วัดเผาศพโควิด-19 ได้รับผลกระทบหนักโดนปล่อยข่าวเป็นแหล่งแพร่เชื้อทำญาติโยมกลัว ส่วนสัปเหร่อ-เมีย ถูกรังเกียจไม่กล้าออกไปไหนถึงกับเครียดคิดสั้นชวนกันผูกคอตาย แต่โชคดีหลวงพ่อเตือนสติไว้ ผอ.สำนักพุทธศาสนา วอนผู้นำชุมชน สังคม ขอให้เข้าใจด้วย
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 30 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดสุวรรณนัทธี (คูขุด) หมู่ที่ 3 ตำบลบางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร พบกับพระครูปลัดธัญภูวริษฐ์ โชติปัญโญ เจ้าอาวาสวัด นายปรีชา ทองกระจาย ไวยาวัจกรวัด นางสาวนันทิรา ขวัญเมือง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ชุมพร นายสมปอง อุทุมรัตน์ สัปเหร่อวัด และชาวบ้านรวมกว่า 10 คน ได้นั่งปรึกษาหารือถึงผลกระทบจากปัญหาที่วัดแห่งนี้ได้รับเผาศพผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 เมษายน 63 ที่ผ่านมา
จากกรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อวัดและสัปเหร่อวัด เนื่องจากมีผู้นำท้องถิ่นและนักการเมืองบางคนได้ไปพูดยุยงปลุกปั่นตามชุมชนต่างๆ ว่าวัดดังกล่าวอาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคร้ายเนื่องจากฝุ่นควันและละอองจากเมรุเผาศพได้ฟุ้งกระจายตามอากาศไปทั่ว และยังได้โจมตีเจ้าอาวาสวัดว่ายอมให้มีการเผาศพเพราะได้รับเงินมาจำนวนมาก จนทำให้ชาวบ้านในตำบลบางหมากและพื้นที่ใกล้เคียงหวาดกลัวและไม่กล้าเข้าวัด โดยเฉพาะวันพระที่เพิ่งจะผ่านไปได้มีชาวบ้านเข้าวัดทำบุญฟังธรรมเพียง 3 คนเท่านั้น จากที่ปกติที่เคยมีเป็นจำนวนมาก ภายหลังพูดคุยปัญหา ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ชุมพร ได้กราบขออภัยต่อเจ้าอาวาส และสัปเหร่อวัด ที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมาและที่จะได้สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านต่อไป
นางสาวนันทิรา ขวัญเมือง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ชุมพร กล่าวว่าก่อนหน้านี้ได้มีการเตรียมการจัดหาวัดไว้สำหรับเผาศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยทุกวัดใน จ.ชุมพร ให้ความร่วมมือทั้งหมด ในส่วนชุมพรตอนบนทางจังหวัดได้เลือก 2 แห่ง คือวัดโพธิการาม หรือวัดโพธิ์ อยู่ในเขตเทศบาลเมืองชุมพร และวัดสุวรรณนัทธี หรือวัดคูขุด ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 2 ศพ โดยศพแรกได้ฌาปนกิจที่วัดโพธิการาม ซึ่งก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะชาวบ้านและผู้นำในท้องที่มีความเข้าใจดี เพราะที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏมีใครติดเชื้อจากศพที่เผาตามวัดต่างๆเลยแม้แต่รายเดียว
นางสาวนันทิรากล่าวว่าสำหรับศพที่ 2 นั้นนำไปฌาปนกิจที่วัดสุวรรณนัทธี หรือวัดคูขุด เนื่องจากวัดโพธิการามมีพิธีงานศพของชาวบ้าน โดยพิธีการเผาศพของผู้เสียชีวิตรายนี้จะมีเพียงญาติๆ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้เกี่ยวข้องเพียงไม่กี่คนเท่านั้น การเผาศพก็จะทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องตั้งแต่ดูแลร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี ก่อนนำศพออกจากโรงพยาบาลจะถูกฆ่าเชื้อหมดแล้ว ร่างผู้เสียชีวิตก็จะบรรจุในถุงซิปหนา 3 ชั้น และฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อทั้งหมด มีการเผาศพด้วยความร้อนสูงเชื้อก็จะตายหมดแล้ว และศพผู้ติดเชื้อนั้นหลังจากเสียชีวิตเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆของร่างกายก็จะหยุดทำงาน จากนั้นไม่นานเชื้อโรคเหล่านั้นก็จะตายตามไปด้วย จึงขอให้สบายใจได้และขอให้ผู้นำให้ความรู้ความเข้าใจแก่ชาวบ้านด้วยอย่าไปพูดในทำนองให้เกิดความกลัวความเข้าใจที่ผิดๆ เราควรจะมีมนุษยธรรมให้กับผู้ตายและญาติเขา และวัดก็ไม่ได้รับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นทุกอย่างทำฟรีทั้งหมดไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ด้ายนายปรีชา ทองกระจาย ไวยาวัจกรวัดคูขุด กล่าวว่าตนไม่ขอพูดถึงต้นตอของคนที่ปล่อยข่าวสร้างความแตกแยกในท้องถิ่นว่ามาจากใครเพราะชาวบ้านทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว ตนอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเช่นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ลงมาในพื้นที่แล้วให้ชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องกับชาวบ้าน ตนคิดว่าปัญหาผลกระทบจากการปลุกปั่นสร้างกระแสความแตกแยกก็จะลดลงได้
ขณะที่ นายสมปอง อุทุมรัตน์ อายุ 73 ปี สัปเหร่อวัด และนางประภา อุทุมรัตน์ อายุ 58 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 ตำบลบางหมาก ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน กล่าวว่านับตั้งแต่วันเผาศพผู้ป่วยโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 เมษายน 63 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ครบ 14 วันแล้ว ครอบครัวตนได้รับผลกระทบมากมาย ทั้งๆที่ในพิธีเผาศพส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขจะเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ส่วนตนอยู่ห่างๆและคอยช่วยเหลือเติมฟืนไฟเท่านั้น จนถึงวันนี้ชาวบ้านมองตนด้วยความรังเกียจไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ตนและคนในครอบครัวตนด้วย ตนไปนั่งร้านกาแฟคนก็จะลุกเดินหนีไปจนหมด จนทุกวันนี้ตนอยู่นอนแต่บ้านไม่กล้อออกไปไหนอีกเลย
สองสามีภรรยากล่าวต่อว่าเราสองคนเคยคิดชวนกันผูกคอฆ่าตัวตายด้วยกันเพื่อหนีปัญหาทุกอย่างจะได้จบ เพราะอยู่ไปก็ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้มีแต่คนรังเกียจเหมือนกลัวติดโรคร้าย แต่ก็ได้ข้อคิดเตือนสติจากพระครูปลัดธัญภูวริษฐ์ โชติปัญโญ เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ จึงทำให้ไม่คิดสั้นและยืนต่อสู้กับความจริงต่อไปและอีกไม่นานมันก็จะผ่านไปได้ จึงไม่คิดสั้นฆ่าตัวตายอีกเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีดังกล่าวปัญหาเกิดจากได้มีผู้นำท้องถิ่นบางคน นักการเมืองในพื้นที่บางคนที่มีความขัดแย้งกับทางวัด ได้ไปพูดกับชาวบ้านในชุมชนต่างๆทั้งพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวและพูดผ่านไมค์โครโฟน โดยมีชาวบ้านได้ใช้มือถือแอบถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน โดยในคลิปมีการกล่าวหาว่าเจ้าอาวาสวัดสุวรรณนัทธี หรือวัดคูขุดแห่งนี้ รับเผาศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อาจจะกลายเป็นปัญหาแพร่เชื้อสู่ชุมชนได้จากควันที่คลุ้งกระจายไปทั่ว และยังมีการพูดกล่าวโจมตีต่างๆนาๆ จนเป็นต้นเหตุให้ชาวบ้านพากันหวาดกลัวไม่กล้าเข้าวัด และยังส่งผลกระทบถึงสัปเหร่อวัดและครอบครัวจนเกือบคิดสั้นผูกคอตายดังกล่าว
จากกรณีดังกล่าวขณะนี้นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร ได้มีหนังสือสั่งการให้ นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมืองชุมพร ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นพร้อมกับให้เข้าพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านแล้ว.