พ่อค้ายาบ้าทั้งขายทั้งเสพติดหนักวันละ 50 เม็ด จนเกิดอาการหลอนระแวง เจอใครจะยิงปืนขู่ ทำเอาผวาทั้งหมู่บ้าน ตำรวจต้องสนธิกำลังทหาร ฝ่ายปกครอง บุกจับกุม
วันที่ 15 พฤษภาคม 67 พ.ต.ท.ทวีป เมืองสุวรรณ์ รอง ผกก.(สืบสวน)สภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิจิตร สามัญเมือง สว.สืบสวน สภ.สลุย ,ร.ท.มานะ ขำบุรี หน.ชุดปฏิบัติกิจการพลเรือน กองกำลังเทพสตรี ที่ 401,นายหนูไกร วงษ์ขำ กำนันตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร,นายสมพูล มีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร.,นางสาวปุญญาศา บัวเกิด ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมประชุมวางแผนการจับกุมนายกฤษฎา หรือ อาร์ม แดงแท้ อายุ 38 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 2 บ้านห้วยใหญ่ ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พ่อค้ายาเสพติดรายสำคัญของพื้นที่
ทั้งนี้สืบเนื่องหลังจากการได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน และการสืบสวนหาข่าวทราบว่า นายกฤษฎา หรืออาร์ม แดงแท้ อายุ 38 ปี มีพฤติกรรมเป็นผู้ค้าและเป็นผู้เสพยาเสพติดอย่างหนักมีอาการหลอนและเป็นคนชอบระแวง ไม่ชอบให้ใครมาเข้าใกล้ตัวและชอบเอาอาวุธปืนไล่ยิงขู่ชาวบ้าน จนคนในพื้นที่ต่างหวาดผวาไม่กล้าออกไปไหน โดยชีวิตประจำวันส่วนใหญ่จะหมกตัวอยู่แต่ในสวนทุเรียน สวนปาลม จะออกนอกพื้นที่ในช่วงที่ต้องขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ไปเอายาบ้ามาขายและเสพเท่านั้น และในช่วงกลางวันก็จะหลบซ่อนตัวอยู่ตามป่าละเมาะและตามลำห้วย และในเวลากลางคืนออกมาดูแลสวนทุเรียน อีกทั้งจะมีอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา ส่วนลูกค้าที่จะมาซื้อยาบ้า จะต้องโทรศัพท์มานัดเท่านั้น
หลังจากวางแผนจึงได้เดินทางไปยังเป้าหมาย โดยได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ ออกเป็น 2 ชุด ชุดแรก นำโดย พ.ต.ท.ทวีป เมืองสุวรรณ์ รอง ผกก.(สืบสวน)สภ.สลุย และ ร.ท.มานะ ขำบุรี หน.ชุดปฏิบัติกิจการพลเรือน กองกำลังเทพสตรี ที่ 401 เดินทางไปยังบ้านในพื้นที่หมู่ 2 บ้านห้วยใหญ่ ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของนายกฤษฎา หรืออาร์ม เจ้าหน้าที่ได้พบกับ ภรรยา อายุ 43 ปี กับลูกชายและแม่ของนายกฤษฎาอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ได้แสดงบัตร ปปส.และแจ้งให้ทราบพร้อมขอตรวจค้นบ้าน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ภรรยาของนายกฤษฏาได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบ้าน ซึ่งไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
กำลังชุดที่สองนำโดย พ.ต.ท.วิจิตร สามัญเมือง สว.สืบสวน สภ.สลุย ลัดเลาะตามลำห้วย มุ่งไปยังด้านหลังสวนทุเรียน และพบตัวนายกฤษฎา ยืนอยู่ข้างรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ตอนเดียว สีขาว ทะเบียน บย 9156 ประจวบคีรีขันธ์ ในมือถือปืนยาวอัดลม เจ้าหน้าที่จึงวิ่งเข้าล็อคไว้แบบไม่ให้ตั้งตัวทัน ก่อนจะจับกดลงนอนบนพื้นใส่กุญแจมือไว้ได้อย่างละม่อม
จากการตรวจสอบในกระเป๋าแบบสะพายที่ตัวของนายกฤษฎา พบยาบ้า บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบรูดปิดเปิด ตรวจนับได้ 15 เม็ด ตรวจค้นขนำที่เก็บอุปกรณ์และเครื่องมือการทำสวน ยังพบยาบ้าอีก 185 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกล่องเครื่องช่าง และยังพบถุงพลาสติกสีน้ำตาลแบบรูดปิดเปิดสำหรับบรรจุยาบ้าแบ่งขายนับ 100 ถุง นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนพกสั้นลูกโม่แบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 พร้อมกระสุนที่บรรจุในรังเพลิง 6 นัด ในกระเป๋าแบบหิ้วภายในรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายกฤษฎา หรือ อาร์ม ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของตนจริง และยังมีซุกซ่อนอยู่ในท่อ PVC ข้างบ้านอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมยอมรับว่า ได้ซื้อมาจากเอเย่นต์ใหญ่ที่หมู่บ้านธรรมรัตน์ ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยอ้างว่าจะไปซื้อมาครั้งละ 25,000 บาท ก็จะได้ยาบ้ามา 1 มัด หรือ 2,000 เม็ด แล้วจะแบ่งขายเฉพาะคนที่สนิทกันเท่านั้น ซึ่งยาบ้าส่วนใหญ่จะมีไว้เสพเอง เพราะตนเสพตกวันละ 50 เม็ด
เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจคำให้การของนายกฤษฏามากนัก และเชื่อว่าซื้อมาเสพเอง เพราะเฝ้าดูมานานนับเดือนมีพฤติกรรมทั้งขายทั้งเสพ จึงได้ประสานขอสุนัขมาดมกลิ่นหายาเสพติด แต่ก็ไม่พบยาบ้าอีก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปที่บ้านในพื้นที่หมู่ 2 บ้านห้วยใหญ่ ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของนายกฤษฎาเอง เพื่อนำชี้ยาบ้าที่ซุกซ่อนในท่อ PVC ซึ่งพบยาบ้บรรจุอยู่ในถุงพลาสติดใสแบบรูดปิดเปิด ตรวจนับได้ 196 เม็ด จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายกฤษฎา พร้อมของกลางยาบ้าทั้หมด และยึดรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ตอนเดียว สีขาว หมายเลขทะเบียน บย 9156 ประจวบคีรีขันธ์ รถยนต์โตโยต้า ตอนครึ่ง สีดำ หมายเลขทะเบียน บร 6208 ชุมพร และรถ จยย.บิ๊กไบค์ ยี่ห้อคาวาซากิ สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 8 กว 675 กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบที่มา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุย อ.ท่าแซะ ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหามียาเสพติดให้โทษ ปะเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย และจะขยายผลเครือข่ายยาเสพติดต่อไป.
