ขนหัวลุกเจอหนุ่มนิรนามใส่ชุดเสื้อยีนปัก “ฮาเล่เดวิดสัน” ผูกคอตายปริศนานานเกือบเดือนจนร่างแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกห้อยอยู่ในบ้านร้างริมถนน
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 7 ต.ค.61 ร.ต.อ.บรรจง ศักดิ์พิมล รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านวิสัยเหนือ ได้รับแจ้งพบศพคนผูกคอตายภายในบ้านร้างริมถนนสายเอเชีย 41 เยื้องโรงอัดก๊าชออกซิเจน หมู่ 4 ตำบลวิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วรพล ปาลรัตน์ ผกก. ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยชายชลมูลนิธิชุมพรรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุริมถนนเอเชีย 41 ช่องทางขาล่องเป็นบ้านปูนชั้นเดียวถูกปล่อยรกร้างมีต้นไม้และหญ้าขึ้นรก ตรวจสอบภายในพบศพชายไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 30-40 ปี สูง 165-170 ซม.ใส่ยีนแขนยาวด้านหลังปักภาษาอังกฤษว่า “ฮาเล่เดวิดสัน” นุ่งกางเกงยีนขายาวยี่ห้อแมคลักษณะรูดลงมากองห้อยอยู่ที่ปลายเท้าซ้าย สภาพศพผูกคอด้วยเชือกไนล่อนกับขื่อกลางบ้านเหลือแต่หนังแห้งติดกระดูก มีรองเท้าแตะสีขาววางอยู่ใกล้ศพโดยมีเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่หนึ่งตัวสันนิษฐานว่าใช้สำหรับเหยียบขึ้นไปยืนบนพื้นพบเงินสดรวม 487 บาท ไฟเช็ก ขวดน้ำ ซองบุหรี่ เตาอั้งโล่ ผ้าห่มวางอยู่ และไม่พบเอกสารหลักฐานใดๆว่าเป็นใครมาจากไหน สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วเกือบ 1 เดือน
จากการสอบสวนทราบว่าบ้านร้างหลังดังกล่าวเป็นของ นายถาวร เพ็ญสมบูรณ์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนได้มีผัวเมียคู่หนึ่งมาขอเช่าอาศัยต่อมาผัวได้ถูกไฟฟ้าช็อตตายคาบ้านเมียผู้ตายได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น ทำให้บ้านหลังดังกล่าวถูกปล่อยร้างเพราะไม่มีใครกล้าไปอยู่อาศัย จนกระทั่งช่วงเย็นวันเดียวกันได้มีชาวบ้านมาบอกว่าพนักงานติดตั้งสายอินเตอร์เน็ตผ่านมาได้กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากศพจึงเดินเข้าไปดูภายในบ้านถึงกับตกใจจนขนหัวลุกเมื่อพบศพผูกคอเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกห้อยโตงเตงอยู่กับขื่อกลางบ้านและได้วิ่งออกมาโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว ขณะที่ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงบอกว่า ก่อนหน้านี้จะเห็นผู้ชายรายหนึ่งลักษณะเหมือนคนเร่ร่อนสติไม่สมประกอบ อายุประมาณ 30-40 ปี ไว้ผมยาวหยิกประบ่าชอบเดินไปเดินมาอยู่ริมถนนสายดังกล่าวแต่ระยะหลังไม่เห็นมานานเกือบเดือนแล้ว แต่ก็ไม่มั่นใจว่าศพที่ผูกคอตายดังกล่าวที่จะเป็นคนเดียวกันหรือไม่
เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบบันทึกแจ้งคนหายในพื้นที่จังหวัดชุมพรและใกล้เคียงพร้อมกับเก็บรวบรวมหลักฐานในบ้านหลังเกิดเหตุเพื่อหาญาติและสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป.