ครอบครัวยากจนหาเช้ากินค่ำ พ่อรับจ้างขับรถเก็บขยะแม่กวาดถนน อดออมเงินส่งลูกชายเรียนต่อมหาวิทยาลัยดังในกรุงเทพฯ ถูกแก๊งวัยรุ่นรุมแทงชิงทรัพย์จนพิการนอนติดเตียงนาน 7 ปี ทำความหวังหมดสิ้นอนาคต ส่วนคนร้ายยังลอยนวล
วันที่ 12 ก.ย.61 นาย ธนนท์ พรรพีพาส นายอำเภอปะทิว นายมนต์ชัย โกษเพชร นายกเทศมนตรีตำบลปะทิว นางวราภรณ์ วิทยายงค์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อ.ปะทิว และเจ้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนสร้างขวัญกำลังใจและดูอาการของ นายณัฐพล เย็นนัธที หรือ บีช อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 7 ตำบลบางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ปีที่ 3 ขณะเรียนหนังสืออยู่ที่กรุงเทพมหานคร ได้ถูกแก๊งวัยชิงทรัพย์สินแล้วใช้อาวุธมีดรุมแทงตามตัวหลายแผลถูกจุดสำคัญ จนปัจจุบันร่างกายพิการเดินไม่ได้ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง นายอำเภอปะทิว นายกเทศบาลตำบลปะทิว และเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้องได้มอบสิ่งของปัจจัยในการช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน โดยมี นายอุดร เย็นนัธที อายุ 55 ปี และ นาง บุปผา เย็นนัธที อายุ 53 ปี สองสามีภรรยาซึ่งเป็นพ่อแม่ของนายณัฐพล เป็นผู้รับมอบสิ่งของดังกล่าว
นายอุดร เย็นนัธที อายุ 55 ปี ผู้เป็นพ่อของนายณัฐพลที่พิการนอนติดเตียงกล่าวว่าตนมีอาชีพเป็นคนขับรถเก็บขยะของเทศบาลตำบลปะทิว ส่วนนางบุปผาผู้เป็นภรรยารับจ้างเก็บกวาดขยะตามถนนและที่สาธารณะในเขตเทศบาลตำบลปะทิว ทั้งสองคนมีรายได้รวมกันเดือนละกว่า 1 หมื่นบาท สำหรับนายณัฐพลลูกชายตนที่พิการเป็นผู้ป่วยติดเตียงนั้น เป็นเพราะหลังจากเรียนจบชั้น ม.6 ที่โรงเรียนปะทิววิทยา ก็ได้ไปสอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2554 ระหว่างกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 กำลังจะขึ้นชั้นปีที่ 4 ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายชิงทรัพย์สินแล้วใช้อาวุธมีดแทงตามร่างกายหลายแผลถูกนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงตนมีฐานะยกจนจึงพาลูกกลับมารักษาที่โรงพยาบาลใน จ.ชุมพร แต่บาดแผลที่ถูกแทงเข้าจุดสำคัญทำให้ปัจจุบันร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้กลายเป็นคนพิการและผู้ป่วยนอนติดเตียงนอนอยู่ที่บ้านดังกล่าว
นายอุดรกล่าวต่อว่า ช่วงเกิดเหตุเมื่อปี 2554 ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางยี่ขัน จนถึงวันนี้ผ่านไป 7 ปี ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แม้แต่คนเดียว ซึ่งนายณัฐพลนั้นถือว่าเป็นความหวังของพ่อแม่อย่างมาก ครอบครัวตนมีฐานะยากจน ตนรับจ้างขับรถเก็บขยะสวนภรรยารับจ้างกวาดเก็บขยะตามท้องถนนและที่สาธารณะ เพื่อเก็บเงินส่งลูกเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆด้วย กระทั้งเหลืออีกปีเดียวใกล้จะเรียนจบอยู่แล้วแต่ต้องมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น นอกจากั้นครอบครัวตนยังต้องมาเลี้ยงดูหลานชายอายุ 20 ปี พิการแขนขาลีบอีก 1 คน เนื่องจากพ่อแม่ซึ่งเป็นลูกชายและลูกสะใภ้ตนได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตทั้งคู่ ตนจึงต้องนำหลานชายที่พิการมาเลี้ยงดูด้วย
นายอุดรกล่าวว่าแต่ละวันตนและภรรยาต้องออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืดซึ่งต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันกลับเข้ามาที่บ้านเพื่อมาดูลูกชายที่นอนป่วยติดเตียงกับหลานชายที่พิการตลอดทั้งวันจนกว่าจะเลิกงาน ส่วนค่าใช้จ่ายจากการรับจ้างทำงานขับรถและกวาดขยะของเราทั้งสองคนแต่ละเดือนไม่เคยเหลือเพราะต้องใช้ซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปจำนวนมากให้กับลูกชายใช้ในแต่ละวันและค่ากินค่ายาค่าใช้จ่ายอื่นๆทุกวันที่ต้องใช้จ่ายทั้งลูกชายและหลานชาย
นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว กล่าวว่าทางอำเภอได้มาเยี่ยมและมอบสิ่งของให้จำนวนหนึ่งที่ผ่านมาพยายามหาทางช่วยเหลือครอบครัวนี้มาตลอด โดยการจัดทำกองทุนผู้พิการขึ้นในอำเภอปะทิวซึ่งปัจจุบันทางราชการได้มีเบี้ยช่วยเหลือผู้พิการรายเดือนละ 700 บาท ปัจจุบัน อ.ปะทิว มีผู้พิการที่ต้องดูแลทั้งหมด 800 คน ส่วนกรณีของนายณัฐพล เย็นนัธที ก็จะพยายามจัดทำกองทุนช่วยเหลือ รวมถึงผู้พิการที่มีอยู่ทั้งหมดจะเพื่อจะได้แบ่งเบาภาระของครอบครัวได้บ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้มีจิตศรัทราต้องการช่วยเหลือครอบครัวของนายณัฐพล เย็นนัธที อดีตนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องรับชะตากรรมดังกล่าวโดยมอบปัจจัยหรือสิ่งของที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร 091 8769245 คุณอุดร เย็นนัธที ผู้เป็นพ่อได้.