ล้งจีนที่ชุมพรผวาถูกรีดไถหนัก
ข่าวเด่น

ล้งทุเรียนจีนผวา

ผู้ประกอบการล้งรับซื้อทุเรียนชาวจีนที่ชุมพรผวาถูกรีดไถ อาจย้ายไปเวียดนามประเทศคู่แข่งกับไทย หลังมีกลุ่มบุคคลอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจากส่วนกลาง ใช้อำนาจข่มขู่หาเรื่องตรวจสอบอ้างเส้นเงินโยงแก็งคอลเซ็นเตอร์ จีนเทา
วันที่ 19 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ประการล้งทุเรียนชาวจีนและคนไทยที่ทำหุ้นส่วนกับชาวจีนในพื้นที่ จ.ชุมพร ว่าช่วงนี้ได้มีกลุ่มบุคคลอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางหน่วยงานหนึ่ง มามากกว่า 10 คน ใส่ชุดฟอร์มลำลองของหน่วยงาน พร้อมเครื่องมือ มีการแสดงบัตรเจ้าหน้าที่รัฐ ได้เข้ามาขอตรวจสอบผู้ประกอบการล้งทุเรียนในพื้นที่ จ.ชุมพร ซึ่งส่วนใหญ่รับซื้อทุเรียนเพื่อการส่งออกไปยังประเทศจีน มีอยู่ทั้งหมดเกือบ 1 พันแห่ง

โดยเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวอ้างว่าขอตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงินของบริษัทที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเส้นเงินของแก๊งออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกลุ่มจีนเทา แล้วนั่งสอบปากคำบันทึกข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ เมื่อผู้ประกอบการมีหลักฐานแสดงให้ดูจนครบ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ชุดนี้ก็มีพฤติกรรมขอตรวจสอบพาสปอร์ต วีซ่า ใบอนุญาตทำงานของคนจีน และอีกหลายอย่าง ซึ่งผู้ประกอบการบางรายอาจจะมีผิดบ้างในเงื่อนไขที่เป็นเรื่องปลีกย่อยเล็กน้อย ก็จะพยายามจะโยงไปให้เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งจีนเทา และในที่สุดก็ข่มขู่เรียกรับเงินรายละ 200,000 – 300,000 บาท บางรายก็ต่อรองเหลือ 150,000 บาท เพราะกลัวถูกกลั่นแกล้งจึงต้องยอมจ่ายให้เพราะเรื่องจะได้จบ เพื่อจะไม่เสียเวลาทำมาหากิน
“ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ การเข้ามาขอตรวจสอบเส้นทางการเงินในลักษณะนี้ถือเป็นการข่มขู่นักลงทุนต่างชาติหรือไม่ เพราะเขากลัวเจ้าหน้าที่รัฐไทยอยู่แล้ว ถ้าผู้ประกอบการมีส่วนเกี่ยวข้องจริง ทำไมจึงไม่ขอหมายค้น หรือหมายจับมาเลย นี่แค่มาแสดงตัวแสดงบัตรเป็นเจ้าหน้าที่รัฐอ้างอำนาจหน้าที่โน่นนี่นั่นเชิงข่มขู่ แล้วขอตรวจสอบเส้นทางการเงินเมื่อมีแสดงให้ดูจนครบ ก็พาลไปขอตรวจสอบเอกสารและเรื่องอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตนเอง” 
“ถ้าพวกตนไม่ให้ความร่วมมือก็กลัวจะมีปัญหากับเจ้าหน้าที่รัฐ จึงอยากเรียกร้องให้ สส.ชุมพร ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นตัวแทนประชาชนในพื้นที่ และผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี ลงมาตรวจสอบด้วย เพราะตอนนี้ผู้ประกอบการชาวจีนที่เข้ามาทำธุรกิจโดยสุจจริต กำลังถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้ประเด็นเส้นเงินจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งออนไลน์ เข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ใช้ลงทุน โดยโยงไปว่าอาจเกี่ยวข้องกับธุรกิจ สีเทาดังกล่าว เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ จนรู้สึกไม่มีความปลอดภัยในการทำธุรกิจ ซึ่งอาจจะให้ทำให้นักธุรกิจชาวจีนต้องย้ายฐานการรับซื้อทุเรียนไปอยู่ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีการปลูกทุเรียนจำนวนมากแข่งกับประเทศไทยอยู่ตอนนี้ และจะทำให้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนไทยได้รับความเดือดร้อน ” ตัวแทนผู้ประกอบการกล่าว.