จับ “ไอ้ตั้ม” “ไอ้รัก” 2 คู่หูโหด ยิงตำรวจ ปปส.ดับ เหตุถูกขับรถเปลี่ยนเลนปาดหน้ากะทันหัน ฉุนจัดโทรตามเพื่อนมาสกัดก่อนลงมือ
วันที่ 20 ก.ค.2561 ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ชุมพร พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ พ่วงพิศ ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ ผกก.สภ.เมืองชุมพรได้แถลงการจับกุมตัว นายกิตติพงษ์ หรือรักษ์ พิทักษ์สุข อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 510/109 หมู่ที่ 8 ตำบลปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชุมพร ที่ จ.156/2561 ลงวันที่ 18 ก.ค.2561 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนสมควรแก่พฤติการณ์โดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองพกสั้น 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซอง 6 นัด รถยนต์กระบะอีซูซุ ทะเบียน กข 8689 ชุมพร 1 คัน รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน กร 7959 สุราษฎร์ธานี 1 คัน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
พล.ต.ท.สรศักดิ์ กล่าวว่าจากการสอบสวนของชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง หน.ฉก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.ณัฐชัย พิณวานิช หน.ปปส. พ.ต.ต.ฐิตินัฐฎ์ ศรีสังข์ สว.กก.สส. ทราบว่าพฤติการณ์ในการก่อเหตุนั้นผู้เสียชีวิตคือ ส.ต.ท.พยุงศักดิ์ ใหมดี ตำรวจ ปปส. ประจำด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ได้นั่งรถยนต์มากับเบาะคู่หน้าของรถยนต์เก๋ง ที่มี นายชานัฐ หรือเบส บุญชู เป็นผู้ขับขี่ออกจากบ้านพักที่ จ.นครศรีธรรมราช มุ่งหน้ามา จ.ชุมพร ต่อมาขณะที่ขับขี่มาบนถนนเอเชีย 41 ผ่านสะพานแม่น้ำหลังสวน นายชานัฐ ได้เปลี่ยนช่องทางเดินรถจากขวาเข้ามาซ้ายกะทันหันโดยที่ไม่ได้มองรถที่วิ่งมาทางซ้าย เป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะซึ่งขับขี่มาในช่องทางซ้ายเกิดความไม่พอใจ แล้วได้กดบีบแตรเป็นเสียงยาวกว่า 1 นาที แล้วจึงขับขี่ขึ้นมาช่องทางรถด้านขวาในลักษณะประกบคู่ไม่ยอมแซงแต่ได้ตีคู่ไป 400-500 เมตร ก่อนจะได้ขับเร่งแซงไป
ต่อมานายชานัฐ ได้ขับขี่รถมาจนถึงบริเวณด้านหน้าสถานีขนส่งผู้โยสารชุมพรเมืองใหม่ ตำบลขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร ได้มีรถยนต์กระบะคันดังกล่าวขับมาประกบอีก นายชานัฐ ก็ได้ขับขี่มุ่งหน้าไปทางสี่แยกปฐมพร เมื่อใกล้สี่แยกปฐมพร ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะได้ลดกระจกลงพร้อมตะโกนว่าให้จอดรถ นายชานัฐได้ขับต่อไปอีกประมาณ 500-600 เมตร รถยนต์กระบะได้เข้ามาเบียดและปาดหน้า ส.ต.ท.พยุงศักดิ์ที่นั่งมาด้วยจึงบอกให้หยุดรถที่เกิดเหตุ จากนั้น ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะได้จอดรถด้านหน้าแล้วเดินข้ามาหานายชานัฐและเคาะกระจกฝั่งคนขับ พอนายชานัฐลดกระจก ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะได้ชกต่อยนายชานัฐผ่านช่องกระจกเข้าที่ใบหน้าของนายชานัฐ 4-5 ครั้ง จนนายชานัฐต้องปิดกระจก จากนั้นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะได้อ้อมไปข้างหลังรถนายชานัฐได้มองเห็นมีรถยนต์เก๋งจอดปิดท้ายอยู่อีก 1 คัน ในขณะนั้นนายชานัฐ เห็น ส.ต.ท.พยุงศักดิ์ได้ลงจากรถเพื่อไปเจรจา จากนั้นนายชานัฐได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แล้วเห็นว่า ส.ต.ท.พยุงศักดิ์ ล้มลง แล้วก็เห็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะวิ่งขึ้นรถแล้วขับหลบหนีไป โดยมีรถยนต์เก๋งขับขี่ตามไปพร้อมกัน จากนั้นนายชานัฐ จึงได้แจ้งตำหนิรูปพรรณคนร้ายและรถยนต์ให้ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร ทันที
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบรถยนต์กระบะอีซูซุ สี่ประตูสีบอร์น กข 8698 ชุมพร ทราบว่าเจ้าของรถเป็นของ นางนิสิทธิ์ สุภาธนกิจ เมื่อได้ตรวจสอบบุคคลภายในบ้านพบว่ามีบุคคลที่มีลักษณะตามที่นายชานัฐแจ้งข้อมูลและได้เอาภาพให้นายชานัฐดูซึ่งยืนยันว่า นายมีศักดิ์ หรือตั้ม สุภาธนกิจ บุคคลตามภาพคือชายที่ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ ทะเบียน กข 8698 ชุมพร คันก่อเหตุ จนนำไปสู่การออกหมายจับ นายมีศักดิ์ หรือตั้ม สุภาธนกิจ และได้เข้ามอบตัวในเวลาต่อมา โดยได้ให้การว่าอยู่ในเหตุการณ์จริงแต่ไม่ได้เป็นคนลงมือยิงพร้อมให้การซัดทอดว่าเพื่อนของตนเองซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งที่จอดปิดท้ายเป็นผู้ลงมือ
จากนั้นชุดสืบสวนได้ขยายผลจนทราบว่า รถยนต์เก๋ง นิสสัน คันดังกล่าว เป็นของนายกิตติพงษ์ หรือรักษ์ พิทักษ์สุข จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับและสามารถควบคุมตัวได้ที่ห้องเช่าในซอยกรมหลวงชุมพร 4/3 เขตเทศบาลเมืองชุมพร โดยนายรักษ์ให้การว่านายตั้มได้โทรมาหาแล้วบอกว่ามีคนขับรถปาดหน้าให้ออกมาช่วยที จึงได้ขับรถออกมารอและขับประกบปิดท้ายไปยังที่เกิดเหตุโดยอาวุธปืนเป็นของตนเองซึ่งได้นำติดตัวไปด้วยก่อนจะลงมือยิงและหลบหนีไปและถูกจับกุมดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายกิตติพงษ์ หรือรักษ์ พิทักษ์สุข ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดเกิดเหตุต่างๆ ก่อนจะควบคุมไปตัวไปฝากขังต่อไป.