ขับรถหรูป้ายแดงขนยาเสพติด
ข่าวเด่น

ขับรถหรูป้ายแดงขนยาเสพติด

ตำรวจด่านปฐมพรรวบหนุ่มเคียนซานายทุนซื้อรถหรูติดป้ายแดง รับจ้างขนเฮโรอีน 80 กก.ยาบ้า 2 แสนเม็ด มูลค่ากว่า 200 ล้าน จากกรุงเทพลงภาคใต้สารภาพทำมาแล้วหลายครั้ง

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.วรรณ นาคพงษ์ หัวหน้าจุดตรวจด่านปฐมพร ว่าสามารถจับกุมขบวนการขนยาเสพติดได้ผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางยาบ้า 2 แสนเม็ด เฮโรอีน 80 กิโลกรัม จึงรายงานต่อ นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผวจ.ชุมพร และ พล.ต.ต.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ให้ได้ทราบ ก่อนเดินทางมาตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ กอ.รนม.ชุมพร

ที่ด่านตรวจปฐมพร ตั้งอยู่ริมถนนสายเพชรเกษม กม. 498 หมู่ 2 ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ตำรวจได้จับกุมนายณรงค์ศักดิ์ เสือทอง 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211/1 หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านเสด็จ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางเฮโรอีนประทับตราสิงห์เหยียบลูกโลก จำนวน 200 ก้อน น้ำหนักก้อนละ 400 กรัม รวมทั้งสิ้น 80 กิโลกรัม และยาบ้าจำนวน 20 ก้อน ภายใน 1 ก้อนบรรจุยาบ้า 10,000 เม็ด รวบทั้งสิ้นจำนวน 200,000 เม็ด มีมูลค่ารวมกันมากกว่า 200 ล้านบาท ที่ลักลอบขนมากับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้อฮุนได รุ่น H1 สีดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ล-9159 กรุงเทพมหานคร ภายหลังทราบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม 

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายณรงค์ศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเคยติดคุกมาแล้วครั้งหนึ่งในคดีค้ายาเสพติด ถูกจองจำเป็นเวลา 2 ปีเศษ หลังจากที่ออกจากเรือนจำก็ได้หางานทำโดยมาเป็นพนักงานขับรถโดยสารปรับอากาศของบริษัทหนึ่ง แต่ด้วยรายได้ไม่เพียงพอที่ใช้จ่ายในครอบครัว จึงได้หันไปหาช่องทางใหม่โดยได้รู้จักกับเพื่อนที่อยู่ในเรือนจ แนะนำให้รู้จักกับนายทุนคนหนึ่ง เป็นขบวนการค้ายาเสพติดลำเลียงจากภาคกลางลงมาภาคใต้

นายณรงค์ศักดิ์ ให้การว่าหลังจากที่ได้รู้จักกับนายทุนคนนี้แล้วก็ได้รับการไว้เนื้อเชื่อใจอย่างดี โดยนายทุนได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวให้ตนเพื่อใช้ในการลำเลียงยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาตนเองได้ขับรถขึ้นไปรับยาเสพติดเป็นเฮโรอีน ยาบ้าและไอซ์มาแล้ว 5 ครั้ง โดยจะนำรถไปจอดที่ปั๊มแห่งหนึ่งแถวเขตดินแดงกรุงเมพฯ แล้วจะมีคนมาขับรถไปขึ้นของประมาณไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็จะขับมาส่งให้ในปั๊มที่เดิม แล้วตนก็จะขับกลับมาเพื่อไปส่งให้ลูกค้า ส่วนใหญ่จะนัดรับของกันที่บริเวณ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยในแต่ละเที่ยวจะได้ค่าจ้างเที่ยวละ 1 แสนบาท และทุกครั้งที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดลงมาจะมีรถกระบะตอนครึ่งขับนำหน้าเพื่อรายงานว่าข้างหน้ามีด่านหรือไม่ และถ้ามีก็จะจอดหรือหาที่พัก เพื่อรอด่านเลิกแล้วขับต่อ

นายณรงค์ศักดิ์ ให้การต่ออีกว่าแต่เที่ยวนี้ หลังจากที่ขับไล่หลังกันมาซึ่งห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตรกับรถนำทาง คาดว่าขณะที่รถนำผ่านป้อมตำรวจปฐมพรไป ก็เป็นช่วงที่ตำรวจออกมาตั้งด่านพอดี ซึ่งตนเมื่อเห็นตั้งด่านก็ตกใจเหยียบเบรก แล้วหักเลี้ยวเข้าซอยข้างทางก่อนจะถึงด่าน บังเอิญมีตำรวจจอดรถดักอยู่ในซอยพอดี จึงเปิดประตูรถเพื่อจะหลบหนีแต่ไม่รอดถูกเรียกจับได้ดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดประเภทที่ 1(เฮโรอีน/ยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า การก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร และเร่งขยายผลติดตามจับกุมขบวนค้ายาเสพติดที่ผู้ต้องหาได้กล่าวถึง มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.