ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเปิดปฏิบัติการปราบผีคืนอาโลวีน บุกจับ 2 ผับดังกลางเมืองชุมพร พบเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เกือบ 300 คน ต่ำสุดเพียง 15 ปี พร้อมสั่งปิด 5 ปี
เวลา 00.00 น. วันที่ 1 ต.ค. 2562 ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สํานักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง และนายนักรบ ณ ถลาง นายอําเภอเมืองชุมพร นำกำลังกว่า 50 นาย เข้าตรวจสอบจับกุมสถานบันเทิงพร้อมกัน 2 แห่ง จุดแรกสถานบันเทิงดังชื่อ เอมซ่ารอคผับ หรือ AIM ZAA ROCK PUB ตั้งอยู่ถนนประชาอุทิศ ตำบลท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร จุดที่ 2 ชื่อร้าน ปะการังผับ ตั้งอยู่ถนนเลียบทางรถไฟ ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ทั้ง 2 แห่งอยู่ในย่านชุมชนกลางเมืองชุมพร
ทั้งนี้ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีผับซึ่งได้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในพื้นที่อำเภอเมืองชุมพร ฝ่าฝืนกฎหมายด้วยการยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปมั่วสุมในสถานบริการ และให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ อีกทั้งยังมีเหตุทะเลาะวิวาทและเคยใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายกันอยู่บ่อยครั้ง เป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญและในบางครั้งทรัพย์สินของชาวบ้านในบริเวณนั้นได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แฝงตัวเข้าตรวจสอบข้อมูลทางลับจนพบว่ามีการกระทำความผิดตามข้อร้องเรียนจริง โดยพบว่าร้านเอมซ่ารอคผับ หรือ AIM ZAA ROCK PUB มีการจัดกิจกรรม “Halloween night party คืนนี้ผีจะออกล่าหัว” และร้านปะการังผับ จัดกิจกรรม “Halloween ผีผ้าห่มปาร์ตี้” เชิญชวนลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ แต่งตัวเป็นผีเสียค่าบัตรเข้าผับครึ่งราคา มีการเชิญชวนให้นักเที่ยวแต่งกายด้วยชุดแฟนซี สวมหน้ากากเป็นปีศาจรูปร่างต่าง ๆ แต่งกายให้แปลกประหลาด เช่น ปลอมตัวเป็นผีร้าย ผีผ้าห่ม แต่งตัวเป็นผีแม่มด สัตว์ประหลาด เพื่อเป็นสีสันในคืนฮาโลวีน
เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองพบว่าผับทั้ง 2 แห่งนี้มีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ แต่ไม่มีการตรวจบัตรประชาชนของนักท่องเที่ยวเพื่อคัดกรองอายุก่อนให้เข้าใช้บริการแต่อย่างใด โดยยินยอมปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชนเข้ามามั่วสุมใช้บริการภายในร้านเป็นปกติ ซึ่งพนักงานฝ่ายปกครองได้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่าสถานบริการบางแห่งเกิดปัญหาการทะเลาะวิวาทของเยาวชนเป็นประจำ ซึ่งเมื่อต้นปีเคยมีเยาวชนทะเลาะกันในผับ เมื่อผับเลิกออกมาแล้วยิงกันเสียชีวิตด้านนอกร้านมาแล้ว
ทรัพย์สมบูรณ์ ชุมพร(กดดูสินค้า)
นอกจากนั้นสายลับพบว่ามีลูกค้าของสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง มีลูกค้าแห่งละประมาณ 500 คน แต่งกายด้วยชุดแฟนซี กำลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเต้นกันอยู่อย่างสนุกสนาน จากการสังเกตของสายลับน่าเชื่อว่านักเที่ยวส่วนหนึ่งเป็นบุคคลที่ยังอยู่ในวัยเรียน โดยสังเกตจากลักษณะหน้าตาและการแต่งกาย บางคนมีผมสั้นคล้ายเป็นบุคคลที่กำลังอยู่ในวัยเรียน ในช่วงอายุระหว่าง 16-20 ปี ประกอบกับเมื่อสายลับได้ทำการสืบหาข้อมูลผ่านทางสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook , Instagram พบข้อมูลบุคคลซึ่งอยู่วัยเรียน มีบางคนกำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษา บางคนอยู่ในระดับอาชีวะ ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเพจของร้านเอมซ่ารอคผับว่าตนเองเคยไปเที่ยวที่ร้านดังกล่าวมาแล้ว บางคนก็โพสต์ว่าไปเที่ยวตั้งแต่อายุ 16 ปี จนปัจจุบันอายุ 18 ปีแล้ว ก็ยังไปเที่ยวหรือใช้บริการของร้านดังกล่าวอยู่เป็นประจำ
ดังนั้นเมื่อสายลับเห็นว่าทั้งร้านเอมซ่าร็อคผับ และปะการังผับ ได้ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยปล่อยให้เด็กและเยาวชนเข้าใช้บริการ และมีการจำหน่ายสุราให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ จึงส่งสัญญาณให้ชุดจับกุมที่สุ่มอยู่ทั้ง 2 จุด บุกเข้าตรวจสอบจับกุมดำเนินคดีพร้อมกันทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่ชุดจับกุมบุกเข้าไปถึงร้านเอมซ่าร็อคผับ พบผู้ใช้บริการจำนวนกว่า 500 คน แต่งกายชุดปาร์ตี้คืนฮาโลวีน จากนั้นทำการคัดแยกผู้ใช้บริการ พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 225 คนโดยมีนักเที่ยวอายุต่ำสุดเพียง 15 ปี และมีนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชนจำนวน 68 คน
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ ระบุชื่อนาย จิตรภณ เพชรบำรุง อายุ 55 ปี เป็นผู้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ โดยมีนางสาว ศิริขวัญ ทองแท่ง อายุ 33 ปี และนายยศกร กันภัย อายุ 20 ปี แสดงตัวเป็นผู้จัดการผับ
ส่วนที่ร้านปะการังผับพบลูกค้าผู้ใช้บริการจำนวนกว่า 500 คน เมื่อทำการคัดแยกผู้ใช้บริการ พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 38 คน และตรวจคนพบอาวุธปืนอีกจำนวน 3 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน โดยร้านปะการังผับ มีนายสมชาย สุตราม อายุ 67 ปี เป็นผู้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ และมีนายทรงธรรม ภู่พยัคฆ์ อายุ 43 ปี แสดงตัวเป็นผู้จัดการผับ
สตอรี่ทราเวลกรุ๊ป(กดอ่านรายละเอียด)
จากการบุกจับกุมของชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองครั้งนี้สถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี รวมทั้งหมด 263 คน โดยได้คัดแยกเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนกว่า 100 คน ออกจากกันเนื่องจากต้องให้เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้าร่วมสอบปากคำเด็กด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนระดับมัธยมและอาชีวศึกษาใน จ.ชุมพร พร้อมกับดำเนินคดีผู้ประกอบการทั้ง 2 ร้าน ในข้อหา 1. ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ซึ่งมิได้ทำงานในสถานบริการนั้นเข้าไปในสถานบริการระหว่างเวลาทำการ 2.ไม่ตรวจเอกสารราชการที่มีภาพถ่ายและระบุอายุของผู้ซึ่งเข้าไปในสถานบริการ 3.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี 4.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร 5. จำหน่ายสุราให้แก่เด็ก และได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร มีคำสั่งปิดผับทั้ง 2 แห่งนี้เป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 ต่อไป
ด้านนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สํานักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่มีการออกปฏิบัติการจับกุมสถานบันเทิงมาทั่วประเทศยังไม่เคยพบมีเด็กและเยาวชนมากมากเกือบ 300 คนมาก่อน ครั้งนี้ถือว่ามากที่สุดเท่าที่มีการตรวจค้นจับกุมสถานบันเทิงมา ซึ่งผับที่ถูกจับกุมทั้ง 2 แห่งนี้เป็นสถานบริการที่ได้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ แต่กลับละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของผู้รับอนุญาตตามที่กฎหมายกำหนด ด้วยการปล่อยปละละเลยให้เยาวชนเข้ามาใช้บริการ ซึ่งที่ผ่านมาเคยเกิดปัญหาเยาวชนทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง จากการจับกุมในครั้งนี้พบความผิดชัดแจ้ง เรื่องการปล่อยปละละเลยให้เยาวชนเข้าใช้บริการ โดยไม่ได้คำนึงถึงข้อห้ามตามกฎหมาย ทำให้เกิดปัญหาเยาวชนมีพฤติกรรมเสี่ยง ดังนั้นแม้ร้านจะมีใบอนุญาตแต่หากไม่ทำหน้าที่ของผู้รับอนุญาต ก็จะต้องถูกสั่งปิด 5 ปี อย่างแน่นอน.