————————————————————————————————————
พระเมาเหล้าหนักนอนกลิ้งกลางสนามหญ้าหน้าวัดฤทธิ์เยอะตะโกนด่าทอสารพัดคำหยาบตำรวจจับสึกต้องคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ในห้องขัง 1 คืน พอหายสร่างคอตก ทำประวัติห้ามบวชได้อีกก่อนปล่อยตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.พ.62 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากน้ำชุมพร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านได้นำกำลังไประงับเหตุพระสงฆ์เมาเหล้าส่งเสียงเอะอะโวยวายดังลั่นนอนกลิ้งไปมาบางครั้งเกือบจะอยู่ในอาการโป้เปลือยเป็นที่อุจาดตาแก่ชาวบ้าน อยู่ที่หนามหญ้าหน้าวัดท่ายางเหนือ ตำบลท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ขณะตำรวจนำกำลังเข้าไปควบคุมตัวพระสงฆ์รูปดังกล่าวซึ่งกำลังนอนกลิ้งส่งเสียงเอะอะดังลั่นอยู่กลางสนามหญ้าใกล้กับถนนสี่เลนสายเมืองชุมพร-ปากน้ำ ได้พยายามขัดขืนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายต่างๆนาๆ เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมตัวเป็นไปด้วยความทุลักทุเลเนื่องจากพระสงฆ์รูปดังกล่าวขัดขืนไม่ยอมให้ควบคุมตัวแต่โดยดีแต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้ในที่สุด
หลังตำรวจควบคุมตัวนำขึ้นรถสายตรวจ สภ.ปากน้ำชุมพร พระสงฆ์ที่อยู่ในอาการเมาเหล้าอย่างหนักยังไม่สิ้นฤทธิ์ได้ตะโกนด่าตำรวจด้วยคำหยาบอย่างไม่หยุดหย่อน โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพระสงฆ์รูปดังกล่าวไปให้เจ้าคณะตำบลวัดปากน้ำชุมพร ทำการสึกจากความเป็นพระสงฆ์ ทราบชื่อตามใบสุทธิบัตรบวชเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2561 ชื่อ “พระสมเกียรติ อตตฺทีโป” สถานะเดิมชื่อ นายสมเกียรติ ช้างน้อย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 198 หมู่ 9 ตำบลหนองแหม่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ขณะเจ้าคณะตำบลทำพิธีสึกพระสมเกียรติ์ก็ยังมีฤทธิ์เดชจากการเมาสุรายังมีท่าทีเอะอะโวยโวยด่าท่อด้วยคำหยาบเสียงดังลั่นวัดอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ต้องล็อกมือตัวไว้ เมื่อทำพิธิสึกขาดจาความเป็นพระเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสมเกียรติ์ไปควบคุมตัวสงบสติอารมณ์ในห้องขัง สภ.ปากน้ำชุมพร เป็นเวลา 1 คืน
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 20 ก.พ.62 ตำรวจ สภ.ปากน้ำชุมพร ได้สอบปากคำและทำประวัติบุคคลเกี่ยวกับพฤติกรรมดังกล่าวเพื่อส่งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแจ้งไปยังวัดและสำนักสงฆ์ต่างๆทั่วประเทศ เพื่อห้ามไม่ให้บุคคลดังกล่าวได้กลับมาบวชเป็นพระสงฆ์สร้างความเสื่อมเสียต่อศาสนาได้อีก จากการสอบสวนนายสมเกียรติ์บวชเป็นพระลูกวัดแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ได้กว่า 1 ปี จากนั้นได้เดินทางมาขอจำวัดอยู่ที่วัดท่ายางเหนือประมาณ 2 เดือน มีพฤติกรรมชอบใช้แรงงานที่มารับจ้างทำงานในละแวกวัดไปซื้อเหล้ามาแอบดื่มอยู่เป็นประจำ จนกระทั้งวันเกิดเหตุเมาเหล้าอย่างหนักจนมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวนายสมเกียรติ์ออกจากห้องขังให้กลับบ้านต่อไป โดยไม่ได้แจ้งข้อหาหรือดำเนินคดีใดๆ
ขณะที่ นายสมเกียรติ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าปกติตนไม่เคยดื่มเหล้าที่ผ่านมาเพิ่งจะดื่ม 2 ครั้งเท่านั้นเอง ส่วนครั้งนี้ได้มีแรงงานซึ่งเป็นกรรมกรก่อสร้างใกล้กับวัดได้ไปซื้อเหล้าใส่ขวดน้ำพลาสติกมาให้ซึ่งตนจำไม่ได้ว่าในขวดมีเหล้ามากน้อยขนาดไหนแล้วนำเข้าไปนั่งดื่มคนเดียวภายในกุฎีจนมาถูกจับสึกดังกล่าว หลังจากนี้ก็จะเดินทางกลับบ้านที่ จ.เชียงใหม่ต่อไป.
———————————————————————————————————––
