สนธิกำลังจับต่างด้าวชาวเมียน 37 คน จ่ายค่าหัวคนละ 25,000 บาท ให้แก๊งค้าแรงงานมนุษย์พามาจากเกาะสอง ทั้งนั่งเรือหางยาว เดินลัดเลาะป่าเขาอย่างทรหดนาน 5 วัน 5 คืน จนถึงแคมป์พักริมถนนเพชรเกษม รอขึ้นรถยนต์ส่งไปชายแดนใต้
เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 29 ม.ค.62 ภายใต้การอำนวยการของ นายวิโรจน์ เทพพิทักษ์ นายอำเภอท่าแซะ สนธิกำลังร่วมกับ พ.ต.สังคม รองมาลี หน.ชป.1 มทบ.44 ร.อ.อาทิตย์ คลังนิมิตร หน.ชป.สห.มทบ.44 พ.ต.ท.เจริญพงษ์ ขันติโล สวญ.ตม.ชุมพร พ.ต.ท.วิชัย ต้นกัญยา รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.ท่าแซะ พ.ต.ท.วสันต์ มาวิเลิศ ผบ.ร้อย ตชด.414 น.ส.วัลภา แก้วสวี พมจ.ชุมพร ควบคุมต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 37 คน แยกเป็นชาย 33 คน หญิง 4 คน อายุระหว่า 16-25 ปี ทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรยมาสอบสวนคัดกรองที่ สภ.ท่าแซะ หลังช่วงเย็นได้รับแจ้งจากชาวบ้านไปหาของป่าแล้วพบชาวต่างด้าวทั้งหมดถูกก๊งค้าแรงงานมนุษย์พามาหลบซ่อนอยู่ในแคมป์พักที่มุงด้วยด้วยผ้าใบอยู่กลางป่าหลังโรงงานร้างใกล้กับถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 8 ตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงสนธินำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมไว้ได้ทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาคัดกรองแยกเป็นรายบุคคลและสอบสวนนานหลายชั่วโมงจนทราบว่าต่างด้าวทั้งหมดมีทั้งที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันและต่างหมู่บ้านในพื้นที่จังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา โดยมีนายหน้าแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ที่เป็นชาวเมียนมาและคนไทย เป็นผู้จัดหาและต้องเสียค่าใช้จ่ายรายหัวละ 25,000 บาท จากนั้นนายหน้าจะลักลอบพาโดยสารมากับเรือประมงหางยาวตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.62 ที่ผ่าน มาจนกระมั่งมาถึงแคมป์พักบริเวณชายแดนฝั่งประเทศเมียนมาใกล้กับแม่น้ำกระบุรี ตำบลปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง จากนั้นช่วงกลางคืนนายหน้าจะนำชาวต่างด้าวชุดแรกจำนวน 37 คนนั่งเรือหางยาวข้ามแม่น้ำกระบุรีเข้ามายังฝั่งไทย และยังเหลือรออยู่อีก 1 ชุด จำนวนกว่า 20 คน จะรอข้ามตามมาภายหลัง
จากนั้นก็จะมีนายหน้าคนไทยขับรถกระบะเข้าไปรับที่ริมแม่น้ำกระบุรีแล้วขับหลบเลี่ยงมาตามถนนในหมู่บ้านสลับกับให้เดินลัดเลาะไปตามป่าเขาเป็นช่วงๆในเวลากลางคืนเพื่อหลบด่านตรวจของตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง โดยใช้เวลาเดินทางข้ามน้ำข้ามน้ำข้ามทะเลและป่าเขาและหยุดพักเหนื่อยเป็นระยะๆรวมเวลาทั้งหมด 5 วัน 5 คืน จนมาถึงแคมป์พักกลางป่าหลังโรงงานร้างใกล้กับถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 8 ตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อรอนายหน้าขับรถยนต์มารับพาไปส่งต่อที่ชายแดนด้าน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซีย จนมีชาวบ้านมาหาของป่าและเจอเข้า จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมจับกุมได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้การสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมเครือข่ายแก๊งค้าแรงงานมนุษย์มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
