สลดหนุ่มดำหอยขมใต้ศาลาสะพานชมกวางหนองใหญ่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด โชคร้ายกระชังใส่หอยที่ผูกติดกลางหลังกับเชือกไปพันติดขัดกับตอม่อเหล็กเส้นเสาเข็มจนดิ้นไม่หลุดจมน้ำตาย
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 13 ก.พ.63 ร.ต.ท.ณัฐชัย พูลศรีสังข์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งมีคนจมน้ำอยู่ใต้ศาลาสะพานชมกวางแก้มลิงหนองใหญ่ หมู่ 12 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยนักประดาน้ำหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร นักประดาน้ำหน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน
ที่เกิดเหตุบริเวณสะพานไม้ที่สร้างอยู่ในน้ำเลียบริมตลิ่งยาวกว่า 50 เมตร เพื่อเดินชมและให้อาหารกวางที่อาศัยอยู่ในป่าละเมาะกว่า 100 ตัว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอันดับหนึ่งของจังหวัด โดยมีนักท่องเที่ยวพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านกำลังมาเที่ยวอยู่จำนวนมาก จุดเกิดเหตุที่กลางสะพานซึ่งทำเป็นศาลาทรงกลมกลางน้ำเพื่อนั่งพักผ่อน ใต้ศาลามีคนหาดำลงไปหาหอยขมจมอยู่ยังหาตัวไม่พบทราบชื่อคือ นายปัญญา คลีเกสร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 9 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร
โดยใต้ศาลาชมกวางมีลักษณะเป็นโพรงระดับน้ำลึกกว่า 2 เมตร นักประดาน้ำดำลงไปค้นหานานประมาณ 20 นาที จนพบศพผุตายอยู่ในชุดประดาน้ำสีดำ ที่กลางหลังมีกระชังอวนตาข่ายปากทรงสี่เหลี่ยมทำด้วยท่อพีวีซีสำหรับใส่หอยขมมัดติดอยู่ ภายในมีหอยขมประมาณ 3 กิโลกรัม ไปติดขัดอยู่กับช่องระหว่างตอม่อและเสาเข็มและปลายเชือกในล่อนจากกระชังยาวเกือบ 1 เมตร ไปพันติดทับแน่นอยู่อีกชั้น นักประดาน้ำต้องใช้มีดตัดออกและนำเอาศพขึ้นมา ท่ามกลางความเศร้าโศกร่ำไห้เสียใจของ นางประภาพร คลี่เกสร อายุ 42 ปี ภรรยาผู้ตายและญาติพี่น้องที่มาดูเหตุการณ์
จากการสอบสวน นายนพรินทร์ นาพิรุณ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 8 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ให้การว่าเป็นเพื่อนกับผู้ตายโดยตนได้มาดำหาหอยขมและเจอมาเจอกันที่สะพานชมกวางตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมาและเห็นนายปัญญาผู้ตายครั้งสุดท้ายขณะดำน้ำเข้าไปหาหอยใต้ศาลากลางน้ำ ส่วนตนไปดำหาอีกจุดหนึ่งที่ไม่ไกลกันมากนัก หลังจากนั้นผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมง ก็ไม่เจอกันอีกเลยตนจึงออกตามหาก็ไม่พบคิดว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นแล้ว จึงบอกชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆให้ช่วยตามหาก็ไม่เจอ และได้แจ้งไปที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้มาช่วยค้นหาจนพบศพติดอยู่ใต้ศาลาดังกล่าว
จากการชันสูตรศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายมีน้ำเต็มปอดคาดว่าจมน้ำตาย ส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่า นายปัญญามีอาชีพดำหอยขมเพื่อนำไปขายตามตลาดนัด ช่วงเกิดเหตุได้ดำน้ำเข้าไปใต้ศาลาชมกวางเพื่อเก็บหอยขมที่เกาะอยู่จำนวนมาก ซึ่งใต้ศาลเป็นโพรงมีตอม่อ มีเสาเข็มและเหล็กเส้นจากการก่อสร้างอยู่จำนวนมาก ทำให้กระชังใส่หอยที่มัดติดอยู่กลางหลังไปติดขัดกับเสาเข็มและตอม่อผู้ตายพยายามดิ้นรนทำให้ปลายเชือกในล่อนที่ยาวออกมาเกือบ 1 เมตร พันทับอีกชั้นจนติดแน่นจนไม่สามารถดิ้นรนออกมาได้ทำให้จมน้ำตายดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานเพิ่มเติมเพื่อสรุปหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป.