กรณีศึกษาโครงการอาหารกลางวันนักเรียนโรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน โปร่งใสอิ่มท้องถ้วนหน้ามีเมนูให้เลือก 5-6 อย่าง แถมมีเงินเหลือคืนหลวงปีละกว่า 2 ล้านบาท
วันที่ 14 มิ.ย.61 ที่โรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร นักเรียนและคณะครู ได้ประกอบพิธีไหว้ครู เนื่องในวันไหว้ครู ประจำปี 2561 ผู้สื่อข่าวได้สำรวจตรวจสอบที่โรงอาหารของโรงเรียนซึ่งสร้างอย่างดีมีรั้วตาข่าย เพื่อป้องกัน สุนัข และ นก เข้าไป รบกวนนักเรียน ขณะรับประทานอาหาร พบว่าภายในโรงอาหาร มีร้านจำหน่ายอาหารจำนวน 5 ร้าน แยกประเภทเป็น รานข้าวราดแกง ข้าวราดหน้า ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ขนม ผลไม้ น้ำดื่ม มีรายการอาหารที่ปรับเปลี่ยนทุกวัน แต่ละร้านมีเมนูอาหารให้นักเรียนเลือกมาก 5-6 อย่าง อาทิ ข้าวราดแกง ไข่พะโล้ หมู ไก่ ทอด ผัดผัก ข้าวมันไก่ ข้าวหมกไก่ ก๋วยเตี๋ยว ผลไม้ ขนมหวานแบบไทยๆ น้ำดื่ม โอวัลติน โรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนทั้งหมดประมาณ 1,500 คน แต่ละคนมีคูปองอาหารกลางวันคนละ 20 บาท ที่ใช้แลกอาหารรับอาหารจะมีกับข้าวให้เลือก 2 อย่าง และนักเรียนสามารถแถมได้ถ้าไม่อิ่ม
นายสุชาติ มีสมบัติ ผอ.โรงเรียนชุมชนวัดขันเงิน เปิดเผยว่าโรงเรียนแห่งนี้สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาชุมพร เขต 2 การจัดระบบเรื่องอาหารกลางวันเริ่มตั้งแต่หาแม่ค้ามาทำอาหารซึ่งต้องผ่านการสอบทั้งข้อเขียน และปฏิบัติ โดยมีคณะกรรมการจากบุคคลในชุมชนที่ชาวบ้านเชื่อถือ ครู สาธารณสุขอำเภอ รวมถึงนักเรียนของโรงเรียนด้วยที่ร่วมเป็นกรรมการคัดเลือก เมื่อเข้ามาประกอบอาหารได้ 1 เทอม หรือ 1 ปี ก็จะมีการสอบถามความพึงพอใจการประกอบอาหารของแม่ค้าแต่ละราย ถ้าไม่พอใจแม่ค้ารายนั้นก็จะต้องพ้นสภาพไป โดยจะสอบถามจากที่ประชุมนักเรียน ที่ประชุมผู้ปกครอง และ คณะกรรมการโรงเรียนที่มีชาวบ้านในชุมชนหลังสวนเป็นคณะกรรมการ
นายสุชาติ กล่าวว่านักเรียนระดับประถมศึกษาของโรงเรียนชุมชนวัดขันเงินมีจำนวน 1,580 คน ใช้วิธีบริหารจัดการอย่างตรงไปตรงมาจ่ายเงินให้กับแม่ค้าผู้ประกอบอาหารทุกวัน และจ่ายตามจำนวนนักเรียนจริงที่มาเรียนในแต่ละวัน ในบางวันมีนักเรียนขาดหยุดเรียนก็หักเงินเท่าจำนวนที่นักเรียนขาด ในวันหยุดก็หักเงินค่าอาหารกลางวันเก็บไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อให้สามารถจ่ายเงินได้ตรงตามความเป็นจริง ทำให้ ในรอบปีที่ผ่านมา เงินอุดหนุนอาหารกลางวันนักเรียนที่ได้รับจากเทศบาลเมืองหลังสวน จึงมีเงินเหลือคืนกลับไปให้แก่เทศบาลเมืองหลังสวนทุกปีๆ ละกว่า 2 ล้านบาท นับว่าเป็นกรณีศึกษาได้เป็นอย่างดีเกี่ยวกับงบประมาณอาหารกลางวันของนักเรียน และมีข้อคิดว่าถ้าชุมชนเข้มแข็ง มีความสุจริต ดำเนินการตรงไปตรงมา ก็สามารถบริหารงบประมาณ ทุกด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทุกฝ่าย.
