เลี้ยงแมงป่อง ตะขาบ รายได้ดี เดือนละกว่าแสนบาท ขายได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ นางสัมฤทธิ์ ประตังพาโล หรือ "พี่แต๋ว" อายุ 50 ปี เจ้าของฟาร์มเลี้ยงตะขาบ และแมงป่อง ตั้งอยู่เลขที่ 134 หมู่ 8 บ้านสร้างแก้ว ต.เชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เมื่อเอ่ยถึงตะขาบและแมงป่อง ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์มีพิษ ที่ใครเห็นแล้วต้องขนหัวลุก พองขน กันเลยทีเดียว แต่ที่ฟาร์มเลี้ยงแห่งนี้ ได้นำเอาอสรพิษ สัตว์มีพิษทั้ง 2 ชนิด มาเลี้ยงเป็นอาชีพ สร้างรายได้เดือนละนับแสนบาท มีลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เป็นจำนวนมาก นางสัมฤทธิ์ เจ้าของฟาร์มบอกกับทีมงานเราว่า เมื่อก่อนตนเองทำงานที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อประมาณ 3 ปี ที่ผ่านมา ได้กลับบ้าน เพื่อมาดูแลแม่ที่อายุมาก และก็คิดว่าจะต้องหาอะไรทำให้มีรายได้ เลี้ยงครอบครัว แรกๆก็เลี้ยงจิ้งหรีด แต่พอเลี้ยงไปเลี้ยงมา ราคากลับไม่ค่อยดี ต้นทุนค่าใช้จ่ายก็สูง เลยไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มว่า มีแมลงอะไรบ้างที่ขายได้ราคาดี ก็ไปเจอว่ามีแมงป่องช้าง หรือที่คนอีสานเรียก "แมงเงา" กับ "ตะขาบ" ที่ท้องตลาดมีราคาดี และมีคนทำกันน้อยมาก จากนั้น จึงหันมาเริ่มเลี้ยงแมงป่องกับตะขาบ โดยเอาจิ้งหรีดที่เราเลี้ยงไว้อยู่แล้ว มาเป็นอาหารให้กับตะขาบและแมงป่อง เพราะเห็นว่าในหมู่บ้านนั้น ได้มีชาวบ้านออกไปขุดหาแมงป่องและตะขาบ มาเป็นอาหาร กินกันเกือบทุกครัวเรือนอยู่แล้ว จึงได้ใช้ที่บ้าน ตั้งเป็นจุดรับซื้อ ทั้งตะขาบและแมงป่อง เมื่อชาวบ้านรู้ ก็เริ่มหันมาหาตะขาบ และแมงป่องขายให้ ซึ่งรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 450 บาท นางสัมฤทธิ์เจ้าของฟาร์ม ได้เล่าย้อนถึงที่มาของจุดเริ่มต้นว่า ช่วงเริ่มแรก หลังรับซื้อแมงป่อง จากชาวบ้าน ก็ได้ทำบ่อเลี้ยง เพื่อให้ได้ขนาดตัว ตามที่ตลาดต้องการ ต่อมาก็เริ่มโพสต์ขาย ในสื่อออนไลน์ พอมีคนเห็นก็สั่งซื้อเข้ามาขึ้นเรื่อย ๆ ช่วงแรกๆ แมงป่องขายเป็นตัว ราคาตัวละ 20 บาท และส่งให้กับร้านขายแมลงทอด และยังมีลูกค้าที่ติดต่อมาจากประเทศเกาหลี และประเทศจีน ได้สั่งซื้อเข้ามาอีกด้วย ส่วนตะขาบ ก็เช่นเดียวกัน รับซื้อ จากชาวบ้าน ที่ไปหาจับ ตามทุ่งนา จะรับซื้อตาม ขนาดตัว เป็นนิ้ว เริ่มจากตัวที่ ได้ขนาด ประมาณ 5 นิ้ว จะซื้อตัวละ 10 บาท ขนาน 6 นิ้ว ก็ตัวละ 20 บาท ขนาด 7-8 นิ้ว ก็ซื้อตัวละ 30 บาท โดยเริ่มแรก เริ่มจากการเลี้ยง ใส่ไว้ขวดพลาสติก หลังจากมีจำนวนมาก ทั้งตะขาบและแมงป่อง ก็กั้นทำเป็นบ่อเลี้ยง แยกกัน โดยใช้ แผงกระดาษใส่ไข่ มากองทับซ้อนกัน ไว้ในบ่อเลี้ยง เพื่อให้ตะขาบและแมงป่อง ได้อยู่อาศัย ทำรังซ่อนตัว และมันก็จะไม่กัดกันด้วย ตอนนี้ก็มีอยู่รวมกันประมาณ 1 พันตัว เฉลี่ยรายได้ เฉพาะจากการขายตะขาบ เพียงอย่างเดียว ก็ประมาณเดือนละกว่า 30,000 บาท การขายก็มีหลายวิธี เช่น ตากแห้งส่งขายประเทศจีน ต้มแช่แข็ง และน็อกน้ำแข็งแช่ฟรีซ จะขายราคาตัวละ 100 บาท แต่ถ้าลอกเอาคราบออก เหลือแต่เนื้อ จะขายกิโลกรัมละ 10,000 บาท ลูกค้าบางรายจะมาซื้อตัวเป็นๆ เพื่อเอาไปทำอาหารสดๆ นอกจากนั้น ก็ยังมีคนมาสั่งซื้อ นำไปสต๊าฟ โชว์ และมาสั่งเอาไปขายต่อ ที่ตลาดจัตุจักร เพื่อนำไปเป็นสัตว์เลี้ยง ประเภทแปลก สวยงาม สำหรับอาชีพ เลี้ยงตะขาบ และแมงป่องช้าง ตอนนี้ ยังมีคนเลี้ยง น้อยมาก ทำให้อนาคต ตลาดยังไปได้อีกไกล ต้นทุนในการเลี้ยง ก็มีไม่มาก ส่วนอาหาร ที่ให้ตะขาบ กับแมงป่อง ก็เป็นจิ้งหรีด ที่เลี้ยงเอง และส่วนหนึ่ง ก็ขายให้กับ ร้านทอดแมลงด้วย จึงเป็นรายได้ เพิ่มมาอีกทาง เรียกว่าอาชีพ เลี้ยงตะขาบและแมงป่อง ความเสี่ยงมีน้อย แต่รายได้ดี รวมๆ รายได้ทั้งหมด มากกว่า 1 แสนบาท ต่อเดือนเลยทีเดียว ถ้าท่านใดสนใจ ต้องการสั่งซื้อ หรือขอความรู้ ก็ติดต่อได้ที่ พี่แต๋ว โทร 095 254 2114
ทั่วไป ร้องเรียน เกษตรกรรม สิ่งแวดล้อม

เลี้ยงตะขาบ-แมงป่องรายได้เดือนละแสน

เลี้ยงแมงป่อง ตะขาบ รายได้ดี เดือนละกว่าแสนบาท ขายได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

นางสัมฤทธิ์ ประตังพาโล หรือ “พี่แต๋ว” อายุ 50 ปี เจ้าของฟาร์มเลี้ยงตะขาบ และแมงป่อง ตั้งอยู่เลขที่ 134 หมู่ 8 บ้านสร้างแก้ว ต.เชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เมื่อเอ่ยถึงตะขาบและแมงป่อง ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์มีพิษ ที่ใครเห็นแล้วต้องขนหัวลุก พองขน กันเลยทีเดียว แต่ที่ฟาร์มเลี้ยงแห่งนี้ ได้นำเอาอสรพิษ สัตว์มีพิษทั้ง 2 ชนิด มาเลี้ยงเป็นอาชีพ สร้างรายได้เดือนละนับแสนบาท มีลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เป็นจำนวนมาก

นางสัมฤทธิ์ เจ้าของฟาร์มบอกกับทีมงานเราว่า เมื่อก่อนตนเองทำงานที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อประมาณ 3 ปี ที่ผ่านมา ได้กลับบ้าน เพื่อมาดูแลแม่ที่อายุมาก และก็คิดว่าจะต้องหาอะไรทำให้มีรายได้ เลี้ยงครอบครัว  แรกๆก็เลี้ยงจิ้งหรีด แต่พอเลี้ยงไปเลี้ยงมา ราคากลับไม่ค่อยดี ต้นทุนค่าใช้จ่ายก็สูง เลยไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มว่า มีแมลงอะไรบ้างที่ขายได้ราคาดี ก็ไปเจอว่ามีแมงป่องช้าง หรือที่คนอีสานเรียก “แมงเงา” กับ “ตะขาบ” ที่ท้องตลาดมีราคาดี และมีคนทำกันน้อยมาก

จากนั้น จึงหันมาเริ่มเลี้ยงแมงป่องกับตะขาบ โดยเอาจิ้งหรีดที่เราเลี้ยงไว้อยู่แล้ว มาเป็นอาหารให้กับตะขาบและแมงป่อง เพราะเห็นว่าในหมู่บ้านนั้น ได้มีชาวบ้านออกไปขุดหาแมงป่องและตะขาบ มาเป็นอาหาร กินกันเกือบทุกครัวเรือนอยู่แล้ว จึงได้ใช้ที่บ้าน ตั้งเป็นจุดรับซื้อ ทั้งตะขาบและแมงป่อง เมื่อชาวบ้านรู้ ก็เริ่มหันมาหาตะขาบ และแมงป่องขายให้ ซึ่งรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 450 บาท

นางสัมฤทธิ์เจ้าของฟาร์ม ได้เล่าย้อนถึงที่มาของจุดเริ่มต้นว่า ช่วงเริ่มแรก หลังรับซื้อแมงป่อง จากชาวบ้าน ก็ได้ทำบ่อเลี้ยง เพื่อให้ได้ขนาดตัว ตามที่ตลาดต้องการ  ต่อมาก็เริ่มโพสต์ขาย ในสื่อออนไลน์ พอมีคนเห็นก็สั่งซื้อเข้ามาขึ้นเรื่อย ๆ ช่วงแรกๆ แมงป่องขายเป็นตัว ราคาตัวละ 20 บาท และส่งให้กับร้านขายแมลงทอด และยังมีลูกค้าที่ติดต่อมาจากประเทศเกาหลี และประเทศจีน ได้สั่งซื้อเข้ามาอีกด้วย

ส่วนตะขาบ ก็เช่นเดียวกัน รับซื้อ จากชาวบ้าน ที่ไปหาจับ ตามทุ่งนา จะรับซื้อตาม ขนาดตัว เป็นนิ้ว เริ่มจากตัวที่ ได้ขนาด ประมาณ 5 นิ้ว จะซื้อตัวละ 10 บาท ขนาน 6 นิ้ว ก็ตัวละ 20 บาท ขนาด 7-8 นิ้ว ก็ซื้อตัวละ 30 บาท โดยเริ่มแรก เริ่มจากการเลี้ยง ใส่ไว้ขวดพลาสติก

หลังจากมีจำนวนมาก ทั้งตะขาบและแมงป่อง ก็กั้นทำเป็นบ่อเลี้ยง แยกกัน โดยใช้ แผงกระดาษใส่ไข่ มากองทับซ้อนกัน ไว้ในบ่อเลี้ยง เพื่อให้ตะขาบและแมงป่อง ได้อยู่อาศัย ทำรังซ่อนตัว และมันก็จะไม่กัดกันด้วย  

ตอนนี้ก็มีอยู่รวมกันประมาณ 1 พันตัว เฉลี่ยรายได้ เฉพาะจากการขายตะขาบ เพียงอย่างเดียว ก็ประมาณเดือนละกว่า 30,000 บาท 

การขายก็มีหลายวิธี เช่น ตากแห้งส่งขายประเทศจีน ต้มแช่แข็ง และน็อกน้ำแข็งแช่ฟรีซ จะขายราคาตัวละ 100 บาท  แต่ถ้าลอกเอาคราบออก เหลือแต่เนื้อ จะขายกิโลกรัมละ 10,000 บาท ลูกค้าบางรายจะมาซื้อตัวเป็นๆ เพื่อเอาไปทำอาหารสดๆ  

นอกจากนั้น ก็ยังมีคนมาสั่งซื้อ นำไปสต๊าฟ โชว์ และมาสั่งเอาไปขายต่อ ที่ตลาดจัตุจักร เพื่อนำไปเป็นสัตว์เลี้ยง ประเภทแปลก สวยงาม

สำหรับอาชีพ เลี้ยงตะขาบ และแมงป่องช้าง ตอนนี้ ยังมีคนเลี้ยง น้อยมาก ทำให้อนาคต ตลาดยังไปได้อีกไกล ต้นทุนในการเลี้ยง ก็มีไม่มาก 

ส่วนอาหาร ที่ให้ตะขาบ กับแมงป่อง ก็เป็นจิ้งหรีด ที่เลี้ยงเอง และส่วนหนึ่ง ก็ขายให้กับ ร้านทอดแมลงด้วย  จึงเป็นรายได้ เพิ่มมาอีกทาง 

เรียกว่าอาชีพ เลี้ยงตะขาบและแมงป่อง ความเสี่ยงมีน้อย แต่รายได้ดี รวมๆ รายได้ทั้งหมด มากกว่า 1 แสนบาท ต่อเดือนเลยทีเดียว

ถ้าท่านใดสนใจ ต้องการสั่งซื้อ หรือขอความรู้ ก็ติดต่อได้ที่ พี่แต๋ว  โทร 095 254 2114