดีกับ นายสุพงษ์ เพรสมบูรณ์ อายุ 54 ปี ผู้ที่ได้กระทำการชุดฝังกลบท่อสูบน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว เพื่อนำน้ำทะเลมาใช้ในการเพาะเลี้ยงกุ้งบริเวณริมฝั่งทะเลอ่าวไทยหน้าที่ดิน นส. 3 ก. เลขที่ 553 เล่ม 6 ข หน้า 3 เลขที่ดิน 2 ม.8 ต.บางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร ความกว้างประมาณ 2 มตร ยาวประมาณ 120 เมตร คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 240 ตารางเมตร 

โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นการดำเนินการก่อนได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าอันเป็นความผิด ตามมาตรา 117 แห่งพรบ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และ มีโทษตาม มาตรา 118 แห่ง พรบ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ นายสุพงษ์ แพรสมบูรณ์ ตามกฎหมาย

เกิดเหตุเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทสระ สว.(สอบสวน) สภ.ปะทิว ได้รับคำกล่าวโทษไว้เพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดี ตามคำร้องแจ้งความเลขที่ 343/2566 เพื่อทำการสอบสวนต่อไป.