ชาวบ้านเดือดร้อนก่อสร้างท่าเรือเกาะพิทักษ์เกือบ 30 ล้าน ผิดสัญญาจ้างเกินกว่า 4 เดือนแล้ว สร้างได้แค่ 25 เปอร์เซ็นต์ เห็นมีแค่เสาปูน
“เกาะพิทักษ์” ตำบลบางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร เป็นเกาะขนาดเล็ก มีประชากรอาศัยอยู่ไม่มาก ตั้งอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวสวยงามรายรอบไปด้วยน้ำทะเลสีคราม ปะการังน้ำตื้นสวยงามมีที่พักแบบโฮมสเตย์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสวยงามขึ้นชื่อระดับประเทศ
นอกจากนั้นช่วงกลางเดือนมิถุนายนของทุกๆปีเป็นช่วงที่น้ำทะเลจะลดลงเหลือเพียงหน้าแข้งจนสามารถเดินลุยน้ำข้ามไปยังเกาะได้ ทางจังหวัดจึงมีการจัดกิจกรรมประจำปี “วิ่งแหวกทะเล” จากฝั่งไปยังเกาะพิทักษ์ สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน 15 ปีแล้ว จนกลายเป็นกิจกรรมที่รู้จักไปทั่วโลกมีผู้คนทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาร่วมกิจกรรม “วิ่งแหวกทะเล” กันอย่างล้นหลามทุกๆปี
ปัจจุบันเป็นมีนักเที่ยวเดินทางมาจากทั่วสารทิศ ทั้งกลุ่มองค์กร ภาครัฐ นักเรียน นิสิต นักศึกษา คณาจารย์ เดินทางมาศึกษาดูงานท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กันไม่ขาดสาย ภาครัฐจึงมีงบประมาณก่อสร้างท่าเรือจากชายฝั่ง และท่าเรือบนเกาะพิทักษ์ พร้อมอาคารบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว
การก่อสร้างท่าเทียบเรือด้วยงบประมาณเกือบ 30 ล้าน กลับเป็นไปอย่างล่าช้าเกินกำหนดตามสัญญาจ้างนานกว่า 4 เดือนแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะแล้วเสร็จในวันใด การก่อสร้างขณะนี้มีเพียงโครงสร้างของเสาปูนเท่านั้น จนชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อนจึงได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องถึงผลกระทบจากความล่าช้าดังกล่าว
นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 5 เปิดเผยถึงปัญหาดังกล่าวว่าตนพร้อมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดชุมพร หน่วยงานเกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือขนาดเล็กบนฝั่ง และท่าเทียบเรือขนาดเล็กบนเกาะพิทักษ์ พร้อมระบบประปา และอาคารบริการนักท่องเที่ยว หมู่ที่ 13 ตำบลบางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 62 ที่ผ่านมา (วันที่ 31 พ.ค.62) เนื่องจากปัญหาการดำเนินการก่อสร้างเป็นไปด้วยความล่าช้าทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
นายธสรณ์อัฑฒ์ กล่าวว่าโครงการดังกล่าวมีสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดชุมพร เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ด้วยการว่าจ้างบริษัทเอกชนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ด้วยงบประมาณ 27,189,971 บาท เริ่มสัญญาก่อสร้างเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2561 กำหนดแล้วเสร็จวันที่ 21 มกราคม 2562 แต่การดำเนินการก่อสร้างเป็นไปด้วยความล่าช้า และเลยกำหนดตามสัญญามานานกว่า 4 เดือนแล้ว ปัจจุบันก่อสร้างไปได้เพียงร้อยละ 25 ของโครงการเท่านั้น จนส่งผลกระทบถึงประชาชนในพื้นที่ซึ่งต้องใช้ท่าเทียบเรือดังกล่าวในการสัญจรระหว่างเกาะและชายฝั่ง บางครั้งช่วงที่น้ำทะเลลดต่ำก็ต้องเดินลงลุยน้ำลงไปเพื่อขึ้นเรือสร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จากการลงพื้นที่รับทราบถึงปัญหาของประชาชน และปัญหาการดำเนินงานของผู้รับผิดชอบโครงการ รวมถึงปัญหาจากบริษัทเอกชนผู้รับจ้าง ได้มีการประชุมร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร่งด่วนแล้ว
“ จากปัญหาการก่อสร้างเป็นไปด้วยความล่าช้าทางบริษัทเอกชนได้รับปากว่า จะเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2562 และระยะเวลาที่เกินจากสัญญาการก่อสร้างทางบริษัทจะจ่ายค่าปรับตามสัญญาที่ทำไว้ นอกจากนี้จะดำเนินการปรับปรุงให้สามารถใช้ท่าเทียบเรือได้เป็นการเบื้องต้นไปก่อน ซึ่งประชาชนก็เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว และพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อให้โครงการท่าเทียบเรือแล้วเสร็จโดยเร็ว.” นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 5 กล่าว.