สลด..ย่าจุดไฟเผาหลาน-ตัวเองตายพร้อมกัน
ข่าวเด่น

สลด..ย่าจุดไฟเผาหลาน-ตัวเองตายพร้อมกัน

สลด..ย่าวัย 66 ปี จุดไฟเผาหลานสาวพิการอายุ 14 ปี พร้อมตัวเองตายอนาถหน้าบ้าน หลังทวงเงิน 6 หมื่นที่น้องสาวยืมไปไม่ได้ แถมท้าให้ฟ้องเอาเอง ตัดสินใจเขียนจดหมายอาฆาต ก่อนจบชีวิตพร้อมหลาน

เหตุการณ์สลดย่าวัย 66 ปี จุดไฟเผาหลานสาวอายุ 14 ปี ที่พิการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและตัวเองตายพร้อมกันหน้าบ้าน หลังจากไปทวงเงินน้องสาวที่ยืมไป 6 หมื่น ไม่ได้ แถมถูกท้าให้ไปฟ้องเอาเอง โดยเหตุสลดดังกล่สวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 67 พ.ต.ท.พนัส หมุนวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.นาสัก ได้รับแจ้งเหตุมีคนจุดไฟเผาตัวเองเสียชีวิต จำนวน 2 ศพ ในพื้นที่ ม.6 ตำบลนาสัก อ.สวี จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้ได้ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดชุมพร และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสายชลชุดเขาทะลุ อ.สวี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวไม่มีเลขที่ ซึ่งปลูกอยู่กลางสวนปาล์มน้ำมัน ห่างจากถนนสายเอเชีย 41 เข้าไปในถนนหมู่บ้านสายแก่งกระทั่ง-นาสัก กว่า 10 กม. บริเวณด้านข้างของตัวบ้านริมชายคา เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ศพ ทราบชื่อภายหลังคือ นางอุทัย ชนะ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ที่ 6 ตำบลนาสัก อ.สวี จ.ชุมพร นอนหงายอยู่ระหว่างเก้าอี้พับแบบปิกนิคกับโซฟาแบบพนักพิงปรับลงเป็นที่นอนได้ถูกไหม้หมดไม่เหลือสภาพ โดยบนโซฟาดังกล่าวเป็นศพของ ด.ญ.กนกนภา ชนะ อายุ 14 ปี สภาพนอนคว่ำหน้า ทั้งสองศพอยู่ในสภาพถูกไฟเผาไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก 

ใกล้กันเจ้าหน้าที่พบยาฆ่าแมลงแบบแกลลอน 5 ลิตร จำนวน 1 แกลลอน ภายในแกลลอนมีน้ำยาหลงเหลือเพียงเล็กน้อย และยังพบว่าขวดน้ำยาแลกเกอร์สำหรับทาไม้ตกอยู่ใกล้ศพ จำนวน 2 ขวด เป็นขวดเปล่า 1 ขวด และอีก 1 ขวดภายในขวดมีน้ำขุ่นขาว ทราบภายหลังคือยาฆ่าแมลงซึ่งผสมกับน้ำไว้เต็มขวด

  

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบกระดาษ ขนาดเอ4 จำนวน 2 แผ่น ปลิวตกอยู่บนพื้นปูนบริเวณหน้าบ้าน โดยกระดาษทั้งสองแผ่น ได้เขียนข้อความขนาดใหญ่ ไว้ว่า “ขอโทษ อสม.ทุกคนที่จบชีวิตด้วยทำ(ลาย)ร้ายตัวเอง หนีทุกสิ่ง ทุกอย่าง จากน้อง”  และกระดาษอีกแผ่น เขียนข้อความว่า “เรามาใช้เวรชาตินี้(หนี้) กระนุ้ยมึงเอาเงินกูไป 60,000 บาท กูขอจองเวรมึงทุกๆชาติ” เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกและเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม น.ส.อ้อยทิพย์ ชนะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 ม.6 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ทราบว่า นางอุทัยผู้เสียชีวิตคือแม่ตนเองและอีกศพนั้นก็เป็นหลานสาว ซึ่งเป็นผู้พิการด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาตั้งแต่เด็ก โดยหลานสาวนั้นเป็นลูกของพี่ชาย แต่แม่ได้พามาเลี้ยงหลังจากที่เกิด ซึ่งหลังจากที่พ่อเสียชีวิตลง แม่กับหลานก็อาศัยบ้านหลังดังกล่าวกันเพียง 2 คน ส่วนตนเองนั้นจะอยู่ก่อนถึงบ้านแม่เพียงเกือบ 100 เมตร และจะเวียนไปมาหาสู่อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาแม่จะไปไหนมาไหน ตนก็จะเป็นคนขับรถไปให้

น.ส.อ้อยทิพย์ เล่าต่อว่า โดยก่อนเกิดเหตุวันเดียวกัน ตนเองได้พาแม่ไปประชุมที่ศาลาหมู่บ้าน เนื่องจากแม่เป็น อสม.เมื่อส่งเสร็จตนเองก็กลับมาบ้าน จนกระทั่งเที่ยง ขณะตนเองกำลังจะไปรับกลับ ก็ทราบว่า แม่ได้อาศัยรถจักรยานยนต์เพื่อนบ้านกลับมาแล้ว ตนเองก็ไม่สนใจอะไรมากนัก จนกระทั่งตอนกลางคืน ตนเองเห็นบริเวณบ้านแม่ มีเปลวและแสงไฟลุกโชนสว่าง พร้อมมีเสียงคล้ายระเบิดแต่ดังไม่มากนัก จึงวิ่งไปดูก็พบภาพไฟกำลังลุกไหม้แม่และหลานสาว จึงได้ร้องตะโกนให้คนช่วยแต่ก็สายไปแล้ว แม่กับหลานได้ถูกไปคอกเสียชีวิต จึงได้โทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

น.ส.อ้อยทิพย์ เล่าต่ออีกว่า สำหรับกระดาษที่แม่เขียนไว้นั้น คาดว่าแม่เครียดมากเพราะเงินที่น้องสาวแม่ยืมไปนานกว่า 2 ปีแล้วยังไม่ได้กลับคืนมา แม่เคยทวงก็ทะเลาะกันหนำซ้ำน้องสาวแม่ ที่บ้านอยู่ห่างออกไปจากหน้าบ้านแม่ตนไม่มากนัก ยังเอาไม้และหลักมาฝังปิดกั้นทางไม่ให้แม้ใช้ทางเข้าบ้าน ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านได้มาเจรจาไกล่เกลี่ย จนต้องยอมเปิดให้ และตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่จะทวงถามเงิน เพราะต้องใช้จ่ายกับการซื้อของใช้สำหรับหลานสาวที่พิการ น้องสาวก็เย้ยหากอยากได้ก็ไปฟ้องเอา คาดว่าแม่คงเครียดมาก จึงได้ตัดสินใจจุดไฟเผาตนเองและหลานสาวที่พิการให้ตายตามกันไปเพราะไม่อยากให้เป็นภาระใคร ซึ่งเรื่องนี้แม่เคยพูดและจะทำมาแล้ว จนที่สุดก็มาถึงจนได้

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้นำศพทั้งสองไปที่โรงพยาบาลสวี เพื่อให้ทางแพทย์ ได้ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งยืนยันผลการตรวจที่ชัดเจนแน่นอน เพื่อสรุปสำนวนคดีต่อไป ถึงแม้ทางญาติจะไม่ติดใจในการเสียชีวิตในครั้งนี้ก็ตาม และจะมอบศพให้ทางญาติเพื่อนำไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป.

โตโยต้าชุมพร https://www.facebook.com/toyotachumphon/?mibextid=ZbWKwL


ฮอนด้าชุมพร https://www.facebook.com/hondachumphon?mibextid=ZbWKwL