ยิงพ่อเลี้ยงดับ เป็นลูกชายคนเดียวอ้างน้อยใจแม่หลังมีสามีใหม่เป็นอดีต อส.ความรักที่มีกับลูกเปลี่ยนไป ก่อนก่อเหตุเสพยาบ้า 10 เม็ด
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 28 มีนาคม 68 ร.ต.ท.วรุณ สมทรง รอง สว.(สอบสวน)สภ.ปะทิว ได้รับแจ้งจาก น.ส.ลัดดาวัลย์ ดวงพุมเมศร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่า มีเหตุยิงกันตาย ที่ห้องเช่าหลังสถานีรถไฟบ้านคลองวังช้าง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาให้ได้ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ณรงค์ธรรม พันธ์พฤกษ์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.ปะทิว กำลังตำรวจชุดสืบสวน อาสากู้ชีพกู้ภัย สมาคมนักข่าวชุมพร-ปะทิว
ที่เกิดเหตุอยู่ เป็นบ้านเช่าแบบห้องแถวชั้นเดียว ปลูกติดกัน 5 ห้อง ริมถนนสายปะทิว-บ้านคลองวังช้าง โดยห้องที้เกิดเหตุเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ชื่อ “ร้านเจ้นุ้ย สุขเสมอ” ภายในร้านพบศพ นายเสมอ สุขปะวิทย์ อายุ 66 ปี บ้านอยู่หมู่ 4 ตำบลชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร เป็นอดีต อส.ครูฝึก อส.จ.ชุมพร สวมเสื้อยืดสีดำ แขนกุด กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล สภาพนอนคว่ำจมกองเลือดอยู่ตรงหน้าประตูห้องเช่า
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายสิทธิพร สังข์ทอง อายุ 22 ปี บ้านอยู่หมู่ 4 ตำบลชุมโค องปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของนายเสมอ ยืนถืออาวุธปืนลูกซองสั้น เดินวนเวียนอยู่บริเวณหน้าห้องเช่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เกลี่ยกล่อมให้วางอาวุธปืนลง และสามารถจับกุมตัวได้ พร้อมยึดอาวุธปืนลูกซองสั้นไว้ โดยในรังเพลิงมีปลอกกระสุนที่ยิงแล้วคาลำกล้อง 1 นัด และยังพบกระสุนลูกซองขนาดเบอร์ 12 ยังไม่ได้ยิง วางอยู่บนโต๊ะอาหาร 1 นัด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวนายสิทธิพรพร้อม นางเรณู อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายสิทธิพร ผู้ก่อเหตุ ออกจากที่เกิดเหตุเพราะหวั่นจะเกิดเหตุญาติๆผู้ตายจะเข้ามาทำร้าย แล้วนำมายังห้องสืบสวน สภ.ปะทิว
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบชันสูตรศพพบ นายเสมอ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าบริเวณศีรษะช่วงท้ายทอย เป็นรูขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ทางอาสากู้ชีพกู้ภัยสมาคมนักข่าวชุมพร-ปะทิว ทำการจัดเก็บศพ เพื่อนำส่งให้โรงพยาบาลปะทิว ทำการชันสูตรพลิกศพอยางละเอียด
สอบถาม น.ส.สาริสา อายุ 45 ปี และ น.ส.อรภรณ์ อายุ 43 ปี บ้านอยู่หมู่.2 ตำบลชุมโค อ.ปะทิว ซึ่งเป็นญาติของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า บ้านตนเองอยู่ไม่ไกลมากนัก และหลังจากที่ได้ทราบข่าวก็รีบมาดู และก็พบผู้ก่อเหตุยังเดินถืออาวุธปืนอยู่ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็ได้เข้าไปพูดคุย จนนายสิทธิพร ผู้ก่อเหตุยอมให้จับกุม ส่วนสาเหตุนั้นตนเองไม่แน่ใจ แต่เห็นผู้ก่อเหตุมีอาการแล้วลุกลี้ลุกลนเก็บอาการไม่อยู่
ด้าน น.ส.ลัดดาวัลย์ ดวงพุมเมศร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลชุมโค อ.ปะทิว กล่าวว่า นายสิทธิพรผู้ก่อเหตุนั้นเป็นลูกชายคนเดียวของ นางเรณู ซึ่งก่อนหน้าทั้งสองอยู่บ้านของตนเอง ซึ่งห่างจากบ้านเกิดเหตุไม่มาก ซึ่งนางเรณู เป็นม่ายมีลกชาย 1 คนคือผู้ก่อเหตุ ต่อมามีนายเสมอมาชอบพอกัน และได้อยู่กินฉันสามีภรรยา โดยได้มาเช่าห้องแถวเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง ตลอดที่อยู่ด้วยกันประมาณ 1 ปี ในฐานะผู้ใหญ่บ้านก็ไม่พบว่าจะมีเหตุรุนแรงใดๆ ส่วนเรื่องอื่นๆตนเองไม่ทราบ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับ นางเรณู แม่ผู้ก่อนเหตุ ซึ่งอยู่ที่ สภ.ปะทิว พร้อมได้พูดคุยถึงมูลเหตุที่เกิดขัน ซึ่งนางเรณู ได้เล่าว่า ตนเองได้อยู่กินกับนายเสมอมาประมาณ 1 ปี และตลอด 1 ปี ตนเองก็อยู่กันอย่างมีความสุข ไม่มีอะไรมากมาย ต่างคนก็ต่างช่วยกันทำมาหากิน แต่ก็มีเพียงลูกชายตนเท่านั้น ที่มักจะบ่นและส่งข้อความมาบ้าง โทรมาบ้าง เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่มักจะแวะมากินข้าวเป็นครั้งคราว โดยตัวลูกชายจะบ่นว่าตนเองเปลี่ยนไป แม่ไม่เหมือนเดิม พร้อมคำพูดว่า แม่ไม่เป็นตัวของตัวเองหลังจากที่ได้สามีใหม่ จะไม่ฟังตนเหมือนถูกทำของใส่ ซึ่งตนเองก็พยายามชี้แจ้งให้ลูกชายฟังว่า ความรักไม่เคยเปลี่ยน และพ่อเลี้ยงซึ่งลูกชายจะเรียกลุง จะเป็นห่วง เพราะลุงเป็นอดีต อส.และเป็นครูฝึกเกี่ยวกับงานบำบัดยาเสพติด และลุงเป็นห่วงลูกชาย อยากให้ลูกชายไม่เข้าไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยล่าสุดก็ได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะซึ่งก็พบว่าเป็นสีม่วง
นางเรณูเล่าต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสิทธิพร ได้ขับรถ จยย.มาหน้าร้าน ซึ่งเป็นขณะเดียวกันที่ นายเสมอสามีซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงลูกชาย ออกไปดูวัวที่ผูกล่ามไว้ในสวน โดยตนก็ถามว่า เมื่อวานทำไมไม่มากินข้าว ซึ่งก็ไม่ได้ฟังคำตอบ เพราะหลังจากที่เอาข้าวของขึ้นรถแล้วก็เข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตนเองใจหาย คิดในใจว่าลูกชายต้องถูกพ่อเลี้ยงยิงแน่ แต่พอออกมาก็พบว่า พ่อเลี้ยงกลับถูกลูกชายตนยิงตายแล้ว จึงโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ด้านนายสิทธิพร ผู้ก่อเหตุให้ปากคำว่ากับเจ้าหน้าที่ว่า ตั้งแต่แม่ได้กับพ่อเลี้ยง ความรักที่แม่เคยให้กลับเปลี่ยนไป ตนเองพูดอะไรก็ผิดไปหมด นานวันก็ยิ่งทำให้ตนเองน้อยใจ จึงพยายามเก็บอาการไว้ จนในที่สุดตนเองรู้สึกว่า แม่เหมือนถูกครอบงำจากพ่อเลี้ยง จนไม่เป็นตัวของตัวเอง ตนเองจึงได้สั่งซื้อปืนมาจากเพื่อน และก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ตนเองได้เสพยาบ้าไป 10 เม็ด และในวันนี้ก็ได้ขับรถ จยย.มาที่ร้านของแม่ และเมื่อมาถึงไม่พบพ่อเลี้ยง จึงได้นั่งรอ จนนพ่อเลี้ยงกลับเข้ามาแล้วนั่งอยู่บริเวณหน้าห้อง ตนเองจึงเดินปรี่เข้าไปพร้อมชักปืนออกมาจกาเอว ยกจ่อไปที่ท้ายทอยจ่อยิงจนล้มลง และก็รอตำรวจมาจับกุมดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งขอกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว ดำเนินคดีตามกำหมายต่อไป.



