ป่วยซึมเศร้า"ป๋องกวาดถนนรถไฟ"ลาตาย

ป่วยซึมเศร้าช่างซ่อมจักรยานยนต์ “ป๋องกวาดถนนรถไฟ” ทิ้งจดหมายลาตาย ก่อนเพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่าแจ้งกู้ภัย-ตำรวจ งัดประตูพบเป็นศพคาห้องนอน

ที่บ้านหลังรับแจ้งปลูกอยู่กลางซอยอยู่ติดกับต้นยางใหญ่ เป็นบ้านชั้นเดียวมุงกระเบื้องกั้นด้วยแผ่นไม้อัด เปิดเป็นร้านซ่อมและปะยางรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ที่พบว่าประตูหน้าร้านและด้านข้างถูกล็อกกุญแจจากด้านใน หน่วยกู้ภัยจึงใช้เหล็กชะแลงงัดกุญแจเปิดประตูแล้วเข้าไปสำรวจที่มาของกลิ่นดังกล่าว

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 15 ก.ย.66 ร.ต.ท.ศุภวัชร์ เชื้อศักดิ์ รอง สว.สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากบ้านหลังหนึ่งอยู่ในถนนกรมหลวงชุมพร ซอย 5 เขตเทศบาลเมืองชุมพร คาดว่าน่าจะเกิดเหตุร้าย หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หน่วยกู้ภัย กู้ชีพมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ไปตรวจสอบ

จากากรตรวจสอบพบศพผู้เสียชีวิตทราชื่อภายหลังคือ นายอำนาจ ด้วงเดช อายุ 57 ปี อยู่เลขที่ 57/3 หมู่ 8 ตำบลนาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ สภาพศพนอนคว่ำอยู่ภายในห้องนอน สวมใส่เสื้อผ้าชุดขาวข้างศพมีช่อดอกไม้ธูปเทียน กาน้ำร้อนวางอยู่ข้างกาย และมีกระทะไฟฟ้าที่ใส่เชื้อเพลิงประเภทเศษไม้ที่ถูกไฟเผาไหม้ดำเป็นเถ้าถ่าน ตายมาแล้วประมาณ 4 วัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง กระเป๋าเงิน วางอยู่ใกล้กับจดหมายลาตาย เขียนใส่กระดาษด้วยลายมือทิ้งไว้บนโต๊ะทำงานภายในบ้านจำนวน 4 ฉบับ โดยมีใจความถึงนักการเมืองทองถิ่นให้ช่วยจัดงานศพตามประเพณีทางพุทธศาสนา และเขียนเกี่ยวกับเรื่องของอุปกรณ์ช่าง ทรัพย์สินภายในร้านและเงินประกันสังคม ขอให้มอบให้กับคนรู้จักใกล้ชิดคนหนึ่งที่เคยช่วยเหลือให้กู้ยืมเงิน พร้อมกับขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน ลงท้ายด้วยข้อความ “ผมลาก่อน ป๋องกวาดถนนรถไฟ”

จากการสอบถาม นายกิตติศักดิ์ สาสงเคราะห์ อายุ 43 ปี เจ้าของร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ติดกับร้านผู้ตาย เล่าว่า ร้านอยู่ติดกันนานนับ 10 ปี โดยผู้ตายอยู่เพียงคนเดียว นอกจากมีอาชีพซ่อมรถจักรยานยนต์และปะยางแล้ว ผู้ตายยังเป็นจิตอาสากวาดถนนเขตในเขตเทศบาลด้วย โดยพบกันครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากนั้นไม่เจอกันอีกเลย จนกระทั่งตนได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมาตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็คิดว่าเป็นหนูตาย วันนี้กลิ่นแรงมากขึ้นและสังเกตุเห็นมีแมลงวันด้วยจึงเกิดเอะใจโทรแจ้งตำรวจจนพบเป็นศพดังกล่าว

นายกิตติศักดิ์เล่าอีกว่า เท่าที่ทราบผู้ตายเป็นโรคซึมเศร้าต้องทานยาเป็นประจำ และเคยบ่นกับเพื่อนบ้านอีกคนว่าอยากจะฆ่าตัวตายหลายรอบแล้ว

ด้าน น.ส.คิ้ม อายุ 28 ปี ลูกค้าที่เคยนำรถมาซ่อม เล่าว่าล่าสุดเจอคนตายเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาได้มาที่ร้านอีกเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ และสุดท้ายเมื่อวานประมาณ 3-4 ทุ่ม ก็มาเรียกอีกที แต่ครั้งนี้เริ่มได้กลิ่นเหม็นซึ่งก็ไม่ได้เอะใจจนมารู้ว่าเสียชีวิตแล้วดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบในบ้านเกิดเหตุอย่างละเอียดพร้อมบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนแจ้งให้ญาติทราบโดยเก็บศพผู้เสียชีวิตไว้ที่มูลนิธิชุมพร ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นต้องรอผลสรุปอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่มีร่องรอยการต่อสู้และบาดแผลตามร่างกาย คาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย.