หายตัวปริศนานาน 40 วัน ญาติบุกตามคดี “นายหัวสมาร์ท” เจ้าของสนามชนไก่ ยังไร้วี่แวว ผู้การฯตำรวจแจงทำงานต่อเนื่อง จับผู้ต้องหาแล้ว 5 คน แต่อยู่ในกลุ่มผู้รับซื้อรถยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
พี่ชาย นายขนบ สมหวัง หรือ “นายหัวสมาร์ท” เจ้าของสนามชนไก่ชื่อดัง ในพื้นที่อำเภอสวี จ.ชุมพร หายตัวปริศนา พบแต่รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ที่ขบวนการรับซื้อรถส่งขายประเทศเพื่อนบ้านจอดทิ้งอยู่ในป่าละเมาะใกล้แม่น้ำโขง เขตพื้นที่ อ.เมือง จ.นครพนม แต่ยังไม่พบตัวผู้สูญหายนาน 1 กว่าเดือนแล้ว นำญาติพี่น้องบุกสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ทวงถามความคืบหน้าของคดี หลังหมดหวังคดีเงียบ
โดยเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 มี.ค.67 นายสำราญ สมหวัง อายุ 74 ปี พร้อมญาติพี่น้องเดินทาง สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ตำบลนาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีดังกล่าวต่อ พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร เกี่ยวกับคดีที่ นายขนบ สมหวัง อายุ 56 ปี หรือ “นายหัวสมาร์ท” น้องชายและเป็นเจ้าของสนามชนไก่ ได้หายตัวไปพร้อมรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 และภายหลังตำรวจทางหลวงพบยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กท.3424 ชุมพร ของนายขนบผู้สูญหาย จอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะริมแม่น้ำโขง ตำบลหนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม แต่ยังไม่พบตัวนายขนบ หรือ “นายหัวสมาร์ท” จนถึงวันนี้นาน 40 วัน ยังไม่รู้น้องชายว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร และไม่รู้จะพึ่งพาใครนอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าเรื่องยังเงียบจำเป็นต้องเดินทางเรียกร้องต่อเพื่อให้เจอน้องชาย
พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้พูดคุยกับกลุ่มญาติพี่น้องของนายขนบเจ้าของสนามชนไก่ ผู้สูญหายเพื่อชี้แจงข้อสงสัยและทำความเข้าใจกับญาติๆว่า ตำรวจยังติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนสืบสวนสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ผู้เกี่ยวข้องกับคดีอย่างน้อย 5 คน ทราบว่าต่างคนต่างแบ่งหน้าที่กันทำ แต่สำหรับตัวนายขนบหรือ “นายหัวสมาร์ท” ผู้สูญหายทางตำรวจยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด และยังมีชีวิตอยู่หรือไม่เนื่องจากว่าไม่พบศพ ฉะนั้นตำรวจต้องสืบสวนสอบสวนกันต่อไป ส่วนในเรื่องของรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งเป็นวัตถุของกลางในคดี ได้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องไปทั้งหมดแล้ว
พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวต่อว่าส่วนความคืบหน้าในเรื่องของการตามหาตัวคนหายนั้น ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาลงทำงานในลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งความคืบหน้าก็จะรายงานให้ญาติๆผู้สูญหายทราบต่อไป
“ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวพันส่วนตัวกับผู้สูญหาย แต่มีเรื่องความเกี่ยวเนื่องกับการครอบครองรถในห่วงเวลานั้น และสถานที่ต่าง ๆนั้น ก็ปรากฏตามพยานหลักฐาน ส่วนที่ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจะติดต่อกับผู้สูญหายหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบยังไม่มี”
“ ขณะนี้ยังไม่ชี้ชัดได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ผู้สูญหายได้หายตัวไปด้วยสาเหตุใด เนื่องจากไม่ยังไม่พบตัว และคำให้การของภรรยาที่ให้ข้อมูลการหายตัวไปของนายขนบซึ่งมีอยู่ในสำนวนแล้ว ส่วนว่าจะรับฟังได้ขนาดไหนต้องมาวิเคราะห์อีกที ขณะนี้จับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว ราย มีผู้หญิงที่เกี่ยวข้องคดี 1 ราย เป็นชาย 4 ราย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกลุ่มของผู้รับซื้อขายรถ” พล.ต.ต.ภานุเดชกล่าว
ด้าน นายสำราญ สมหวัง กล่าวว่าหลังได้รับคำชี้แจงตนเองรู้สึกดีใจ และใจชื้นขึ้นมาอีกนิดที่ตำรวจยังติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ตนเองคิดว่าเรื่องคงเงียบหาย แต่หลังจากได้รับคำชี้แจงแล้วเชื่อประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ว่าตำรวจจะติดตามตัวคนร้ายปิดคดีได้ในเร็ววัน จึงขอขอบคุณตำรวจทุกคนที่ยังติดตามคดีนี้ ส่วนปมเหตุส่วนตัวตนเชื่อว่ามาจากปัญหาครอบครัว.
โตโยต้าชุมพร https://www.facebook.com/toyotachumphon/?mibextid=ZbWKwL
ฮอนด้าชุมพร https://www.facebook.com/hondachumphon?mibextid=ZbWKwL