รวบแล้วโจรพม่าแรงงานเถื่อนใช้ขวดตีหัวเจ้าของร้านขายของชำชิงร้อยทองหนัก 1.50 บาท หลังหนีได้ 3 วัน อ้างหาเงินส่งรักษาแม่ป่ายอยู่ที่โรงพยาบาล
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 19 เมษายน 68 พ.ต.อ.พิน อินมาก ผกก.สภ.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมกำลังตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กิตติพันธ์ ศิริพร รอง ผกก.บก.สส.ภ.8 , พ.ต.ท.วิชิต ขำคชกรรณ รอง ผกก.สืบสวน สภ.วิสัยเหนือ พ.ต.ท.สุวพศ สุทธิเกิด รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.วิวัฒน์ ฉิมมณี สว.กก.สืบสวนภ.จว.ชุมพร ได้ควบคุมตัวนายอาว หรือ THUYA PHYO (ตู่ยะ ฟิว)สัญชาติเมียนม่า พร้อมรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำแดง และงเงินสด 31,000 บาท มายัง สภ.วิสัยเหนือ เพื่อทำการสอบปากคำ ตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร เลขที่ 118/2568 ในฐานความผิด ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างการและจิตใจ
ทั้งสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 17 เมษายน 68 เวลา 07.30 น.ที่ผ่านมา นายอาว หรือ THUYA PHYO (ตู่ยะ ฟิว)แรงงานเถื่อนชาวเมียนมา เนื่องจากหมดอายุทำงานในราชอาณาจักร ได้ขับรถ จยย.คันดังกล่าวเข้าไปก่อเหตุ ที่ร้านขายของชำ เลขที่ 75/2 ม.11 ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนในหมู่บ้านสายบ้านบนเนิน ห่างจากถนนสายเอเชีย 41 ถนนสายหลักเข้าไปกว่า 20 กม.โดยภายในร้าน มี นางกชพรรณ แก้วจินดา อายุ 53 ปี กำลังยืนจัดเตรียมสิ่งของอยู่ ภายในร้าน ต่อมาได้มีนายอาว ขับ รถ จยย.มาจอดที่ริมถนนแถวหน้าร้าน แล้วเดินเข้ามาในร้านเพื่อขอซื้อสิ่งของ โดยนายอาว ได้ยกมือไหว้ก่อนเข้าไปในร้าน ในลักษณะคนมักคุ้นกัน ไม่นานหลังจากที่นางกชพรรณ เจ้าของร้านกำลังจัดข้าวสิ่งอยู่ นายอาว ได้ฉวยโอกาส ใช้ขวดเบียร์ เข้าทำร้ายเข้าบริเวณศีรษะจนนางกชพรรณล้มฟุบลง แล้วนายอาวได้กระชากสร้อบคอทองคำ น้ำหนัก 1.50 บาท ขึ้น รถ จยย.ขับหนีไป
หลังจากที่ที่นายอาว ก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังชุดสืบสวน ลงติดตามสืบหาเบาะแสเส้นทางการหลบหนีแยุ๋นาน 3 วัน จนสืบทราบว่า นายอาว หลังก่อเหตุได้ขับรถ จยย.ไปหาเพื่อนชาวเมียนม่าด้วยกัน ที่บ้านเขาหลัก ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอหมายศาล เพื่อเข้าทำการจับกุม นายอาว เพราะเกรงจะหลบหนีออกราชอาณาจักร
จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจู่โจมเข้าจับกุมนายอาว ได้โดยละม่อม ขณะที่นายอาว กำลังนอนเล่นอยู่หน้ากระท่อม ภายในสวนทุเรียนที่เพื่อนซึ่งทราบชื่อภายหลังคือนายมิน และเมื่อนายอาวเห็นเจ้าหน้าทีตำรวจ ได้พยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปในสวนทุเรียน จนล้มลุกคลุกคลาน แต่ก็ถูกจับได้ในที่สุด
จากการสอบสวน ทางนายอาว ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายและชิงสร้อยคอทองคำ ของนางกชพรรณ เจ้าของร้านขายของชำ จริง ซึ่งหลังจากที่ก่อเหตุก็ได้ขับรถ จยย.ไปที่ นายมิน เพื่อนชาวเมียนม่า และได้ชวนนายมิน นั่งรถ จยย.มาที่ อ.สวี เพื่อเอาสร้อยทองที่จี้มาได้ มาขายให้กับทางร้านทองแห่งหนึ่งในตลาดสวี โดยขายได้ 68,300 บาท หลังจากนั้นได้นำเงินไปโอนให้แม่ที่ป่วยอยู่ที่ รพ.ประเทศเมียนม่า จำนวน 16,300 บาท และอีก 8,000 บาท ให้กับนายมิน ที่ไปเป็นเพื่อนขายสร้อยทองในครั้งนี้ และหลังจากนั้นก็ไปซื้อซิม มือถือใหม่ด้วย ส่วนที่เหลือก็ใช้จ่ายซื้อข้าวของไป จนมาถูกจับในที่สุด
นายอาว กล่าวว่า การที่ตนต้องก่อเหตุเป็นเพราะเกิดความเครียดที่ไม่มีเงิน งานที่ทำในสวนยางก็ยังไม่ได้เงิน เนื่องจากยังไม่ได้กรีดยาง เพราะฝนตก ประกอบกับแม่ซึ่งป่วยอยู่ ต้องการใช้เงินเพื่อรักษาตัว ทำให้ตนเองกินเหล้าวย้อมใจก่อนขับรถ จยย.เข้าไปก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฐานความผิด ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างการและจิตใจ”และได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคือ “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.



