ตำรวจคุม“เอ็ม”ทำแผนฆ่าอำพราง“ต้น”เจ้าของมินิมาร์ท อ้างปมเหตุหึงหวง สารภาพขั้นตอนเลือดเย็น
ตำรวจคุม “เอ็ม” ทำแผนฆ่าอำพรางขั้นตอนเลือดเย็น “พี่ต้น” เจ้าของมินิมาร์ท ที่อยู่ด้วยกัน อ้างเหตุเพราะความหึงหวง ตีตัวออกห่าง มีปากเสียงแล้วโมโหทำร้ายจนล้มคว้าหัวฟาดพื้น ขึ้นนั่งคร่อมทับร่างคว้าสากตีหน้าไม่ยั้งจนตาย แล้วลากศพหมกไว้บนเตียงนอนนาน 2 วัน ก่อนพันธนาการห่อศพมัดใส่รถเข็นยกขึ้นไว้ในรถกระบะตู้ทึบอีก 1 วัน จากนั้นพาไปทิ้งน้ำที่คลองแก้มลิงหนองใหญ่ พอใกล้รุ่งขับรถเก๋งย้อนกลับไปดูเห็นเชือกหลุดศพลอย ลงไปใช้เชือกมัดศพกับท้ายรถเก๋งลากศพไปบนถนนอีก 1.3 กม. ทิ้งศพในป่าละเมาะริมทาง ก่อนหลบหนีข้ามจังหวัด จนตำรวจตามจับกุมตัวได้
จากกรณีคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ นายเอ็มฆ่าโหด เจ้าของร้านมินิมาร์ทซึ่งเป็นชายคนรัก แล้วพันธนาการศพนำไปทิ้งป่าละเมาะริมคลองชลประทาน พื้นที่แก้มลิงหนองใหญ่ หมู่ที่ 8 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจสามารถตามจับกุมคนร้ายได้ หลังหนีไปอยู่ในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชุมพร เมื่อกลางดึกที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 11 ม.ค.67 ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สภ.เมืองชุมพร พล.ต.ต.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร ได้นำตัว นายเจนณรงค์ วงศ์สุวรรณ หรือเอ็ม อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ข้อหาเจตนาฆ่าและอำพรางซ่อนเร้นศพ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ก่อเหตุฆ่า นายจิรศักดิ์ ตรียวง หรือต้น อายุ 36 ปี เพื่อนชายคนรักและเป็นเจ้าของร้านร้านมินิมาร์ทชื่อ “ร้านต้น&น้องเอม” อยู่ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ หลังก่อเหตุได้นำศพนายจิรศักดิ์ ใส่รถยนต์กระบะตู้ทึบโตโยต้า ตอนเดียวสีขาว ทะเบียน บร 4967 ชุมพร ไปทิ้งในป่าละเมาะ ริมคลองชลประทาน พื้นที่แก้มลิงหนองใหญ่ หมู่ที่ 8 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ตำรวจสามารถติดตามจับกุมได้ขณะหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ตำบลหินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วควบคุมตัวกลับมาที่ สภ.เมืองชุมพร เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
หลังสอบปากคำเสร็จ พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร พร้อมตำรวจชุดสายสืบ และกำลังตำรวจ นปพ.ภ.จว.ชุมพร ได้คุมตัวนายเจนณรงค์ วงศ์สุวรรณ หรือเอ็ม อายุ 27 ปี ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกเริ่มที่ร้านมินิมาร์ทชื่อ “ร้านต้น&น้องเอม” ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ ที่เปิดเป็นร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์เครื่องใช้ สินค้าการเกษตร ซึ่งนายเอ็มผู้ต้องหาและนายต้นเจ้าของร้าน ได้อยู่อาศัยด้วยกันมานาน จนเป็นที่รู้ของชาวบ้านทั่วไป
โดยเริ่มตามขั้นตอนตามคำให้การรับสารภาพของนายเอ็มผู้ต้องหา เริ่มจากจุดแรกที่ร้านมินิมาร์ท ที่ทั้งคู่มีปากเสียงกันจากเรื่องที่นายเอ็มอ้างว่าเกิดจากความหึงหวง ที่นายต้นเจ้าของร้านได้ตีตัวออกห่าง จนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง และนายเอ็มลงมือทำร้ายร่างกายนายต้นจนล้มลงหัวฟาดกับพื้นที่ห้องรับแขกที่อยู่หน้าห้องนอน แล้วนายเอ็มนั่งคร่อมร่างของนายต้นแล้วคว้าสากตำน้ำพริกที่ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งวางอยู่บนชั้นวางของหน้าห้องนอนทุบตีไปที่ใบหน้าของนายต้นด้วยความโมโหหลายครั้ง จนเป็นแผลฉกรรจ์และนายต้นหมดสติแน่นิ่งไปแต่ยังหายใจรวยรินอยู่
หลังจากนั้นได้ลากร่างของนายต้นเข้าไปไว้บนเตียงนอน แต่ปรากฏว่านายเอ็มได้เสียชีวิตแล้ว จึงเปิดแอร์ให้เย็นเพื่อเก็บศพของนายต้นไว้ในห้องนอนนานถึง 2 วัน จนตอนบ่ายของวันที่สาม ได้ใช้โซ่ล่ามสัตว์ที่มีวางขายอยูในร้านมาพันมัดมือสองข้างของศพนายต้นไขว้หลังไว้ แล้วเอาผ้านวมมาห่อศพ พันทับด้วยเสื่ออีก 2 รอบ โดยใช้เชือกไนล่อนมัดอย่างแน่นหนา แล้วยกศพไปมัดติดไว้กับรถเข็นของที่เป็นเหล็ก แล้วลากขึ้นไปไว้ในรถยนต์กระบะตู้ทึบ โดยช่วงก่อเหตุดังกล่าวใช้เวลารวม 3 วัน ระหว่างวันที่ 3-4-5 ม.ค.67 จนศพเริ่มเน่าเหม็น
จากนั้นช่วงค่ำของวันที่ 5 ม.ค.67 ได้ยกศพนายเอ็มที่ห่อพันธนการมัดติดไว้กับรถเข็นของที่อยู่ในกระบะหลังรถยนต์กระบะตู้ทึบ ขับนำศพที่พันธนาการมัดติดไว้กับรถเข็นของ ออกไปทิ้งน้ำที่บริเวณแก้มลิงหนองใหญ่ ใกล้ประตูระบายน้ำ ห่างจากจุดท่องเที่ยวสะพานชมกวางประมาณ 500 เมตร ริมถนนคลองชลประทาน ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ต่อมาตอนเช้าวันที่ 6 ม.ค.ได้นำรถยนต์กระบะตู้ทึบไปล้างอัดฉีดทำลายหลักฐาน แล้วนำไปจอดทิ้งไว้ใต้สะพานสี่แยกปฐมพร
กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 04.00 -05.00 น.ของวันที่ 7 ม.ค.67 นายเอ็มได้ขับรถเก๋งโตโยต้า ยาริสสีขาว ออกมาดูจุดที่ทิ้งศพได้เห็นเชือกไนล่อนที่มัดศพถ่วงน้ำไว้กับรถเข็นหลุด และศพลอยขึ้นมาติดอยู่ริมตลิ่ง นายเอ็มจึงถอยรถเก๋งยาริสไปที่ริมคลอง แล้วลงไปใช้เชือกมัดศพที่สภาพยังถูกห่อพันธการไว้อย่างดี มามัดติดกับห่วงท้ายรถเก๋งยาริส จากนั้นได้ขับรถเก๋งลากศพที่ยังถูกพันธการอยู่ ไปบนถนนลาดยางประมาณ 1.3 กิโลเมตร จนทางเข้าป่าละเมาะ แล้วลากเข้าไปทิ้งไว้ จากนั้นได้รีบเดินทางกลับไปที่ร้านมินิมาร์ท จนกระทั้งงตอนเย็นมีคนเลี้ยงวัวไปพบเห็นและแจ้งตำรวจไปตรวจสอบดังกล่าว จนตำรวจสืบสวนสอบสวนรู้ตัวคนร้ายและตามจับกุมนายเอ็มได้ในที่สุด
ขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพท้านมินิมาร์ท ได้มีชาวบ้านมามุงดูจำนวนมาก ท่ามกลางตำรวจและกำลัง นปพ.ร่วม 100 นาย ทั้งในเครื่องแบบนอกเครื่องแบบมาคอยคุ้มกันอย่างเข้มงวด แต่ก็ไม่มีเหตุรุนแรงใด ๆ นอกจากเสียงด่าทอและสาปแช่งต่าง ๆ นาๆ หลังจากตำรวจคุมตัวนายเอ็มไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดก่อเหตุต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ได้คุมตัวนายเอ็มไปเข้าห้องขังที่ สภ.เมืองชุมพร ก่อนจะนำไปฝากขังต่อไป โดยไม่มีญาติหรือเพื่อนนายเอ็มมาเยี่ยมหรือติดต่อขอประกันตัวแต่อย่างใด.
