ตัดไม้พะยูงริมถนนขาย
ข่าวเด่น

ตัดไม้พะยูงริมถนนขาย

ชาวบ้านร้องสื่อผู้นำชุมชนตัดไม้พะยูงขนาดใหญ่ 5 ต้น อายุกว่า 20 ปี ขึ้นอยู่ริมถนนขายให้นายทุน อ้างเอาเงินเข้าหมู่บ้าน สงสัยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงพื้นที่ตรวจสอบเจอตอหลักฐานแล้วนิ่งเฉย 

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 11 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ริมถนนสายท่าข้าม – หัวว่าว หมู่ 7 ตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้นำชุมชน นำชาวบ้าน พร้อมเครื่องเลื่อยยนต์ตัดไม้พะยูงขนาดใหญ่ซึ่งมีมูลค่านับล้านบาท บนที่ดินสาธารณะริมถนนสายดังกล่าวไปขายให้กับนายทุน โดยไม่ขออนุญาตจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าจุดที่มีการตัดต้นพะยูงอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนบ้านหัวว่าวและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าข้ามมากนัก จุดที่ตัดไม้พยูงอยู่ริมถนนด้านซ้ายซึ่งยังมีร่องรอยกิ่งไม้ขนาดใหญ่ถูกตัดทิ้งไว้จำนวนมาก โดยจุดแรกมีตอไม้พยูงขนาดใหญ่เท่าคนโอบจำนวน 2 ตอ ลำต้นคาดว่าสูงมากกว่า 10 เมตร จุดที่  2 ห่างออกไปอีกประมาณ 100 เมตร พบต้นพะยูงถูกตัดไปเหลือแต่ตอขนาดใหญ่จำนวน 3 ตอ รวมทั้งหมด 5 ต้น ส่วนกิ่งไม้พยูงยังทิ้งระเกะระกะอยู่ตามไหล่ทางจำนวนมาก และมีกล่องใส่อาหาร เครื่องดื่มทิ้งกระจายอยู่ทั่ว 

โดยชาวบ้านให้ข้อมูลว่ามีผู้นำชุมชนและชาวบ้านนำเครื่องยนต์มาตัดต้นพยูงดังกล่าว เพื่อนำไปขายแล้วนำเงินเข้าหมู่บ้าน โดยมีนายทุนมารับซื้อใช้รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน เป็นรถเครนยกไม้ 1 คัน มาบรรทุกไม้ออกไป ซึ่งชาวบ้านเห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากล เนื่องจากต้นพยูงเป็นไม้หวงห้ามที่ชาวบ้านเห็นมานานมีอายุมากกว่า 20 ปีแล้ว เป็นไม้หายากมีราคาแพงซึ่งทั้งหมด 5 ต้น ราคามากกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นไม้หวงห้ามที่ขึ้นอยู่ริมถนนในที่ดินสาธารณะไม่ใช่ที่ดินส่วนบุคคล ต่อมาชาวบ้านได้โทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้ลงมาตรวจสอบ แต่เมื่อลงมาตรวจสอบแล้วเจ้าหน้าที่กลับไม่ดำเนินการใด ๆ จึงแจ้งให้นักข่าวลงตรวจสอบถึงความไม่ชอบมาพากลดังกล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับ นายประจักร์ เต่าทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลท่าข้าม เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าว โดยนายประจักร์กล่าวว่า เรื่องการตัดไม้พยูงเนื่องจากมีผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ได้ร่วมกันทำประชาคมหมู่บ้าน มีมติให้ตัดต้นไม้ใหญ่ริมถนนให้หมดเนื่องจากเป็นปัญหาเรื่องความปลอดภัย และมีมติให้ตัดไม้พยูงขายด้วย เพื่อนำเงินเข้ากองทุนหมู่บ้าน ส่วนตนเป็นแค่เพียงประธานการประชุมเท่านั้น ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านก็ยกมือมีมติเป็นเอกฉันฑ์ให้ดำเนินการ ส่วนตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ สำหรับเงินที่ขายไม้พยูงจำนวน 5 ต้นในราคา 1 แสนบาท ผู้รับซื้อได้โอนเงินเข้าบัญชีหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว

นายประจักรกล่าวต่อว่า ช่วงที่มีการต้นต้นไม่พยูง เจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ก็มาดูเรามีหลักฐานการทำประชาคมหมู่บ้าน และนำเงินจากการขายไม้พยูงเข้ากองทุนหมู่บ้าน มีหลักฐานการโอนเงินชัดเจน ซึงเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ว่าอะไร และก็เดินทางกลับไป

ด้าน นายพินัยพล นาคเล็ก ผอ.ศูนย์ป่าไม้ชุมพร กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก และเพิ่งจะรู้เรื่องนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งไม้พยูงเป็นไม้หวงห้ามขึ้นในที่ดินสาธารณะ ไม่สามารถทำประชาคมหมู่บ้านแล้วมีมติให้ตัดโค่นนำไปขายได้ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เรื่องนี้ต้องตรวจสอบก่อนมีความเป็นมาอย่างไร ส่วนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ลงไปตรวจสอบตามที่ชาวบ้านแจ้งนั้น เบื้องต้นพอรู้แล้วว่าเป็นใครและทราบว่ามีการให้ซองแก่เจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับ อาจจะเห็นว่าเป็นการทำเพื่อหมูบ้านหรืออย่างไรไม่ทราบ ต้องขอเวลาลงพื้นที่ตรวจข้อเท็จจริงก่อนว่ามีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร.