สตอรี่ทราเวลกรุ๊ป(กดอ่านรายละเอียด)
หยุดเทศกาลสงกรานต์ขับรถเอ็มจีจากกรุงเทพฯไปทำบุญร้อยวันญาติเพื่อนและเที่ยวพักผ่อนที่เกาะสมุย แต่ถึงชุมพรเกิดหลับในชนต้นไม้ดับ 2 ศพ สาหัส 1 ราย
เมื่อเวลา 06.20 น.วันที่ 13 เมษายน 62 ร.ต.อ.มาโนช ปลอดขันเงิน รอง สว.(สอบสวน)สภ.สวี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บบริเวณหลัก กม.26 ถนนเอเชีย 41 หมู่ที่ 3 ตำบลครน อ.สวี จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายประกาศิต พรประสิทธิ์ นายอำเภอสวี เจ้าหน้าที่ ปภ. ตำรวจทางหลวงหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร และผู้เกี่ยวข้องตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์
ที่เกิดเหตุริมถนนช่องทางขาล่องใต้เป็นทางตรงห่างจากโค้งดอนมะพร้าวประมาณ 300 เมตร พบรถยนต์แบบ SUV ยีห้อเอ็มจี สีดำ ทะเบียน 7 กจ.8707 กรุงเทพมหานคร ชนอัดติดกับต้นหางนกโยงขนาดใหญ่กว่าคนโอบจนหน้ารถยุบพังยับเยินเศษชิ้นส่วนรถแตกกระจายไปทั่วส่วนเครื่องยนต์หลุดออกมาอยู่นอกตัวรถ มีผู้เสียชีวิตถูกอัดก๊อบปี้ติดอยู่ภายใน 2 ศพ หน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมานานกว่า 20 นาที ทราบชื่อคือ นายจิรวัฒน์ สุทัศน์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1211/76 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร เป็นคนขับสภาพถูกอัดติดอยู่กับเบาะนั่ง ศพถูกแรงกระแทกกับคอนโทรลหน้ารถจนศีรษะหายไปเกือบหมดกะโหลกและสมองกระจายเกลื่อน อีกศพถูกอัดติดอยู่กับที่นั่งเบาะหลังด้านซ้ายมีบาดแผลฉกรรจ์ทั่วตัวทราบชื่อคือ นางสาวนพรัตน์ บัวงาม อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ที่ 1 ตำบลหนองแก้ว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 คน นั่งมาเบาะข้างคนขับหน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลชุมพร-ธนบุรี ก่อนหน้านั้นแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือนางสาวสัตยา กันนิดา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 1 ตำบลหนองแก้ว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางตรงสภาพถนนดีห่างจากโค้งดอนมะพร้าวประมาณ 300 เมตร ไม่มีรองรอยการเบรก พบเพียงรอยล้อรถคันเกิดเหตุวิ่งลงไปข้างทางแล้วเชี่ยวกับเสาไฟฟ้าส่องสว่างเสียหาย 1 ต้น จากนั้นรถได้แฉลบพุ่งไปชนกับต้นหางนกยูงขนาดใหญ่ที่จุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 10 เมตร จนหน้ายุบเครื่องยนต์หลุดกระเด็นออกมา เศษชิ้นส่วนรถแตกกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ
นายสุชาติ มุกแก้ว อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 395/1 หมู่ที่ 2 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร กล่าวว่าตนไม่รู้จักกับผู้ตายแต่ช่วงเกิดเหตุตนได้ขับรถตามหลังมาเพื่อจะกลับบ้านเกิดที่ภาคใต้จู่ๆเห็นรถยนต์คันดังกล่าววิ่งลงไปข้างทางโดยไม่มีไฟเบรกด้านท้ายติดขึ้นแต่อย่างใดแล้วพุ่งไปชนกันต้นไม้ขนาดใหญ่ริมถนนเข้าอย่างจังตนจึงได้จอดรถลงไปดูและแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือดังกล่าว
ขณะที่นางสารีย์ เพ็ชรรัตน์ อายุ 55 ปี กล่าวว่าตนและผู้ตายกับผู้บาดเจ็บเป็นเพื่อนกันทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร โดยตนมีบ้านเกิดอยู่ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี วันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ตรงกับการทำบุญครบ 100 วัน ญาติตนพอดี ผู้ตายและผู้บาดเจ็บได้เดินทางมาร่วมงานบุญด้วยและจะเที่ยวพักผ่อนที่เกาะสมุยช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ โดยเดินทางออกจากกรุงเทพฯช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.ของคืนวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ตนมารถเก๋งอีกคันกับญาติๆได้ขับนำหน้ารถผู้ตายห่างกันประมาณ 50 กิโลเมตร ซึ่งผู้ตายรู้เส้นทางดีเพราะเคยเดินทางมาเที่ยวแล้วหลายครั้ง ระหว่างทางได้โทรศัพท์ติดต่อกันตลอดและบอกกับผู้ตายว่าถ้าง่วงนอนก็อย่าฝืนขับให้จอดพักผ่อนแล้วค่อยขับต่อ กระทั้งตอนเช้ามีคนโทรศัพท์มาบอกว่านายจิรวัฒน์ขับรถชนต้นไม้ตายแล้ว ทำให้ตกใจอย่างมากจึงขับรถย้อนกลับมาดูก็พบกับเหตุสลดใจดังกล่าว
จากการสอบสวนและตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายจิรวัฒน์ที่ขับรถออกมาจากกรุงเทพมหานครตั้งแต่ช่วงค่ำก่อนวันเกิดเหตุซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลกว่า 500 กิโลเมตร นานหลายชั่วโมงอาจจะเกิดอาการอ่อนเพลียง่วงนอนจนทำให้เกิดอาการหลับในจนรถพุ่งลงข้างทางชนต้นไม้จนเสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.