หนึ่งเดียวของจังหวัด นายก อบต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ยังคงตรึงพื้นที่งดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หวั่นโควิด-19 หวนกลับมาหนักกว่าเดิม ในขณะที่เครือข่ายงดเหล้า ย้ำการควบคุมเหล้าและบุหรี่ ควรเป็น new normal
วันที่ 14 พ..63 นายเทิดศักดิ์ ขนอม นายก อบต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร กล่าวว่า ที่ตำบลเขาค่ายเป็นชุมชนใหญ่ มีประชาชนอาศัยจากหลากหลาย ต่างถิ่นต่างที่เข้ามาอยู่รวมกัน จึงเป็นตำบลที่มีความเสี่ยงสูงจากการเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ต้องมีมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างเข้มแข็ง โดยนโยบายจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เรื่องห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เริ่มวันที่ 12 เม.ย.62 ที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่ดีมากทำให้ปัญหาต่างๆ ในชุมชนลดลง ครอบครัวอยู่กันอย่างสงบ ไม่เดือดร้อนเลย เราจึงมีการขอความร่วมมือแบบเชิงรุกจัดทำป้าย “ร้านนี้ไม่ขายเหล้า” ติดประกาศไว้หน้าร้านค้าทุกร้านที่ขายเหล้ากว่า 40-50 แห่ง ซึ่งเห็นด้วยกันกรณีดังกล่าวเพราะจะลดความเสี่ยงในชุมชน
นายเทิดศักดิ์ กล่าวต่อว่าภายหลังจากรัฐบาลประกาศให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้แต่ยังคงให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในการออกคำสั่งห้ามขายหรือให้ขายได้ในแต่ละจังหวัด โดยระยะแรกได้มีจังหวัดที่ผู้ว่าฯได้ประกาศห้ามขายต่อถึง 10 จังหวัด ต่อมา ณ วันที่ 11 พ.ค.63 เหลืออยู่เพียงจังหวัดเดียวเท่านั่นคือจังหวัดบุรีรัมย์
นายเทิดศักดิ์ กล่าวต่อว่าอย่างไรก็ตามในส่วนของตำบลเขาค่าย ได้ร่วมรณรงค์กับองค์กรเครือข่ายงดเหล้า และ สสส. มาตั้งแต่ปี 2557 ปัจจุบันเรามี “ชมรมคนหัวใจเพชร” โดยทุกคนที่เป็นสมาชิกสามารถเลิกเหล้าได้แล้วตลอดชีวิต โดยมีตนเป็นประธานชมรมฯ หลังจากที่ทราบว่าทางจังหวัดชุมพรไม่ได้ต่อเวลาห้ามขายออกไปอีก ตนจึงได้หารือร่วมกับผู้นำชุมชน อสม. และชมรมคนหัวใจเพชร ซึ่งต่างก็เห็นพ้องกันว่าเราควรขอความร่วมมือร้านค้าต่างๆไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อไปจนกว่าจะแน่ใจว่าปัญหาปการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จะดีขึ้นกว่านี้ ในส่วนของผู้ประกอบการค้าขายเองก็ยังไม่ได้มีการเรียกร้องใดๆซึ่งทุกร้านค้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
นายเทิดศักดิ์ กล่าวว่าตอนนี้เราต้องพยายามลดความเสี่ยงต่างๆ และให้ทุกคนดูแลรักษาตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม โดยไม่ประมาท เชื้อโรคไวรัสโควิด-19 อาจจะกลับมาระบาดได้อีก และอาจหนักขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นหากเรายังงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกออล์ ก็อาจจะสามารถชะลอการแพร่ระบาดออกไปได้
“ ส่วนผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากปัญหาไวรัสโควิด-19 ในชุมชนนั้นอาจมีกระทบบ้างด้วยชาวชุมชนเขาค่ายเราจะเป็นเกษตรกร 100 % และเป็นช่วงที่รอผลผลิตอยู่ จึงยังไม่ค่อยเห็นผลกระทบชัดเจนมากนัก สำหรับพ่อค้าแม่ค้าเราจะมีตลาดนัดเล็กๆให้ได้ค้าขายได้ซื้อของ แต่เราจะมีมาตรการดูแลควบคุมการเข้า-ออก เป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างทั่วถึง โดยมีการตรวจวัด และมีเจลล้างมือ ทั้งนี้ร้านค้าต่างๆ ที่ยังขายเหล้าไม่ได้ยังสามารถขายสินค้าอย่างอื่นได้ตามปกติ โดยไม่ได้เดือดร้อนแต่อย่างใด และทุกคนก็ชอบเพราะชุมชนมีความสงบเรียบร้อยไม่วุ่นวาย” นายก อบต.เขาค่ายกล่าว
ด้าน นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่าจากการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระยะเวลาประมาณ 20 วันทั่วประเทศ ทำให้เกิดผลที่ดีตามมามากมาย โดยเฉพาะปัญหาช่วงเทศกาลคืออุบัติเหตุดื่มแล้วขับในช่วงสงกรานต์ ซึ่งผลจากการห้ามขายและงดกิจกรรมรื่นเริงทำให้ลดผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจากการดื่มแล้วขับได้กว่า 76% นอกจากนั้นยังทำให้จำนวนผู้ที่งดการดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นถึง 70% ซึ่งอาจจะเกิดจากการเกรงกลัวเรื่องไวรัสดควิด-19 อย่างไรก็ตามยังมีกลุ่มดื่มแบบสังสรรค์และกลุ่มที่ดื่มเป็นประจำทุกวันที่บ้าน ที่ยังคงไม่ลดการดื่มลง
นายธีระกล่าวว่านโยบายห้ามขายแอลกอฮอล์ ในบางช่วงเวลาเป็นมาตรการที่พิสูจน์ได้ว่าช่วยลดปัญหาได้ โดยกฎหมายควบคุมแอลกอฮอล์ห้ามขายในวันสำคัญทางศาสนา 5 วัน พบว่าปัญหาต่างๆลดลงสอดคล้องกับที่เกิดขึ้นในช่วงห้ามขายที่มีการแพร่ระบาดโควิด ดังนั้นยุคหลังโควิดไปแล้ว การสร้าง new normal ที่ให้สังคมมีความปลอดภัย ส่งเสริมสุขภาพที่ดี รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ควรให้น้ำหนักกับการควบคุมสินค้าแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ต้องเอาจริงเรื่องการโฆษณา การจัดโปรโมชั่น และควรมีมาตรการห้ามขายในช่วงเวลาที่มีปัญหา เช่น เทศกาลสงกรานต์ หรือ ควรต้องลดเวลาขาย และลดจำนวนใบอนุญาตขายลง
“ เรายอมทำทุกอย่างเพื่อสกัดไม่ให้ไวรัสโควิด19 ลุกลามจนระบบการแพทย์เรารับไม่ได้ และทำให้มีผู้เสียชีวิตต่ำมาก ดังนั้น เราควรทำแบบเดียวกันกับสินค้าแอลกอฮอล์และบุหรี่ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อระบบสุขภาพและการเจ็บป่วยเสียชีวิต ในโรค NCD อุบัติเหตุ ความรุนแรงในสังคม ดังนั้น การสร้าง new normal หลังโควิดคือการเข้มงวดกับสินค้าแอลกอฮอล์และบุหรี่” นายธีระกล่าว