นาทีระทึกตำรวจทหารบุกชาร์จหนุ่มคลั่งก่อเหตุซ้ำซากจนแม่ลูกเมียผวา

ระทึกตำรวจ ทหาร บุกชาร์จหนุ่มคลั่งใช้ขวาน มีดพร้า สปาต้า ทุบรถยนต์ ทำลายทรัพย์สินเสียหายยับ จนชาวบ้านหวาดผวา เผยมีประวัติติดยาเคยเผาบ้านตัวเอง ก่อเหตุซ้ำซากจนลูกเมียกลัวต้องหลบหนีไปอยู่ที่อื่น

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 18 ก.ย.62 พ.ต.อ.เจนภพ บุตรกินรี ผกก.สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ ได้รับแจ้งเหตุมีคนคลุ้มคลั่งทำลายทรัพย์สินภายในบ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 9 ตำบลพะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร  จะเผาบ้าน จึงกำลังตำรวจไปตรวจสอบ

สตอรี่ทราเวลกรุ๊ป (กดอ่านรายละเอียด)

ที่เกิดเหตุบ้านหลังดังกล่าวอยู่กลางชุมชนริมถนนสายหลังสวน-ระนอง มีชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์ ด้วยความหวาดผวา พบว่าภายในบ้านมีชาวฉกรรจ์รูปร่างอ้วนใหญ่ทราบชื่อคือนายสมควร หนูจ่าแสง อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้าง ส่งเสียงคำรามโวยวายฟังไม่ได้สรรพวิ่งไปวิ่งมาภายในโรงเก็บรถข้างบ้านแล้วใช้มีดพร้าฟันทำลายสิ่งของภายในบ้าน พร้อมกับขวางปาถ้วยชามเครื่องใช้ต่างๆออกมาบนถนนลาดยางกลางถนน เจ้าหน้าที่ต้องคอยกันชาวบ้านที่สัญจรไปมาให้จอดห่างๆด้วยความระมัดระวังตัว และคอยดูจังหวะที่ปลอดภัยจึงจะให้รถที่สัญจรผ่านไปได้

นอกจากนั้นจากการสังเกตการณ์เฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่เห็นว่านายสมควร ได้ถือมีดพร้าด้ามยาวประมาณ 1 เมตร  มีดพกมีดสั้นและมีดสปาต้าติดไว้ตัว ทรัพย์สินภายในบ้านถูกทำลายเสียหายหลายอย่าง และรถยนต์กระบะ 1 คัน  รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน ถูกทุบข้างรถและกระจกหน้าจนแตกเสียหาย โดยนายสมควร ตะโกนคำรามไม่ได้สรรพอยู่ตลอดเวลาพร้อมทั้งทุบทำลายสิงของอย่างต่อเนื่อง

ต่อมา พ.ต.อ.เจนภพ บุตรกินรี ผกก.สภ.พะโต๊ะ ประเมินสถานการณ์แล้วไม่กล้าสั่งการให้เจ้าหน้าที่บุกรวบตัวกลัวว่าจะเกิดอันตราทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมขอกำลังสนับสนุนจาก หน่วยตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ(นปพ.)ภ.จ.ชุมพร และ กำลังทหาร ร.2521 ที่ตั้งด่านอยู่บริเวณใกล้เคียงมาร่วมสนับสนุน พร้อมทั้งให้เพื่อนสนิทของนายสมควรเข้าไปดูลาดเลาเพื่อวางแผนเข้าจับกุม

กระทั่งเวลาผ่านไปร่วม 3 ชั่วโมง จนถึงช่วงค่ำประมาณ 1 ทุ่ม เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถบุกเข้าชาร์ตจับกุมตัวนายสมควรได้ เพราะเสี่ยงอันตรายเนื่องจากนายสมควรมีอาวุธของมีคมหลายชนิด ขณะที่นายสมควรยังคงตะโกนโวยวายส่งเสียงดังและ ทำลายทรัพย์สินอยู่ตลอดเวลา ตำรวจตัดสินใจใช้ยาสลบใส่ในน้ำดื่มโดยให้เพื่อนสนิทเอาไปวางไว้ให้นายสมควรดื่มแต่ไม่มีใครเห็นว่านายสมควรได้ดื่มเข้าไปหรือไม่ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ซึ่งเฝ้าสังเกตรอจังหวะอยู่เห็นนายสมควรเริ่มเหนื่อยอ่อนแรง จึงฉวยจังหวะบุกเข้าชาร์ตจับตัวไว้ได้ แต่เป็นไปอย่างทุลักทุเลเนื่องจากนายสมควรมีรูปร่างอ้วนใหญ่ล่ำแข็งแรงพยายามดิ้นรนต่อสู้ไม่ยอมให้จับกุมง่ายๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กว่า 10 นายต้องช่วยกันกดตัวจับมัดมือมัดเท้า แต่นานสมควรก็ยังไม่ยอมหมดฤทธิ์เดชส่งเสียงโวยวายพยายามต่อสู้จะทำร้ายเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันหามใส่รถยนต์ผู้ต้องขังของ สภ.พะโต๊ะ นำตัวไปส่งรักษาอาการที่โรงพยาบาลละแมเป็นการเบื้องต้น ก่อนจะสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ด้านนางยุพา พิกุลทอง อายุ 65 ปี ผู้เป็นแม่กล่าวว่านายสมควรลูกชายมีอาการคลุ้มคลั่งทางประสาทเนื่องจากเคยเสพยาเสพติด ที่ผ่านมาเกิดอาการคลุ่มคลั่งแบบนี้หลายครั้ง และเคยก่อเหตุเผาบ้านตัวเองมาแล้ว ปัจจุบันอาศัยหลับนอนอยู่ในโรงรถของตัวเองใกล้ๆกับบ้านตน จนกระทั่งลูกสาวและเมียต้องหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น จึงยิ่งทำให้นายสมควรมีอาการหนักมากยิ่งขึ้นจนวันนี้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้กระทั่งตนเองซึ่งเป็นแม่แท้ๆ.