ตะลึงสนธิกำลังยึดภูเขาหัวโล้น
ข่าวเด่น

ตะลึงสนธิกำลังยึดเขาหัวโล้น

ตะลึง..สนธิกำลังตรวจยึดภูเขาหัวโล้นป่าต้นน้ำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก หลังนายทุนบุกรุกสร้างถนน ขนไม้เถื่อน ขุดบ่อดินขาย ทำสวนทุเรียน 

กอ.รมน.ชุมพร สนธิกำลังตรวจสอบพื้นที่ป่าต้นน้ำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก ตะลึงแทบกลายเป็นเขาหัวโล้น พบบุกรุกขยายพื้นที่เพิ่ม ใช้รถแบกโฮขุดบ่อดินขาย ปรับทำถนนขึ้นภูเขา สร้างที่พัก ขุดสระน้ำ ขนาดใหญ่ ตัดต้นไม้เกือบเหี้ยน

วันที่ 1 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานที่ผ่านมา(วันที่ 31 ม.ค.) พ.อ.โชติ ยิกุสังข์ รอง ผบ.มทบ.44/รอง ผอ.รมน.จว.ช.พ.(ท.) ได้สั่งการให้ ร.อ.กอบศักดิ์ นาคหาญ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฝ่ายการข่าว พร้อมเจ้าหน้าที่ บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ. 6 (นาสัก) เจ้าหน้าที่ ปทส. ตำรวจ กก.5 บก.ปทส.จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก ร่วมตรวจสอบกรณีปรากฏข่าวสาร ในสื่อ facebook เพจข่าว ฐานชุมพร  เมื่อ 30 ม.ค.67 ได้มีการลงข่าวว่า กลุ่มนายทุนคนมีสีไม่ธรรมดาบุกรุกป่าสงวนป่าต้นน้ำของอำเภอสวี ในพื้นที่ป่าสงวนหมู่ 8 ต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร โดยมีภาพประกอบเป็นภาพของเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจยึดเมื่อกลางเดือนมกราคม 67 

ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้สนธิกำลังเข้าดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง จากการตรวจสอบรายละเอียด ภาพที่ปรากฏในเพจข่าวฐานชุมพร เป็นภาพที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดพื้นที่บุกรุก ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งระยะ-นาสัก พื้นที่ป่าต้นน้ำ บ้านเทพนิมิต  ต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร เมื่อ 11 ม.ค.67 เนื้อที่ตรวจยึดจำนวน 11-3-68 ไร่ คดีอยู่ระหว่างการสืบสวนหาผู้กระทำความผิด

นอกจากนั้นจากการตรวจสอบพื้นที่ข้างเคียงในครั้งนี้ พบร่องรอยการบุกรุก แผ้วถาง และใช้รถแม็คโฮขุดไถปรับทางทำถนนลัดเลาะขึ้นไปบนเทือกเขาระยะทางไกลหลายกิโลเมตร มีร่อยรอยการตัดโค่นต้นไม้ใหญ่และร่องรอยการใช้เครื่องยนต์แปรรูปไม้ขนย้ายออกไปแล้วจำนวนมาก จนเทือกเขาที่อยู่ซ้อนกันหลายลูกมีสภาพแทบจะกลายเป็นภูเขาหัวโล้นเกือบทั้งหมด นอกจากนั้นยังพบว่ามีการใช้รถแบกโฮขุดบ่อดินอีก 2-3 บ่อ แล้วใช้รถยนต์ขึ้นไปบรรทุกดินลงมาขายเป็นจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทุ่งระยะ-ป่านาสัก อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ. 6 (นาสัก) 

จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ยังพบว่าบนเนินเขามีร่องรอยการใช้รถแบกโฮ ขุดปรับสภาพพื้นที่ ปลูกต้นทุเรียน ขุดสระกักเก็บน้ำขนาดใหญ่รองด้วยพลาสติกสีดำสำหรับกักเก็บน้ำไว้ใช้ พร้อมกับติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำและวางระบบท่อน้ำ ปลูกสร้างที่พักทำด้วยแผ่นปีกไม้ขนาดใหญ่ หลังคามุงด้วยแมทัลชีท จำนวน 1 หลัง เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือตรวจหาค่าพิกัดดาวเทียม GPS จับพิกัดรอบแปลงพื้นที่ถูกบุกรุก รวมจำนวนเนื้อที่ความเสียหาย 7-0-94 ไร่ ซึ่งเป็นแปลงคดีเดิมที่เคยตรวจยึดไว้ก่อนแล้วจำนวน 1-0-51 ไร่

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดร่วมกัน พร้อมกับมอบหมายให้ นางสาวกาญจนา วีระวงศ์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ. 6 (นาสัก) นำเรื่องราวร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.นาสัก

ด้าน นายสมศักดิ์ ชัยวิสิทธิ์  หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ทุ่งระยะนาสัก  กล่าวว่าการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ป่าสงวน หมู่ 8 ตำบลเขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดจับกุมเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งผลการตรวจสอบพื้นที่ในบริเวณคดีเก่าจุดนี้ไม่พบว่ามีการบุกรุกแผ้วถาง หรือขยายพื้นที่เพิ่มเติม อย่างไรก็ดีขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางเข้ามาพบว่ามีบริเวณข้างเคียง มีการนำเอารถแม็คโฮ เข้ามาลอบขุดสระน้ำเพิ่มเติม จึงได้สั่งการให้หัวหน้าหน่วยที่รับผิดชอบพื้นที่ตรงนี้ ไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่าส่วนในแปลงที่เข้าตรวจสอบในวันนี้ มีต้นกล้าทุเรียนเล็ก ๆ ที่แอบปลูกไว้ในพื้นที่ป่าสงวน ทางกรมอุทยานเองก็ได้ให้นโยบายว่า พืชผลอาสินเหล่านี้เราจะต้องรื้อถอนทำลายออกไปจากป่าทั่งหมด ซึ่งจะดำเนินในขั้นต้อนต่อไป.