หนีเกณฑ์ทหารทะลักเข้าไทย
ข่าวเด่น เศรษฐกิจ การเมือง ต่างประเทศ

หนีเกณฑ์ทหารทะลักเข้าไทย

ต่างด้าวทะลักหลังเมียนมาประกาศบังคับคนหนุ่มสาวทุกอาชีพต้องเกณฑ์ทหาร เป็นกำลังสำรองสู้รบกับกลุ่มชนชาติพันธุ์ 

จากสถานกาณ์การสู้รบทางภาคเหนือของประเทศเมียนมา ระหว่างกลุ่มชนชาติพันธุ์ ในเขตยึดครอง ทวีความรุนแรงมากขึ้น เมียนมาสูญเสียกำลังพลทั้งบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก และต้องเสียดินแดนเขตปกครองไปหลายเมือง ส่งผลให้เมียนมาขาดแคลนกำลังพลในการสู้รบ จึงต้องออกประกาศเกณฑ์ให้คนหนุ่มสาวทุกอาชีพ ต้องเข้ารับราชการทหาร ไว้เป็นกำลังสำรองในการรบ

โดยรัฐบาลทหารเมียนมา ได้ประกาศกฎหมายรับราชการทหาร เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 67 ที่ผ่านมา ซึ่งจะบังคับใช้ในเดือนเมษายน 67 นี้ ให้ประชาชนหนุ่มสาวทุกคน ทุกอาชีพ โดยกำหนดให้ผู้ชายที่อายุตั้งแต่ 18-35 ปี และผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 18-27 ปี ต้องรับใช้ชาติเป็นเวลา 2 ปี ส่วนประชาชนที่มีทักษะความเชี่ยวชาญพิเศษ เช่น แพทย์ หรือวิศวะ อายุ 18-45 ปี สำหรับผู้ชาย และ 18-35 ปี สำหรับผู้หญิง ต้องรับราชการทหารเป็นเวลา 3 ปี หากผู้ใดที่เพิกเฉยต่อหมายเรียกเกณฑ์เข้ารับราชการทหาร อาจรับโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี

จากประกาศดังกล่าวของทางการทหารเมียนมา ส่งผลให้ชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ มีประชาชนชาวเมียนมาลักลอบเข้าประเทศไทยกันจำนวนมาก เพื่อหลบหนีการเกณฑ์ทหารและมาหางานทำ

สำหรับพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดระนองและจังหวัดชุมพร มีเขตแดนติดกับประเทศเมียนมา จังหวัดระนอง มีด่านชายแดนถาวรให้ประชาชน 2 ประเทศ เข้าออกค้าขายไปมาหาสู่กันได้ ด้วยวิธีบอเดอร์พาส (Border Pass) สามารถพำนักอยู่ในพื้นที่ได้เป็นเวลา 7 วัน จังหวัดระนองมีเขตแดนติดต่อกับประเทศเมียนมา ทั้งทางทะเลอันดามันและทางบกตลอดลำน้ำกระบุรี ยาวกว่า 200 กิโลเมตร 

จังหวัดชุมพร มีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมา ในพื้นที่ตำบลสองพี่น้อง ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ ระยะทางจากทิศเหนือด้าน อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ จรดทางตอนใต้ติดกับ อ.กระบุรี จ.ระนอง ประมาณ 58 กิโลเมตร มีช่องทางธรรมชาติเป็นป่าเขาเข้าออกได้หลายจุด 

จากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้แต่ละวันที่บริเวณท่าเรือระนอง-เกาะสอง ตำบลปากน้ำ อ.เมืองจ.ระนอง ซึ่งเป็นท่าเรือโดยสารระหว่างประเทศไทย กับจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา มีเรือรับจ้างหางยาวจากประเทศเมียนมาจำนวนมาก วิ่งเข้าออกน่านน้ำไทยเพื่อส่งผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง 

ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นคนวัยหนุ่มสาวที่เดินทางเข้ามาเป็นครอบครัวพร้อมด้วยกระเป๋าและสัมภาระใบใหญ่  แตกต่างไปจากช่วงปกติที่ภาพเหล่านี้มักเห็นในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ที่ญาติพี่น้องจากฝั่งเมียนมาจะมาเยี่ยมญาติพี่น้องที่ทำงานอยู่ฝั่งไทย 

ภาพที่ปรากฎคนหนุ่มสาวชาวเมียนมาหลั่งไหลแห่เข้าจังหวัดระนอง ในช่วงนี้ ถือเป็นปรากฎการที่ไม่ปกติ ซึ่งก่อนหน้านี้มีชาวเมียนมาเข้าออกจังหวัดระนอง วันละประมาณ 300-350 แต่หลังจากทางการเมียนมาประกาศเกณฑ์ทหารดังกล่าว ปัจจุบันมีมากกว่า 1,000 คนต่อวัน ซึ่งบางส่วนก็เดินทางเข้ามาพำพักอยู่กับญาติในจังหวัดชุมพร 

ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงทั้งภายในและนอกประเทศทั้งทางบก ทางน้ำ ได้เสริมกำลังออกลาดตระเวนตรวจตราป้องกันตามแนวเขตแดนทางทะเลไทย-เมียนมา มุ่งเน้นท่าข้ามที่เป็นจุดเสี่ยง ช่องทางธรรมชาติ ในการลักลอบข้ามแดน ทั้งด้านจังหวัดระนองและจังหวัดชุมพร มีการจับกุมขบวนการลักลอบขนชาวเมียนมาเข้าประเทศ จำนวนเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน.