ตำรวจทางหลวงชุมพรสกัดจับแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ใช้รถยนต์กระบะ 2 คัน ลักลอบขนชาวเมียนมา 32 คน จากด่านสิงขร ส่งชายแดนภาคใต้ คิดค่าหัวรายละ 12,000 บาท
เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 23 ต.ค.61 ร.ต.อ.อนันต์ เพ็ชรวงค์ รอง สว.ส.ทล.4(ชุมพร)กก.2 บก.ทล พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรถวิทยุ 2409 , 2411 ออกปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบถึงทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเอเชีย 41 ระหว่างหลัก กม. 2-3 ขาล่องใต้ ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร พบรถยนต์ต้องสงสัยขับมาด้วยความเร็วเมื่อเห็นรถยนต์สายตรวจมีท่าทีพิรุธจึงออกสกัดเรียกให้จอด โดยคันแรกเป็นรถยนต์กระบะห้อโตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน 1ฒฬ 1456 กทม. กระบะหลังติดหลังคามิดชิดมีคนขับชื่อ นาย กิตติ ฟีสันเทียะ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 10 ตำบลหนองบัว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ตรวจค้นภายในกระบะหลังมีชาวเมียนมา 15 คน
คันที่ 2 เป็นรถยนต์กระบะอีซูซุ สีเทา ทะเบียน กค 4826 ประจวบคีรีขันธ์ กระบะหลังติดหลังคามิดชิดเช่นกัน มีคนขับชื่อ นายวันดี ศิริพัฒน์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/29 ซอยพหลโยธิน 54 แยก 12 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบในกระบะหลังมีชาวเมียนมา 17 คน รวมชาวเมียนมาทั้งหมด 32 คน แยกเป็นชาย 27 คน ผู้หญิง 5 คน ตรวจสอบไม่มีเอกสารหลักฐานการเข้าเมืองแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จึงควบคุมตัวไปที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร
จากการสอบสวนคนขับรถทั้ง 2 คัน ทราบว่าแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ดังกล่าวได้ลักลอบขนชาวเมียนมาทั้งหมดมาจากบริเวณชายแดนด่านสิงขร อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยคิดค่าจ้างรายหัวคนละ 12,000 บาท เพื่อนำต่างด้าวทั้งหมดไปส่งแถวชายแดนภาคใต้บริเวณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อข้ามไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน แต่มาถูกตำรวจทางหลวงชุมพรสกัดจับได้เสียก่อน จึงแจ้งข้อกล่าวหาคนขับรถยนต์กระบะทั้ง 2 คัน ฐานช่วยซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆเพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุมตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 64 และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.