กฟผ.รวมพลังจิตอาสาปลูกป่าปล่อยสัตว์น้ำฟื้นฟูชายเลนในพื้นที่ทวงคืน ตามนโยบาย คสช. เฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันที่ 19 กรกฎาคม 2561 นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ รอง ผวจ.ชุมพร นายสืบพงษ์ บูรณศิรินทร์ รองผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัทในกลุ่ม กฟผ. นายรักพงษ์ บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จัดกิจกรรม “เราทำความดีด้วยหัวใจ ปลูกป่าชายเลน เทิดไท้องค์ราชัน” เฉลิมพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดีเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 66 พรรษา 28 กรกฎาคม 2561 บริเวณป่าชายเลนตำบลทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร
นายสืบพงษ์ บูรณศิรินทร์ รองผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กิจกรรมทำความดีของ กฟผ. ที่น้อมนำแนวพระราชปณิธานจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ ไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยรวมพลังจิตอาสาจากภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมของ จ.ชุมพร และกรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมกันปลูกป่าชายเลน จำนวน 100 ไร่ และปล่อยสัตว์น้ำเพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ตำบลทุ่งคา อ.เมืองชุมพร โดยแบ่งรูปแบบการจัดกิจกรรมเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 Kick Off เริ่มปลูกป่าชายเลนในวันนี้จำนวน 10 ไร่ และระยะที่ 2 จะรณรงค์เชิญชวนเครือข่าย กฟผ. ทุกภาคส่วน ร่วมปลูกป่าชายเลนต่อเนื่องจนครบพื้นที่ อีกจำนวน 90 ไร่ ภายในเดือนตุลาคม 2561
นายสืบพงษ์ กล่าวต่อว่า กฟผ. มุ่งดำเนินโครงการปลูกป่าอย่างยั่งยืนจึงใช้หลักการปลูกป่าตามผลการศึกษาทางวิชาการ คือ ปลูก 1 ปี และบำรุงรักป่าที่ปลูกต่อเนื่อง 2 ปี ซึ่งนอกจากจะช่วยฟื้นฟูสภาพผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังช่วยสร้างสมดุลของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อเป็นแหล่งอนุบาลและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำอีกด้วย รวมทั้ง กฟผ.ยังเลือกพื้นที่ในการปลูกป่าที่เป็นความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง เพื่อให้เกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของผืนป่า และเต็มใจที่จะช่วยดูแลรักษาป่าให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ ในพื้นที่จังหวัดชุมพร กฟผ. ได้ดำเนินการปลูกป่ามาตั้งแต่ปี 2537 แบ่งเป็น ป่าบก 10,165 ไร่ และป่าชายเลน 1,900 ไร่ รวมเป็นจำนวน 12,065 ไร่
ด้าน นายรักพงษ์ บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร กล่าวว่าที่ผ่านมาอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ได้ขอคืนพื้นที่จากบริษัทเอกชนซึ่งหมดสัญญาเช่าตามนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐบาล จำนวน 2,700 ไร่ ซึ่งสภาพพื้นที่ปัจจุบันเป็นบ่อสำหรับเลี้ยงกุ้งไม่มีต้นไม้หากจะปล่อยให้ฟื้นฟูตามธรรมชาติจะต้องใช้เวลานาน จึงต้องอาศัยการฟื้นฟูจากมนุษย์ และหากจะใช้งบประมาณของทางราชการเพียงอย่างเดียว ก็จะต้องใช้เป็นจำนวนมาก จึงได้เสนอโครงการและขอสนับสนุนจาก กฟผ. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำงานปลูกป่าร่วมกับกรมอุทยานฯ เป็นเวลานาน และมีศักยภาพในการปลูกป่า ทั้งนี้ อุทยานฯ ยินดีสนับสนุนกล้าไม้ จำนวน 700 ต้นต่อไร่ เพื่อให้ กฟผ. และพลังมวลชนจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมกันปลูกป่าฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าวให้กลับคืนเป็นป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ รอง ผวจ.ชุมพร กล่าวว่าเดิมจังหวัดชุมพรมีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ปัจจุบันถูกบุกรุกเพื่อทำเป็นบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำดังเช่นพื้นที่แห่งนี้ จนไม่เหลือเป็นสภาพป่าชายเลนอย่างที่เคยเป็น ซึ่งการฟื้นฟูตามธรรมชาติคงต้องใช้เวลานาน ฉะนั้นทุกภาคส่วนต้องผนึกกำลังกันปลูกป่าชายเลนด้วยความร่วมแรงร่วมใจ และขอขอบคุณ กฟผ. กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ประชาชน นักเรียน และทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนในครั้งนี้.
