สาวขับเก๋งชนแม่ลูกดับ3ศพ
ข่าวเด่น

สาวขับเก๋งชนแม่ลูกดับ3ศพ

แม่ขับรถจักรยานยนต์ไปรับลูกชาย-หญิง โรงเรียนดัง กลับจากเรียนพิเศษ ระหว่างทางมีหญิงสาวขับเก๋ง BMW มาด้วยความเร็ว ชนเสยท้ายร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ ดับอนาถ 3 ศพ ส่วนคนขับเก๋งให้ชาวบ้านช่วยจับแมวสุดรัก ก่อนทิ้งรถหลบพาหลบหนีไปกับความมืด
เมื่อเวลา 19.40 น.วันที่ 27 พ.ย. 67 ร.ต.อ.สหชาติ สังข์สม รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตรถเก๋งชน รถจยย.มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บนถนนทางหลวงชนบทสาย จ แยกโค๊ก-ทุ่งเบี้ย หมู่ 1 ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์
ที่เกิดเหตุบริเวณเชิงสะพานข้าทางรถไฟของถนนทางหลวงชนบทสาย จ. บนช่องทางขาอออก ก่อนถึงทางแยกเชื่อมเส้นทางสายหลักถนนเอเชีย 41 เพียง 700 เมตร เจ้าหน้าที่พบศพเพศชายอยู่ในชุดนักเรียน ทราบภายหลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนดังในเมืองชุมพร นอนเสียชีวิตอยู่ข้างแบริเออร์คอนกรีต ทราบชื่อคือนายกฤตเมธ อายุ 16 ปี บ้านอยู่หมู่ 3 ตำบลวิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร สภาพแขนขากระดูกหักแผลทั่วร่าง นอนหงายเสียชีวิต 1 ศพ
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบอีก 2 ศพ ถูกรถเก๋งชนกระเด็นตกจากสะพานข้ามรางรถไฟ เป็นเพศหญิงอยู่ในชุดนักเรียนทราบชื่อคือ ด.ญ.บุณยานุช อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 อยู่โรงเรียนเดียวกับศพแรกซึ่งเป็นพี่ชาย และอีกศพทราบชื่อคือ นางเย็นจิตร รัตนภา อายุ 52 ปี ทราบว่าเป็นแม่ของเด็กนักเรียนทั้ง 2 ศพ สภาพนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณเกาะกลางของถนนคู่ขนาน โดยทั้งสองศพอยู่ในสภาพกระดูกหักศีรษะแตกมีแผลทั่วร่างเลือดไหลนองถนน เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ผ้าคลุมศพเพื่อให้อุจาดตา
จุดเกิดเหตุห่างจากศพแรกประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถ จยย.ฮอนด้า สีดำ รุ่นเวฟ 110 ไอ หมายเลขทะเบียน 1 กณ 9257 ชุมพร สภาพถูกถูกชนเสยท้ายอย่างแรงจนรถอยู่ในสภาพหักงอ ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถยนต์เก๋งสีดำ ยี่ห้อ BMW หมายเลขทะเบียน กจ 44 นครศรีธรรมราช จอดสนิทอยู่บนถนนคู่ขนาน โดยหันหน้าสวนทางกับรถขาออก อยู่ห่างจากรถ จยย.เกือบ 100 เมตร อยู่ในสภาพตั้งแต่กันชนไปถึงล้อด้านหน้าขวาพังยับเยิน นอกจากนี้ล้อหลังด้านขวา ยังพับหักจากอุปกรณ์ส่วนยึดล้ออีกด้วย ส่วนคนขับรถคันดังกล่าวไม่พบในที่เกิดเหตุซึ่งได้หลบหนีไปแล้ว

เจ้าหน้าที่จึงตรวจค้นภายในรถพบสมุดใบคู่มือจดทะเบียนประจำรถอยู่หลายเล่ม และยังพบกระเป๋าเงินตกอยู่ภายในรถ จึงได้นำมาตรวจสอบพบว่าบัตรประจำประชาชนและบัตรขับขี่ระบุชื่อ น.ส.ภารดา แพนุ้ย บ้านอยู่ถนนศาลาแดง ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร และยังพบสุราไทยยีห้อดังเก็บไว้ในช่องเก็บของตรวงกลางเหลืออยู่ไม่เต็มขวด จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุกำลังเต้นแอโรบิคออกกำลังกายกันอยู่ที่ลานหน้าบ้านริมถนนคู่ขนาน ใกล้เชิงสะพาน ได้เสียงดังโครมสนั่นจนกลบเสียงดนตรีทุกคนได้หันไปเห็นคล้ายคนกระเด็นปลิวตกจากสะพานลงมากระแทกพื้นด้านล่าง จึงวิ่งออกไปดูก็พบว่าเป็นคนถูกรถเก๋งชนตกลงมาจำนวน 2 ศพ และอีก 1 ศพ นอนตายอยู่บนถนนเชิงสะพานใกล้กับแบริเอร์คอนกรีต จึงได้แจ้งให้ทางตำรวจได้มาตรวจสอบดังกล่าว
ในขณะชาวบ้านอีกรายได้ให้ข้อมูลว่าบ้านตนเองอยู่ฝั่งตรงข้ามขณะที่นั่งเล่นกันอยู่หน้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงดังโครม จึงหันไปมองตามต้นเสียงก็พบรถยนต์เก๋งหมุนเคว้งจากบนถนนสายหลักชนเข้ากับเกาะกันทางข้ามไปจอดนิ่งบนถนนคู่ขนาน ตนเองจังวิ่งข้ามถนนมาเพื่อจะได้ช่วยเหลือเพราะตอนแรกคิดว่ารถเสียหลักเอง โดยไม่คิดว่าเฉียวชนรถคนอื่นมา

ชาวบ้านรายนี้ เล่าต่อว่าเมื่อมาถึงก็พบหญิงสาวอายุไม่มากนัก เปิดประตูลงมาจากรถตนเองก็ถามว่าเป็นอะไรรึเปล่าให้ช่วยเหลืออะไรหรือไม่ โดยหญิงคนขับร้องขอให้ช่วยหาแมวให้หน่อยบอกว่ามันตกใจวิ่งออกจากรถ ตนเองก็ช่วยหาจนเจอพบอยู่ใต้ท้องรถ และทางหญิงสาวนั้นก็หยิบมือถือมาโทรหาใครไม่ทราบพร้อมบอกว่าเดี่ยวให้แฟนมารับ ประกอบกับตอนนั้น ตนเริ่มเห็นบริเวณสะพานมาคนส่งเสียงดังลั่น จึงเดินไปดูและหันกลับไปที่หญิงสาวอีกที ก็พบว่าเดินอุ้มแมวหายไปความมืดแล้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นตำรวจพบว่ารถ จยย.สามคนแม่ลูก กำลังขับรถ จยย.กลับจากเรียนพิเศษในตัวเมืองชุมพร เพื่อจะกลับบ้านที่ ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 6 กม. โดยใช้ถนนสายทางหลวงชนบท สาย จ. แยกโค๊ก-ทุ่งเบี้ย ซึ่งเป็นถนนสายเลี่ยงตัวเมืองชุมพร จนมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสะพานข้ามรางรถไฟ และก่อนจะลงสะพานพบว่าเป็นทางโค้งขวา สันนิษฐานว่า รถยนต์เก๋ง BMW น่าจะมาด้วยความเร็ว แล้วคุมรถไม่อยู่ หรืออาจไม่ทันสังเกตเห็น รถ จยย. หรืออาจจะหยอกเล่นอยู่กับแมว หรือคนขับอาจจะดื่มสุราจนมีอาการมึนเมา จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
โดยตำรวจได้นำเมมโมรีการ์ดจากกล้องที่ติดหน้ารถยนต์เก๋งไปตรวจสอบหาสาเหตุและเก็บหลักฐานอื่น ๆในรถใช้เป็นหลักฐานประกอบการสอบสวนดำเนินคดี และจะออกหมายเรียก นางสาวภารดา แพนุ้ย ว่าเป็นบุคคลเดียวที่ขับรถยนต์วันเกิดเหตุหรือเปล่า ถ้าใช่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.สาวขับเก๋ง

———————————-