พิษโควิด-19 “ลุงอ๊อด”เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ต้องทำใจฟาร์มปูนิ่มเคยขายได้เดือนละ 5-6 แสน ตอนนี้ไม่ได้แม้แต่บาทเดียว ยอมรับในชะตากรรม ต้องฝ่าฟันและร่วมกันยุติโรคร้ายโดยเร็วเพื่อกลับมาเริ่มต้นใหม่
วันที่ 15 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ฟาร์มอ๊อดปูดำ เลขที่ 9/3 หมู่ 2ตำบลหาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร พบกับ นายสมปอง หรือลุงอ๊อด อายุ 62 ปี เป็นเกษตรกรดีเด่น 4 ปี ได้แก่ปี พ.ศ.2552 ,2553 , 2557 ,2560 และรางวัลต่างๆอีกมากมาย จนได้รับการยกย่องเป็นปราชญ์ชาวบ้าน ปัจจุบันยึดอาชีพเป็นเจ้าของฟาร์มปูดำดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ขายได้วันละหลายหมื่นตกรายได้เดือนละหลายแสนบาท หลังจากได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ฟาร์มปูดำแห่งนี้แทบร้าง ขายไม่ได้เพราะไม่มีผู้ประกาบการ โรงงาน พ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อ ส่งผลให้ต้องเลิกจ้างแรงงานไปกว่า 30 คน
นายสมปอง หรือลุงอ๊อด กล่าวว่าสมัยก่อนตนยากจนเรียนจบ ป.4 แต่เรียนถึง 5 ปีจึงจะจบ ทุกวันนี้เขียนหนังสือไม่ได้ อ่านไม่ออก ใช้ความจำเพียงอย่างเดียว เริ่มทำฟาร์มเลี้ยงดำมานานเกือบ 30 ปี ทำเป็นปูนิ่มและปูเนื้อขายโดยครั้งแรกทดลองเลี้ยงด้วยตนเองตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงในหลวง ร.9 เลี้ยงจากปูดำเพียงไม่ถึง 100 ตัว จนปัจจุบันมีปุดาประมาณ 24,000 ตัว มีทั้งปูเนื้อ ปูไข่ และปูนิ่ม ส่วนพ่อแม่พันธุ์ก็เพาะเลี้ยงเองและก็รับซื้อจากชาวบ้านในพื้นที่ด้วย
นายสมปองกล่าวว่าก่อนหน้านี้มีตนมีขายปูนิ่มและปูเนื้อได้วันละหลายหมื่นบาท เฉลี่ยเดือนละ 5-6 แสนบาท แต่หลังจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมาตอนแรกๆตนขายได้หลักร้อยหลักพันจนมาทุกวันนี้ขายไม่ได้เลยแม้แต่บาทเดียว ส่วนคนงานกว่า 30 คนก็ให้หยุดพักงานไว้ก่อน ตอนนี้ทำเฉพาะปูนิ่มเพราะนำไปเก็บอัดแช่แข็งไว้ได้เพราะบางวันก็ยังพอขายได้บ้างเล็กๆน้อยส่วนปูเนื้อจะขายไม่ได้เลย และส่วนหนึ่งก็แจกชาวบ้านไปเพราะเขาก็ตกงานไม่มีจะกินครอบครัวเดือดร้อนเหมือนกัน
“สรุปแล้วตอนนี้ปูที่อยู่ในฟาร์มมูลค่ากว่า 2 ล้านบาทแน่นอนต้องทำใจยอมรับสภาพเจ้งหมดตัว เพราะปัญหาที่เกิดเราโทษใครไม่ได้เลยเราต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้โควิด-19 แพร่ระบาดโดยเร็ว เมื่อพ้นวิกฤติเราก็ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่” ลุงอ๊อด กล่าว.