หนุ่มวัย 25 ปี เรียนจบ “วิศวกร” กลับบ้านเกิดสานฝันตัวเองจับจอบจับเสียมเป็น “เกษตรกร” ปลูกพืชผักอินทรีย์ 100% เพื่อสุขภาพ ขายดิบขายดีมีรายได้งาม ชีวิตมีความสุข
นายศุภวิชญ์ สง่าวงษ์ อายุ 25 ปี อาศัยอยู่พื้นที่หมู่ที่ 13 ตำบลท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมการผลิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ กรุงเทพมหานคร ช่วงใช้ชีวิตระหว่างเรียนในเมืองหลวง ต้องนั่งรถไปกลับจากที่พักอาศัยกับมหาวิทยาลัยฯวันละหลายชั่วโมง พบเห็นความแออัดวุ่นวายของสังคมที่มีผู้คนมากมาย จนรู้สึกเบื่อหน่ายกับสังคมคนเมือง เมื่อเรียนจบทำให้รู้สึกไม่อยากทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานครเมืองหลวงแห่งนี้อีกแล้ว จึงหันหน้ากลับบ้านเกิดที่ จ.ชุมพร เพื่อพลิกผืนแผ่นดินของพ่อแม่ทำเกษตรทฤษฏีใหม่ปลูกพืชผักไร้สารพิษตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ตามที่ตลาดต้องการ ซึ่งสามารถขายได้เองและกำหนดราคาเองได้
ทรัพย์สมบูรณ์ ชุมพร(กดดูสินค้า)
นายศุภวิชญ์หนุ่มวิศวกรกล่าวว่าด้วยความที่ตนเองเรียนจบทางด้านวิศวกรมาไม่มีความรู้ทางด้านการเกษตรเลย จึงพยายามศึกษาหาข้อมูลความรู้ด้านการทำเกษตร และไปอบรมตามโครงการของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้ความรู้แก่เกษตรกร หลังมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการเกษตร จากนั้นได้เริ่มลงมือทำแปลงเกษตรบนที่ดินจำนวน 6 ไร่ ของพ่อแม่ โดยจะแบ่งพื้นที่สำหรับปลูก ชะอม กล้วย ,เสารส ,หม่อน และพื้นที่ทำนาข้าวกับบ่อเลี้ยงปลา รวมจำนวน 5 ไร่ เหลืออีก 1ไร่ สำหรับปลูกพืชผักที่โตเร็วใช้เวลาสั้นๆไม่นานก็เก็บเกี่ยวนำไปขายสร้างรายได้ไว้เป็นทุนหมุนเวียนช่วงระหว่างที่บ่อเลี้ยงปลาและพืชผลชนิดอื่นๆที่ต้องใช้เวลานานยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผิตได้
นายศุภวิชญ์กล่าวว่าหลังตนเรียนจบวิศวกรและได้กลับบ้านมายึดอาชีพเกษตรกรที่บ้านเกิดได้ประมาณ 2 ปีแล้ว พืชผักที่ตนปลูกขายเป็นเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษมีหลายชนิด อาทิ คะน้า,ผักสลัด,กวางตุ้ง และผักอื่นๆตามที่ตลาดต้องการ ผักแต่ละชนิดใช้ระยะเวลาปลูกประมาณ 35-60 วัน ก็เก็บเกี่ยวไปขายเป็นเงินทุนหมุนเวียนได้แล้ว การทำเกษตรอินทรีย์ของตนปัจจุบันได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดและประชาชนทั่วไป ส่วนราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลผลิตซึ่งเราจะเป็นผู้กำหนดราคาเองทั้งหมด พืชผักแต่ละชนิดราคาไม่เท่ากัน เช่น คะน้า ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 [บาท ผักสลัดกิโลกรัมละ 200 บาท และกวางตุ้งกิโลกรัมละ 80 บาท แต่ผลผลิตยังไม่สามารถออกมาไม่ทันต้อความต้องการของผู้บริโภค
“ผมเรียนจบด้านวิศวกรจึงได้นำเอาความรู้จากวิชาที่เรียนมาปรับปรุงประยุกต์ใช้กับการทำการเกษตรทฤษฏีใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยเลือกสิ่งที่มีความเหมาะสมเชื่อมโยงที่จะดึงมาใช้ให้เหมาะสมกับงานได้ ที่สำคัญการที่เราได้ลงมือทำอะไรที่เราไม่เคยทำมาก่อนเมื่อเจอกับปัญหา เราจะต้องเรียนรู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น และหาทางออกให้กับมันได้” นายศุภวิชญ์กล่าว
สำหรับผลผลิตทางการเกษตรทฤษฏีใหม่แนวทางตามเศรษฐกิจพอเพียงของนายศุภวิชญ์ หนุ่มวัยเพียง 25 ปี ผู้เรียนจบวิศวกร แต่หันหลังให้กับอาชีพวิศวกรที่หลายคนไผ่ฝันถือเป็นอาชีพที่มั่นคงสร้างรายได้ก้อนงามให้กับตนเอง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับความเป็นจริงในวันนี้ จากการพลิกผันชีวิตตนเองมาเป็นเกษตรกรอยู่บ้านนอกใน จ.ชุมพร ทำให้ไม่เครียด มีอากาศบริสุทธิ์ สุขภาพดีขึ้น แถมรายได้จากการทำเกษตร ปลูกพืชหมุนเวียนไปตามฤดูการตามความต้องการของตลาด เมื่อเก็บผลผลิตออกขายเฉลี่ยรายได้แล้ว เงินเดือนวิศวกรนั้นอายไปเลยทีเดียว.
สตอรี่ทราเวลกรุ๊ป (กดอ่านรายละเอียด)
ตลอด 2 ปีที่นายศุภวิชญ์ มุ่งมั่นตั้งใจทำเกษตรทฤษฏีใหม่ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จนประสบความสำเร็จผลผลิตมีคุณภาพเป็นที่ชื่อถือของลูกค้าทั่วไป สามารถร้างรายได้อย่างงามจนลืมอาชีพวิศวกรที่ร่ำเรียนมา และพร้อมที่จะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และชาวบ้านทั่วไปที่สนใจอยากจะเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรทฤษฏีใหม่ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง สามารถแวะเวียนไปศึกษาดูงานพูดคุยกับ นายศุภวิชญ์ สว่าวงษ์ หรือ “ไนท์” จากหนุ่ม “วิศวกร” มาเป็น “เกษตรกร” คนรุ่นใหม่ได้ที่บ้านหมู่ที่ 13 ตำบลท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หรือโทรศัพท์สอบถาม โทร 084-5569134 จะมีคำตอบให้กับทุกๆคน.