บุกจับเนื้อสัตว์เถื่อนพบของกลางนำเข้ากว่า 80 ตัน ไม่มีเอกสารหลักฐานมาแสดงถึงแหล่งที่มา
วันที่ 18 ต.ค. 2566 นายไกรธวัช ทินโสม ปลัดจังหวัดราชบุรี ร่วมกับกรมปศุสัตว์ เข้าตรวจสอบสถานที่การเก็บซากสัตว์ ซึ่งเป็นห้องเย็นในพื้นที่ ตำบลหัวโพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี โดยพบรายการของกลาง เป็นซากสัตว์ ประกอบด้วย ไก่ สุกร หมู เนื้อวัวนำเข้า น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 86,200 กก. ซึ่งทั้งหมดไม่มีเอกสารหลักฐานมาแสดงถึงแหล่งที่มาแก่เจ้าหน้าที่
โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดอายัดซากสัตว์ดังกล่าวไว้ตรวจสอบและให้ผู้ที่เป็นเจ้าของดำเนินการนำเอกสารหลักฐานการครอบครองและที่มาของซากมาแสดงแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำบันทึกอายัดซากไว้ หากไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานมาแสดงแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ พนักงานเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนในความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และ พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ต่อไป
นายไกรธวัช ทินโสม ปลัดจังหวัดราชบุรี เปิดเผยถึงกรณีการลักลอบค้าเนื้อสัตว์เถื่อนในประเทศไทย ซึ่งเป็นปัญหามานานว่า การลักลอบนำเข้าค้าเนื้อเถื่อน ทั้งเนื้อวัว เนื้อกระบือ และเนื้อหมู สร้างปัญหาเรื้อรังให้กับเกษตรกรมาเป็นเวลานานซึ่งสร้างผลกระทบต่อกลไกลตลาด ต่อสุขภาพของผู้บริโภค และอาจก่อให้เกิดโรคระบาดของสัตว์
การปราบปรามเนื้อเถื่อนเป็นนโยบายที่รัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายดำเนินการอย่างจริงจัง พร้อมได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ กรณีพบเห็นการกระทำความผิดสามารถโทรแจ้งเบาะแสที่สายด่วน 1567 ศูนย์ดำรงธรรม จ.ราชบุรี และสายด่วนศูนย์แก้ไขปัญหายาเสพติด และกอ.รมน. 1374 เจ้าหน้าที่จะเร่งไปดำเนินการในทันที
ด้านนายสัตวแพทย์ สุวัฒน์ มลิจารย์ ผู้แทนปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี กล่าวว่า การเข้าตรวจยึดเนื้อสัตว์เถื่อนในครั้งนี้เป็นการตรวจที่เข้มข้นตามนโยบายรัฐบบาล จนมาตรวจที่ห้องเย็นในพื้นที่ อ.บางแพ จากการตรวจสอบพบมีห้องเย็น 10 ห้อง แต่มี 3 ห้องที่พบสินค้าเกษตรต้องสงสัยมีเนื้อ ไก่ กระบือ หมู ซึ่งเป็นเนื้อสัตว์ที่ไทยไม่มีสัญญานำเข้าจากประเทศต้นทาง ประมาณ 86 ตัน ซึ่งสินค้าทั้งหมดเจ้าหน้าที่จะยึดไว้ และให้เจ้าของหาเอกสารหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.