ชาวบ้านแห่เก็บ “หอยตาวัว” ผุดขึ้นริมชายหาดบ้านแหลมละแมจำนวนมากประมงอำเภอเผยเป็นเพราะสภาพอากาศที่มีความสมดุลเกิดแพลงก์ตอนสารอาหารชายฝั่ง
วันที่ 16 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หาดบ้านแหลม บ้านแหลมสันติ หมู่ที่ 5 ตำบลละแม อ.ละแม จ.ชุมพร หลังทราบว่าได้มีชาวบ้านจำนวนมากลงไปเก็บหอยทะเลจำนวนนับแสนตัวที่ฝังทรายอยู่บนชายหากและบริเวณน้ำตื้นตลอดแนวชายหาดยาวกว่า 5 กิโลเมตร ท่ามกลางสายฝนตกตกโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยพบชาวบ้านกำลังขุดคุ้ยเก็บหอยทะเลซึ่งมีลักษณะกลมๆเป็นหอยฝาเดียวตัวเท่าขมน้ำจืดที่ฝังตัวอยู่ในทรายอยู่บนชายหาดที่มีน้ำทะเลซัดขึ้นมาถึง นำใส่ภาชนะเพื่อพาไปขายได้ราคากิดลกรัมละ 30-50 บาท และทำอาหารรับประทาน ซึ่งชาวบ้านแต่ละรายได้หอยตั้งแต่ 3-10 กิโลกรัม ที่ตลาดได้ราคา
ชาวบ้านหลายคนกล่าวในลักษณะเดียวกันว่าหอยดังกล่าวชื่อ “หอยตาวัว” ขึ้นมาฝังตัวอยู่บนชายหาดในผิวทรายตื้นๆจะเห็นเป็นรูปนูนๆและมีช่องตาน้ำผุดขึ้นมาจากทรายก็จะใช่มือคุ้ยเขี่ยจับตัวขึ้นมาได้แล้ว ชาวบ้านจำนวนมากได้ลงมาเก็บหอยตาวัวกันนาน 3 วันแล้ว มีอยู่ตลอดแนวชายหาดยาวกว่า 5 กิโลเมตร หลายคนเก็บไปทำอาหารกินในครัวเรือน บางคนขยันก็เก็บไปขายได้วันละมากกว่า 10 กิโลกรัม ขายได้เงินนับพันบาทเลยทีเดียว
ด้าน นางสาวราตรี จันทรัตน์ ประมงอำเภอละแม กล่าวว่าหอยดังกล่าวมีชื่อว่า “หอยตาวัว” เป็นหอยฝาเดียวมีลักษณะเปลือกบางหอยคล้ายหอยทากบก เนื้อจะมีรสชาติหวานเหมือนตระกูลพวกหอยหวานแต่หอยตาวัวจะมีความพิเศษตรงที่เนื้อจะมีความหนึบอร่อยกว่า สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด ทั้ง ลวก ผัด แกง ตนมารับราชการที่อำเภอละแมนาน 8 ปี ก็เพิ่งจะพบว่าหอยชนิดนี้ขึ้นมาจำนวนมากเช่นกัน อาจเป็นเพราะอดีตที่ผ่านมาท้องทะเลระบบนิเวศน์ห่วงโซ่อาหารถูกทำลาย ทำให้หอยชนิดนี้เหลืออยู่น้อยมากในฝั่งอ่าวไทย กระทั่ง 3-4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลมีมาตรการการควบคุมการทำประมงที่เข้มงวดมากขึ้นระบบนิเวศน์และห่วงโซ่อาหารทางทะเลกลับมาสมบูรณ์ขึ้นอีกครั้งทำให้เกิดหอยชนิดนี้มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน
นางสาวราตรี กล่าวต่อว่าส่วนกรณีที่มีหอยตาวัวขึ้นมามากจำนวนหลายตันในช่วงนี้อาจเป็นเพราะสภาพอากาศที่มีความสมดุลทำให้มีแพลงก์ตอนซึ่งเป็นสารอาหารบริเวณชายฝั่งจำนวนมาก จึงทำให้หอยเหล่านี้เข้ามายังชายฝังจำนวนมากขึ้น ซึ่งทราบว่ามีมานาน 3 วันแล้ว จึงสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านลงมาเก็บไปขายกัน คาดว่าน่าจะมีขึ้นมาอีกไม่ต่ำกว่า 10 วัน