ตำรวจทางหลวงชุมพรเหงื่อตก รื้อกระบะรถยนต์ ถอดกรงเหล็ก แม็กไลน์เนอร์ ตรวจยึดพืชกระท่อม 84 กก. หลังจับแก๊งสองพี่น้องดัดแปลงทำช่องลับลักลอบขนไปขายภาคใต้มานานกว่า 3 ปี วิ่งผ่านด่านตำรวจยังไม่เคยถูกจับแม้แต่ครั้งเดียว
เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 9 ก.ย.62 พ.ต.ต.อนุสรณ์ จันทศร สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.(ชุมพร) พร้อมด้วย ร.ต.ท.วสันต์ ตราโต รอง สว.(ป) ร.ต.ต.ชาตรี บุญอยู่ รอง สว.(ป) ด.ต.พัทธนันท์ แดงกระจ่าง ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. สนธิกำลังร่วมกับ พ.ต.ท.เจริญพงษ์ ขันติโล สวญ.ตม.จ.ชุมพร นำกำลังออกตรวจสกัดตามนโยบายรัฐบาลในการป้องกันปัญหาอาชญากรรม การลักลอบขนยาเสพติด แรงงานต่างด้าว และสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ
สตอรี่ทราเวลกรุ๊ป (กดอ่านรายละเอียด)
จนกระทั่งพบเป้าหมายตามที่สายข่าวรายงานเป็นรถยนต์กระบะโตโยต้า ตอนเดียว สีเทา ทะเบียน บพ-5896 ชุมพรกระบะหลังติดกรงเหล็กสูง และพื้นกระบะติดทับด้วยแม็กไลน์เนอร์ ขันน๊อตแน่นหนาอย่างดี บรรทุกตู้เชื่อมไฟฟ้า โครงเหล็กนั่งร้าน และอุปกรณ์ก่อสร้างจำนวนหนึ่ง ขณะขับมาช่องทางล่องใต้บริเวณหลัก กม.35-36 ถนนเอเชีย 41 ตำบลนาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร จึงออกสกัดเรียกให้จอด มีคนขับทราบชื่อ นายกรวิชญ์ หอมแก้ว อายุ 24 ปี ส่วนคนนั่งเบาะข้างชื่อ นายนฤพนธ์ หอมแก้ว อายุ 21 ปี ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกันอยู่บ้านเลขที่ 24/1 หมู่ที่ 5 ตำบลถ้ำสิงห์ อ.เมือง จ.ชุมพร ภายในรถมีเสบียงอาหาร เครื่องดื่มชูกำลัง จำนวนหนึ่งไว้ดื่มกินระหว่างทาง
เจ้าหน้าที่สอบถามสองพี่น้องมีอาการพิรุธพูดจาวกวนโยนกันไปมาจนในที่สุดยอมรับสารภาพว่าได้ลักลอบขนพืชกระท่อมจาก จ.ชุมพร จะไปส่งลูกค้าที่ จ.พังงา โดยพืชกระท่อมทั้งหมดซุกซ่อนไว้ในช่องลับที่ทำไว้อย่างดีภายในกระบะหลัง เจ้าหน้าที่ต้องไขน๊อตยึดทั้งหมดเพื่อถอดเอาโครงเหล็กออกจากกระบะหลัง และรื้อแม็กไลน์เนอร์ที่ปูพื้นกระบะออก ใช้เวลานานนอสมควรทำเอาเจ้าหน้าที่เหงื่อตกไปตามๆกัน ตรวจสอบพบว่ารอบๆกระบะรถมีการตัดเป็นช่องลับสี่เหลี่ยมพื้นผ้าขนาด 8 x16 ไว้ทั้งหมด 7 จุด ภายในช่องลับแต่ละจุดมีพืชกระท่อมสดมัดใส่ถุงดำไว้รวมทั้งหมด 64 ถุง น้ำหนัก 64 กิโลกรัม นอกจากนั้นยังพบซุกซ่อนไว้ในตู้เชื่อมไฟฟ้าที่บรรทุกไว้ในกระบะหลังอีกจำนวน 20 ถุง น้ำหนัก 20 กิโลกรัม รวมพืชกระท่อมทั้งหมด 84 กิโลกรัม
จาการสอบสวน นายกรวิชญ์ หอมแก้ว อายุ 24 ปี นายนฤพนธ์ หอมแก้ว อายุ 21 ปี สองพี่น้องรับสารภาพว่าได้ลักลอบค้าส่งพืชกระท่อมมานานกว่า 3 ปีแล้ว จะส่งให้ลูกค้าทางภาคใต้เดือนละ 3-4 เที่ยว โดยรับซื้อพืชกระท่อมมาจากชาวสวนหลายท้องที่ใน จ.ชุมพร ในราคากิโลกรัมละ 200 บาท นำไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ กิโลกรัมละ 500 บาท โดยใช้วิธีทำเป็นช่องลับไว้รอบๆข้างในกระบะหลังรถคันดังกล่าวแล้วติดทับด้วยแม็กไลน์เนอร์ และกรงรั้วเหล็กขันน๊อตให้แน่นหนาอย่างดี แล้วบรรทุกอุปกรณ์ก่อสร้างวางอำพรางตบตาเจ้าหน้าที่ไว้ จนรอดพ้นการตรวจค้นของด่านตำรวจจุดต่างๆมาได้ทุกครั้งยังไม่เคยถูกจับแม้แต่หนเดียว ครั้งนี้จะนำไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.พังงา โดยนัดส่งพืชกระท่อมกันตามสวนยาง สวนปาล์ม หรือในป่าละเมาะ เนื่องจากต้องใช้เวลาขันน๊อตถอดกรงเหล็กและแม็กไลน์เนอร์เป็นเวลานาน เพื่อเอาพืชกระท่อมออกมาจากช่องลับที่ทำไว้อำพรางเจ้าหน้าที่ แต่ครั้งนี้ไม่รอดมาถูกตำรวจทางหลวงชุมพรได้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ถูกจับในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวสองพี่น้องส่งพนักงานสอบสวน สภ.สวี ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ( พืชกระท่อมใบสด ) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และขยายผลจับกุมเครือข่ายที่ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป