ชาวบ้านบริจาคร่วม 3 แสน ช่วยเหลือแม่เฒ่าวัย 84 ปีกับลูกสาวอายุ 56 ปี ฐานะยากจน มีรายได้เหลาไม้กวาดก้านมะพร้าวขายวันละ 30-50 บาท โรงงานรับซื้อปิดต้องตกงาน เดือดร้อนไม่ได้รับเงิน 5 พัน “คนไทยไม่ทิ้งกัน” เพราะเข้าไม่ถึงระบบออนไลน์เยียวยาผลกระทบโควิด-19
จากกรณี นางห้อง เดชอำนาจ อายุ 84 ปี และนางสาวประไพ วงศ์จีน อายุ 56 ปี ทั้งสองคนเป็นแม่ลูกกันอยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ที่ 6 ตำบลหาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้หลังเล็กสภาพเก่าสร้างมานานหลายปีแล้ว มีชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบากฐานะยากจน ผู้เป็นแม่ก็แก่ชรามากแล้วมีโรคประจำตัวหลายอย่างทั้งโรคข้อกระดูกเดินไม่ค่อยได้ ส่วนลูกสาวก็ป่วยเป็นโรคเลือด ธาลัสซีเมีย ทั้งสองต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ ต่อสู้ชีวิตทำงานหาเช้ากินค่ำรับจ้างเหลาไม้กวาดก้านมะพร้าวส่งขายโรงงานมีรายได้วันละ 30-50 บาท ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะโรงงานปิดไม่รับซื้อไม้กวาด แถมเคราะห์ซ้ำใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าสำหรับโทรออกและรับสายโทรเข้าเท่านั้น ไม่เคยเล่นอินเตอร์เน็ตและไม่รู้จักว่าระบบออนไลน์คืออะไร จึงไม่สามารถเข้าถึงระบบออนไลน์ในการช่วยเหลือเยียวยา 5,000 บาท สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลโครงการคนไทยไม่ทิ้งกัน ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าววันที่ 27 เมษายน 2563 นางห้อง เดชอำนาจ อายุ 84 ปี และนางสาวประไพ วงศ์จีน อายุ 56 ปี สองแม่ลูกเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าขอขอบพระคุณชาวชุมพรและคนไทยทั่วประเทศ หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวเรื่องราวชีวิตของเราสองแม่ลูกได้มีผู้ใจบุญนำสิ่งของมามอบให้กับครอบครัวตนเป็นจำนวนมากและส่วนหนึ่งตนก็ได้นำไปแจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้านที่เขาเดือดร้อนด้วย
นางสาวประไพผู้เป็นลูกสาวกล่าวต่อว่า หลังจากสื่อนำเลขบัญชี 010192449915 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาชุมพร ซึ่งเป็นสมุดบัญชีธนาคารของแม่ตนไปลงข่าวเผยแพร่ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2563 ที่ผ่านมาได้มีชาวชุมพรและคนไทยจากทั่วประเทศโอนเงินเข้ามาจำนวนมาก โดยตนและแม่ได้นำสมุดธนาคารไปอัพยอดเงินเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา มีเงินโอนเข้ามาจำนวน 232,501 บาท และตนได้เบิกออกมา 8 หมื่นบาท เพื่อจัดซื้อวัสดุและจ้างช่างมาสร้างห้องน้ำใหม่เพราะห้องน้ำเก่าพังชำรุดโทรมอย่างมาก และใช้จ่ายอื่นๆที่จำเป็นอีกจำนวนหนึ่ง เหลือเงินอีกประมาณ 3 หมื่นได้นำไปฝากเข้าบัญชีธนาคารไว้เหมือนเดิมแล้ว
นางสาวประไพ กล่าวต่อว่ายอดเงินทั้งหมดนั้นได้ไปอัพบัญชีธนาคาร เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมามีมากกว่า 2 แสนบาท และวันนี้วันที่ 27 เมษายน ตนยังไม่ได้ไปตรวจสอบคาดว่าเงินน่าจะมีมากถึง 3 แสนบาท ตนและแม่ขอฝากผ่านนักข่าวขอบคุณทุกสื่อที่นำเรื่องราวของครอบครัวไปนำเสนอ ขอบพระคุณชาวชุมพรและคนไทยทั่วประเทศ ตนจะไม่ลืมบุญคุณเงินทุกบาททุกสตางค์ตนละแม่จะเก็บไว้ใช้ยามแก่เฒ่าใช้จ่ายอย่างประหยัดไม่ฟุ่มเฟือยให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคทุกๆคน.