วอนช่วยแม่เฒ่าอายุ 84 ปีกับลูกสาววัย 56 ปี ที่ป่วยเป็นโรคเลือดยึดอาชีพเหลาไม้กวาดก้านมะพร้าวขายโรงงาน มีรายได้วันละ 30-50 บาทใช้ประทังชีวิต ต้องตกงานเข้าไม่ถึงระบบเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ทางออนไลน์ มีแค่มือถือรุ่นเก่าไม่รู้จักอินเตอร์เน็ต
วันที่ 12 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับ นางห้อง เดชอำนาจ อายุ 84 ปี และนางสาวประไพ วงศ์จีน อายุ 56 ปี ทั้งสองคนเป็นแม่ลูกกันอยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ที่ 6 ตำบลหาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้หลังเล็กสภาพเก่าสร้างมานานหลายปีแล้ว หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงว่าทั้งสองแม่ลูกมีชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบากฐานะยากจน แม่ก็ชรามากแล้วส่วนลูกสาวก็ป่วยไม่สบายต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ ต่อสู้ชีวิตทำงานหาเช้ากินค่ำรับจ้างเหลาไม้กวาดก้านมะพร้าวส่งขายโรงงานและรับจ้างทั่วไปมีรายได้วันละไม่ถึง 100 บาท มาวันนี้ต้องตกงานได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะโรงงานปิด สถานประกอบการหยุด และเคราะห์ซ้ำเพราะยังใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าใช้สำหรับโทรออกและรับสายโทรเข้าเท่านั้น ไม่เคยเล่นอินเตอร์เน็ตและไม่รู้จักว่าระบบออนไลน์คืออะไร จึงไม่สามารถเข้าถึงระบบออนไลน์ในการช่วยเหลือเยียวยาของรัฐบาลตามโครงการคนไทยไม่ทิ้งกัน
นางห้อง เดชอำนาจ อายุ 84 ปี กล่าวว่าสามีตนเสียชีวิตมานานกว่า 20 ปีแล้ว ปัจจุบันอาศัยอยู่กับลูกสาวสองคน เมื่อก่อนตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไปแต่ระยะ 5-6 ปีมานี้ตนอายุมากแล้วจึงต้องหันมาทำงานอยู่กับบ้านโดยการเหลาไม้กวาดทางมะพร้าวส่งขายโรงงาน โดยมีลูกสายอายุ 56 ปี เป็นคนออกไปหาทางมะพร้าวตามสวนชาวบ้านมาให้ตนทำที่บ้าน ส่วนลูกสาวก็ออกไปรับจ้างตากหมึกแห้งบ้าง รับจ้างเลือกปลาตามแพปลาบ้าง ช่วงหลังลูกสาวตนทำงานหนักไม่ได้เพราะเป็นโรคเลือดธาลัสซีเมีย ต้องไปถ่ายเลือดและรักษาตัวที่โรงพยาบาลชุมพรและที่โรงพยาบาลศูนย์ใน จ.สุราษฏร์ธานี โดยมีชาวบ้านคอยช่วยเหลือพาไปบางครั้งก็ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนตนก็จะอยู่บ้านตามลำพังเพียงคนเดียว
นางห้องกล่าวว่าตนอายุมากแล้วลูกสาวก็ป่วยไม่ค่อยสบายได้ยึดอาชีพเหลาไม้กวาดทางมะพร้าวส่งขายโรงงานมีรายได้วันละ 30-50 บาทเท่านั้น และมีรายได้จากเบี้ยยังชีพคนชราอีกเดือนละ 800 บาท นอกนั้นไม่มีรายได้อื่นเลย มาตอนนี้ทั้งตนและลูกสาวต้องตกงานเพราะโรงงานปิดไม่รับซื้อไม้กวาดก้านมะพร้าว และงานรับจ้างทั่วไปก็ไม่มี แต่ค่าใช้จ่าย ค่ากิน และค่าเดินทางที่ลูกสาวต้องไปตรวจรักษาสุขภาพเป็นประจำเกือบทุกเดือนตามที่หมอนัดก็ไม่มีแล้ว แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่ยังมีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือ
ด้านนางสาวประไพ วงศ์จีน อายุ 56 ปี ผู้เป็นลูกสาวกล่าวว่าตนเป็นโรคเลือดธาลัสซีเมียต้องไปหาหมอตามนัดเป็นประจำต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จำเป็นหลายอย่าง หากครั้งใดต้องนอนโรงพยาบาลก็รู้สึกสงสารแม่มากที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว และแม่ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงตน ส่วนกรณีที่รัฐบาลให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ตนคงหมดปัญหาเพราะตนใช้โทรศัพท์มือถือแบบธรรมดาlสำหรับโทรออกและรับสายเท่านั้นและตนไม่เคยรู้เลยว่าอินเตอร์เขาเล่นกันอย่างไร จึงไม่สามารถเข้าถึงระบบการลงทะเบียนรับเงินเยียวยาทางออนไลน์ของรัฐบาลได้
ขณะที่นางสมพร ชนะภัย อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านกล่าวว่าชีวิตของสองแม่ลูกนี้มีความลำบากน่าสงสารจริงๆ ซึ่งญาติพี่น้องเขาก็มีแต่ทุกคนก็ต้องรับจ้างทำงานเลี้ยงดูแลครอบครัวเขาเหมือนกัน เราเป็นเพื่อนบ้านข้างเคียงที่ใกล้ชิดก็ต้องค่อยช่วยเหลือเพราะความสงสารสองแม่ลูก ตนทำงานโรงแรมช่วงนี้ก็ตกงานเพราะโรงแรมปิดกิจการเงินเดือนก็ไม่ได้ ตนลงทะเบียนขอรับการเยียวยาก็ไม่ได้ ขณะที่คนมีฐานนะและคนไม่ทำงานเที่ยวเตร่กลับลงทะเบียนได้รับการเยียวยา จึงไม่ทราบว่าเขาใช้วิธีคัดเลือกแบบไหนรู้ข้อมูลจริงหรือไม่ และยังมีคนที่เข้าไม่ถึงระบบออนไลน์แบบสองแม่ลูกในประเทศไทยนี้อีกจำนวนมากที่ไม่ได้รับการเยียวยา จึงอยากให้รัฐบาลใช้กลไกของอำนาจรัฐสำรวจตรวจสอบข้อมูลชาวบ้านในแต่ละพื้นที่ให้ชัดเจนเพื่อจะได้รับการเยียวยาอย่างทั่วถึง
สำหรับผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือนางห้อง เดชอำนาจ อายุ 84 ปี และลูกสาว สามารถให้การช่วยเหลือบริจาคได้โดยตรงที่หมายเลขบัญชี 010192449915 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาชุมพร