ตำรวจไซเบอร์ตามรวบอีกสาวแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกแพทย์หญิง ที่จ.ชุมพร เสียหายกว่า 101 ล้านบาท
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา มีคนร้ายใช้โทรศัพท์โทรหาผู้เสียหายและแจ้งว่าตนเองเป็นพนักงานบริษัทขนส่งพัสดุชื่อดัง โดยอ้างว่าผู้เสียหายมีพัสดุตีกลับ เป็นของจำพวกบัตรเครดิต บัตร ATM เสื้อผ้า และกัญชาอัดแท่งน้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม ต่อมา มิจฉาชีพได้โอนสายให้คุยกับชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย โดยอ้างว่าผู้เสียหายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฟอกเงินพร้อมกับโชว์หลักฐานที่ปลอมขึ้นมา และได้ข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ตรวจสอบบัญชี ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินไปทั้งหมด 26 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายเป็นเงินทั้งหมด 101,871,381 บาท
ต่อมา ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ปณิธาน ยามานนท์ ผกก.2 บก.สอท.5 สั่งการให้ พ.ต.ท.ทวีป จันทายนะ สว.กก.2 บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวนหาข่าวและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหมด 21 ราย โดยได้จับกุมตัวผู้ต้องหาบางส่วนได้แล้ว ต่อมาพบว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับรายหนึ่ง ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ บริเวณหอพักแห่งหนึ่ง ซ.นาจอมเทียน 9 ม.2 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงได้วางแผนเข้าจับกุมตัว
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ จึงได้เข้าจับกุมตัว น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ชาวฉะเชิงเทรา โดยควบคุมตัวได้บริเวณ หอพักแห่งหนึ่ง ซ.นาจอมเทียน 9 ม.2 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ,ร่วมกันเป็นซ่องโจร ,ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ,ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ ร่วมกันฟอกเงิน ” จึงได้นำตัวส่ง พงส.บก.สอท.5 ดำเนินคดีตามกฎหมาย
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2565 ได้มีคนร้ายโทรมายังโทรศัพท์ของแพทย์หญิงรายหนึ่ง ซึ่งเป็นอดีตแพทย์อายุรกรรม โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร และ อดีตผอ.ศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษา ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว และเปิดคลินิกอยู่ใน จ.ชุมพร พร้อมด้วยบุตรสาว ได้แจ้งความร้องทุกข์ถูกคนร้ายฉ้อโกงเงิน
โดยอ้างเป็นพนักงานบริษัทขนส่งพัสดุแห่งหนึ่ง ซึ่งตรวจพบสิ่งของผิดกฎหมาย ก่อนส่งต่อให้ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงแห่งหนึ่ง โดยให้ทางเลือกกับผู้เสียหาย 2 ทาง คือ 1.ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและถูกจับกุมที่ สภ.เชียงราย และโดนอายัดบัญชี 6-8 เดือน และ 2.ให้โอนเงินทั้งหมดจากทุกบัญชีมาตรวจสอบ โดยฝ่ายตรวจสอบของสำนักงานปปง. ก่อนจะหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินทั้งหมด 26 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายเป็นเงินทั้งหมด 101,871,381 บาท
เบื้องต้น น.ส.ชมพูนุช ยอมรับว่า ได้รับจ้างเปิดบัญชีจริง แต่ตนไม่รู้เรื่องที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์เอาบัญชีตนไปใช้ในการหลอกผู้เสียหายรับโอนเงิน 1 ครั้ง 4,800,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนบก.สอท.5 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โตโยต้าชุมพร https://www.facebook.com/toyotachumphon/?mibextid=ZbWKwL
ฮอนด้าชุมพร https://www.facebook.com/hondachumphon?mibextid=ZbWKwL